"ถอดใจ"จริงหรือ เสียงอื้ออึงก่อนขีดเส้น ยุบสภา กับ พลังพิเศษ"เลือกตั้ง66"

"นายกฯลุงตู่" จะถอดใจแล้วหรือ จะไม่ไปต่อกับ"พรรครวมไทยสร้างชาติ"  และมีแนวโน้มจะวางมือทางการเมืองอย่างถาวร ????

      

ช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังเสร็จศึกสุดท้าย "การอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ"  บรรดาสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรต่างแยกย้ายเดินทางกลับ แต่ทว่าก็มีข่าวลือหนาหูในแวดวงการเมือง รวมทั้งผู้สื่อข่าวสายการเมือง ต้องยกหูสอบถามกันให้แซ่ดว่า "นายกฯลุงตู่" จะถอดใจแล้วหรือ จะไม่ไปต่อกับ"พรรครวมไทยสร้างชาติ" แล้ว และมีแนวโน้มจะวางมือทางการเมืองอย่างถาวร 

 

ข่าวลือแรงถึงขั้นที่ว่ามีการโทรศัพท์สอบถามกันให้วุ่น  "ทีมข่าวเนชั่นทีวี" เพิ่งไปสัมภาษณ์นักการเมืองบ้านใหญ่ในสนามเลือกตั้ง กทม. ระหว่างสัมภาษณ์ยังมีเพื่อนนักการเมืองโทรเข้ามาถามคนที่กำลังสัมภาษณ์ว่าได้ยินข่าวนี้แล้วหรือยัง จากนั้นก็วิเคราะห์กันวุ่นวาย 

 

 

จริงๆ ข่าวลือนี้มีมาหลายครั้งแล้ว ครั้งแรกก็คือช่วงที่นายกฯเผชิญวิกฤติในสภา จะถูกโค่นกลางสภา โดยน่าเชื่อว่า "พี่ใหญ่" มีส่วนรับรู้รับทราบ 

 

ต่อมาก็มีข่าวถอดใจอีกครั้ง ช่วงที่โดนศาลรัฐธรรมนูญสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ กรณีถูกยื่นตีความว่าดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีครบ 8 ปีแล้วหรือยัง ตามนัยแห่งรัฐธรรมนูญมาตรา 158-159 ตอนนั้นข่าวลือแรงมาก แถม "พี่ใหญ่" ก็โชว์ศักยภาพ "นายกฯใจบันดาลแรง" ทำให้ข่าวลือยิ่งมีเค้าเป็นความจริง 

แต่แล้วทุกอย่างเงียบหายไป กระทั่ง"นายกฯ"ตัดสินใจเปิดตัว แสดงจุดยืนเข้าร่วมงานกับพรรครวมไทยสร้างชาติ ให้สัมภาษณ์ชัดเมื่อวันที่ 23 ธ.ค.65 และเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่เมื่อวันที่ 9 ม.ค.66

 

แต่หลังจากนั้นมีข่าว "นายกฯถอดใจ" มาเป็นระยะ เพราะพรรครวมไทยสร้างชาติถูกประเมินจาก "กูรูการเมือง" ว่า "ไม่ปังอย่างที่คิด" 

 

ล่าสุดข่าวมาลือแรงอีกครั้ง ในช่วงปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา 

 

ปัจจัยที่จะทำให้นายกฯถอดใจ - หันหลังกลับ 

 

-กระแสความนิยมส่วนตัวไม่กระเตื้อง 

-กระแสพรรครวมไทยสร้างชาติ จุดไม่ติด

-ทีมบริหารพรรครวมไทยสร้างชาติยังมีประสบการณ์ไม่มากพอ

-ดูด ส.ส.ปัจจุบัน ส.ส.เกรด A ว่าที่ผู้สมัครเกรด A ได้ไม่ตามเป้า 

-ประเมินแล้วแพ้แน่ เพื่อไทยแลนด์สไลด์แน่ 

-กลัวหลังเลือกตั้งต้องทำหน้าที่ฝ่ายค้าน

 

แต่เมื่อมีข่าวลือแรง "เนชั่นโพลิทิกส์พลัส" จึงสอบถามไปยังคนใกล้ชิด"นายกฯ" ​และแกนนำ"พรรครวมไทยสร้างชาติ" ได้คำตอบมาแบบนี้ 

ข้อมูลจากคนในพรรคบอกว่า 

-นายกฯ เข้าประชุมที่พรรค 2-3 ครั้งแล้ว และชอบที่ทำการพรรครวมไทยสร้างชาติอย่างมาก 

-นายกฯเดินดูทุกชั้นของที่ทำการพรรค ทักทายเจ้าหน้าที่พรรคอย่างใกล้ชิด ขอบคุณทุกคนที่อยู่ช่วยกันทำงานจนดึก 

