svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เจาะประเด็นร้อน

"ยุบสภา"ช่วงใด อ่านใจ"นายกฯประยุทธ์" การตัดสินใจ ท่ามกลางความพร้อม"รทสช."

18 กุมภาพันธ์ 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

การให้สัมภาษณ์ของ" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา"นายกฯ ด้วยการเปิดเผยกำหนด"วันยุบสภา"มีในใจแล้ว หากพิจารณาระหว่างบรรทัด ล้วนมีนัยซ่อนเร้น แม้อ้างว่า รทสช.มีความพร้อมแล้วก็ตาม ท่ามกลางเสียงอื้ออึงในสภามีใครบางคนเริ่มถอดใจ

แน่ชัดแล้วว่า"การยุบสภา" น่าจะเกิดขึ้นในช่วงกลางเดือนมีนาคมเป็นต้นไป เพราะถอดรหัสจาก"พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา" นายกรัฐมนตรีและสมาชิก"พรรครวมไทยสร้างชาติ"ในช่วงดึกวันที่ 16 กุมภาพันธ์

 

"มีกำหนดไว้ในใจบ้างแล้ว ส่วนจะเป็นช่วงสัปดาห์แรกของเดือนมีนาคม ตามที่สื่อมวลชนตั้งคำถามหรือไม่นั้นต้องตัดสินใจอีกครั้ง เพราะทุกอย่างต้องมีแผนในทิศทางของเราบ้าง ในเมื่อทุกคนทุกพรรคมีความพร้อมก็ว่าไป ส่วนพรรครวมไทยสร้างชาติ มีความพร้อมอยู่แล้ว แต่ยังไม่ได้เปิดตัว ทั้งนี้ผมไม่ได้ถ่วงเวลาให้" คำกล่าว พลเอกประยุทธ์ 


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการยุบสภามีในใจแล้ว  เมื่อวันที่ 16 พ.ค. 66

บวกกับวันที่14 กุมภาพันธ์ 2566 คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้มีมติส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย เรื่องการนำจำนวนราษฎรที่ไม่มีสัญชาติไทยมาคิดคำนวณจำนวน ส.ส.ที่แต่ละจังหวัดพึงมีและแบ่งเขตเลือกตั้ง หลังหลายฝ่ายมีความไม่สบายใจ และมีความเห็นที่แตกต่าง ทั้งจากประชาชน พรรคการเมือง นักวิชาการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีทั้งที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับการดำเนินการของ กกต.

ก่อนหน้านี้"สมชัย ศรีสุทธิยากร" อดีตกรรมการการเลือกตั้ง แสดงความเห็นเรื่องนี้มาแล้วและยกตัวอย่างจังหวัดทางภาคเหนือ เช่นเชียงใหม่ เชียงราย ตาก มีต่างด้าวอยู่ในพื้นที่ เกินแสนคนมากพอที่จะทำให้มี สส.เพิ่มได้ 1 คน จากการคำนวณ รอบแรก ซึ่งหากใช้หลักนับเฉพาะประชากรที่มีสัญชาติไทย 3 จังหวัดนี้ จะไม่ได้สส.เพิ่ม แต่จะไปเพิ่มที่จังหวัดอื่น เช่น อุดรธานี ลพบุรี และปัตตานี แทน
 

\"ยุบสภา\"ช่วงใด อ่านใจ\"นายกฯประยุทธ์\" การตัดสินใจ ท่ามกลางความพร้อม\"รทสช.\"

เช่นเดียวกับการแบ่งเขตเลือกตั้งที่ กกต.อ้างว่ารัฐธรรมนูญกำหนดให้ใช้จำนวนราษฎรตามประกาศของกระทรวงมหาดไทย ซึ่งรวมทั้งคนไทยและคนต่างด้าว

"สมชัย"เกรงว่า หากต้องจัดการเลือกตั้งใหม่ ในเขตเลือกตั้งที่ปัญหา ตามที่ยกตัวอย่างมา 6 จังหวัด มีจำนวนสส.ราว 40 คน มากกว่า 5 % ของจำนวนสส.ทั้งหมด อาจทำให้ไม่สามารถเปิดประชุมสภาครั้งแรก ซึ่งรัฐธรรมนูญกำหนดว่าต้องมีสส. ไม่น้อยกว่า 95 % ได้

สองกรณีนี้กับถนนการเมืองที่มีผลกับแทบทุกวงการในเมืองไทย น่ามองเชิงลึกว่ากรณีกกต.ที่ยื่นเรื่องร้อนล่าสุดให้"ศาลรัฐธรรมนูญ" วินิจฉัยนั้นเกี่ยวข้องกับเขตเลือกตั้งนั้น จะต้องลุ้นว่าศาลรัฐธรรมนูญจะรับไว้วินิจฉัยหรือไม่และจะพิจารณาเสร็จสิ้นเมื่อใด เพราะหากไม่เคลียร์ให้สะเด็ดน้ำก่อนรัฐบาลนี้ครบวาระสี่ปีในวันที่ 23 มีนาคม น่าจะวุ่นกันอีกขนานใหญ่ ตรงนี้ก็ต้องลุ้นกับเวลาที่เหลืออยู่....และอย่าลืมบาดแผลการเลือกตั้งงวดที่แล้วที่กกต.วางผลงานให้สังคมกังขามาแล้ว

\"ยุบสภา\"ช่วงใด อ่านใจ\"นายกฯประยุทธ์\" การตัดสินใจ ท่ามกลางความพร้อม\"รทสช.\"

หากตีความสิ่งที่พลเอกประยุทธ์ สื่อออกมาเกี่ยวกับการ"ยุบสภา"ที่ตอนนี้