 

-ไม่มีท่าทีถอดใจแม้แต่น้อย 

ขณะที่ "ดร.ธนกร วังบุญคงชนะ" หรือ “ดร.แด๊ก” คนข้างกายนายกฯ บอกด้วยว่า 

-พล.อ.ประยุทธ์ ฮึกเหิมกว่าเก่า

-สัปดาห์หน้าจะมี ส.ส. ลาออกล็อตละ 5-10 คนอีกหลายล็อต เพื่อเข้ารวมไทยสร้างชาติ 

 

 

 

ฟันธงข่าวมั่ว!  “บิ๊กตู่”ไม่ไปต่อการเมือง

 

ข้อมูลนี้สอดคล้องกับนักวิชาการ 2  ราย ซึ่งเป็นนักรัฐศาสตร์ และเกาะติดการเมืองไทยอย่างใกล้ชิด 

 

"รศ.สุขุม นวลสกุล"  อดีตคณบดีคณะรัฐศาสตร์ และอดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง กล่าวถึงกระแสข่าว "พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา" นายกรัฐมนตรี ถอดใจไม่ไปต่อบนเส้นทางสนามการเมือง ว่า  มั่นใจเรื่องนี้ไม่เป็นความจริง 100 เปอร์เซ็นต์ เพราะท่านไม่ใช่คนแบบนั้น ไม่ใช่คนที่จะมานั่งถอดใจง่ายๆ ตอนนี้ถือว่าท่านเดินมาไกลเกินกว่าจะหันหลังกลับ ดังนั้นจึงไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้ เพราะพูดไปก็เสียเวลา เพราะไม่เชื่อว่าจะเป็นตามที่มีกระแสข่าว 

 

"อ.สุขุม" ยังบอกด้วยว่า  เป็นนายกฯก็ปวดหัวเหมือนกัน เพราะคงทำตามนักวิเคราะห์ไม่ทัน โดยฝากทิ้งท้ายว่า อย่าไปเต้นตามข่าวลือมาก   

ด้าน "รศ.ยุทธพร อิสรชัย" อดีตรองอธิการบดี มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช เชื่อว่า ข่าวนี้เป็นไปไม่ได้ 99.99 เปอร์เซ็นต์ เพราะถ้านายกฯถอดใจ ต้องต้องถอดตั้งแต่เจอเรื่องวาระนายกฯ 8 ปีแล้ว และจะต้องไม่มาเปิดตัวกับรวมไทยสร้างชาติ และถ้าจะไม่ลงสนามการเมืองจริง นายกฯคงไม่ให้สัมภาษณ์ เรื่องยุบสภาเร็วๆ นี้ ดังนั้นจึงมองว่าเป็นข่าวลือมากกว่า
 

 

เรามาดูปัจจัยที่ทำให้ท่านนายกฯตัดสินใจสู้ต่อ นอกเหนือจากปัจจัยที่อาจารย์ทั้งสองรายให้ความเห็น 

 

ปัจจัยที่ทำให้นายกฯสู้ต่อ 

 

-มั่นใจในกระแสความนิยมของตนเอง 

**มีอยู่จริงในกลุ่มอนุรักษ์นิยม ข้าราชการ รุ่นเก๋า ผู้สูงวัย และคนฐานรากทีไ่ด้ประโยชน์จากนโยบาย

-เชื่อว่าขุนพลรวมไทยสร้างชาติจะทำ ส.ส.เข้าสภาได้เป็นกอบเป็นกำ 

-กองทัพ และฝ่ายความมั่นคงให้การสนับสนุน 

**เพราะถ้าการเมืองเปลี่ยนขั้ว จะมีการปรับเปลี่ยนนโยบายความมั่นคงอย่างรุนแรง กระทบกับโครงสร้างบางส่วน เช่น กอ.รมน.

-ภาคราชการจำนวนไม่น้อยให้การสนับสนุน 

**เร็วๆ นี้จะมีการสัมนาเรื่องทิศทางการบริหารราชการแผ่นดินในภูมิภาค เพื่อตอบโต้กระแสยุบราชการส่วนภูมิภาคที่มีการเสนอแก้รัฐธรรมนูญ 

-มีพรรคการเมืองพร้อมจับมือด้วย (กลุ่มพรรคร่วมรัฐบาลเดิม)

**กรณีที่เพื่อไทยไม่แลนด์สไลด์ 

-มี ส.ว. 250 เสียงให้การสนับสนุน (พรรค ส.ว.) 
**อ่านเกมแล้ว เสียง ส.ว.ไม่แตก เพราะจะไม่มีการแข่งกันเองระหว่าง 2ป. ให้ ส.ว.ต้องอึดอัด 

 

 

ยุทธศาสตร์สู่ชัยชนะ (แฮตทริกเก้าอี้นายกฯ)

-ประกาศตัวเป็นแกนนำอนุรักษ์นิยมหนึ่งเดียว และดีที่สุดของฟากฝั่งนี้ 

-ประกาศตัวทำเพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ทำให้กลุ่มคนที่มีแนวคิดเดียวกันจำเป็นต้องเลือก เพราะเกรงอีกฝั่งจะเข้ามามีอำนาจ และสั่นคลอนสถาบันหลักของชาติ 

-ประกาศตัวชัดเจนไม่มีวันจับมือกับ “ทักษิณ” และไม่ร่วมรัฐบาลกับเพื่อไทย ซึ่งจะทำให้ “ทักษิณ” ได้ประโยชน์

-การแสดงจุดยืนชัด จะทำให้ได้คะแนนในฟากฝั่ง “ไม่เอาทักษิณ - ไม่เอาม็อบสามนิ้ว” ทั้งหมด รวมถึงกลุ่มที่กลัวปัญหา กลัวการเปลี่ยนแปลง

-ดำรงทิศทางประเทศไม่ให้เปลี่ยนแปลงแบบพลิกฝ่ามือ ไม่กระทบกับภาคราชการ 

-เอาใจองค์กรปกครองท้องถิ่น เพื่อดึงเสียงมาจากฝั่งตรงข้าม 

**คะแนนสูงสุดของฟากอนุรักษ์นิยมอยู่ที่ 11.4 ล้านเสียง (ปชป.เคยทำได้ในการเลือกตั้งปี 54) 

**คะแนนจะแปรเป็นปาร์ตี้ลิสต์มากกว่า 30 ที่นั่ง 

 

**บวกกับ ส.ส.เขต จะกลายเป็นพรรคขนาดกลาง มีความชอบธรรมรวบรวมเสียงให้เกิน 250 เสียงเพื่อจัดตั้งรัฐบาล 

นอกจากยุทธศาสตร์ และปัจจัยเกื้อหนุนทั้งหมดนี้แล้ว ยังมีความเชื่อของ"นายกฯ"เอง และบุคคลแวดล้อมว่า น่าจะมี "พลังพิเศษ" ทำให้ได้กลับมาเป็นนายกฯอีก 1 สมัย เพราะเหมาะสมกับสถานการณ์บ้านเมืองยุคนี้ที่สุดแล้ว และท่านก็ยังเหลือเวลาอีกแค่ 2 ปีเท่านั้น 

 

"ข่าวข้นคนข่าว"  ได้รับทราบความเคลื่อนไหวของ ส.ส.ระดับแกนนำพรรคการเมือง แกนนำกลุ่มก๊วนการเมืองหลายกลุ่ม กำลังย้ายเข้าพรรครวมไทยสร้างชาติอีก 1 ล็อต บางคนอยู่ฝ่ายตรงข้าม เคยอภิปรายโจมตีนายกฯ และ 3ป.มาตลอด แต่เชื่อในสัญญาณและ "พลังพิเศษ" จึงเตรียมเปิดตัวกับรวมไทยสร้างชาติเร็วๆ นี้ 

 

ประกอบกับ ส.ส.ระดับแกนนำซุ้มหลายคนเริ่มลาออก และเตรียมเปิดตัวกับพรรครวมไทยสร้างชาติ ยิ่งเพิ่มความมั่นใจ เช่น อนุชา นาคาศัย ส.ส.ชัยนาท "เกรดเอ - ดาวฤกษ์" 

 

ขณะเดียวกัน การที่ “เสี่ยติ๊ก" อิทธิพล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม แกนนำกลุ่มชลบุรี ถึงกับทิ้งพี่ มาอยู่กับ "ลุงตู่" สะท้อนว่าการทำงานร่วมกับนายกฯ ไม่ได้แย่เหมือนที่มีการวิจารณ์ 

 

สุดท้ายมีการพูดถึง "โมเดล คึกฤทธิ์" อดีตหัวหน้าพรรคกิจสังคม ที่เคยพา ส.ส.แค่ 18 เสียง รวบรวมเสียงพรรคเล็กพรรคน้อยในสภา ผงาดขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีได้มาแล้วเมื่อปี 2518 เป็นตำนานทางการเมืองที่ไม่มีใครเชื่อว่าจะทำได้ 

 

ที่สำคัญพรรครวมไทยสร้างชาติก็น่าจะมีตัวเลข ส.ส.ดูดีกว่า 18 เสียงแน่ๆ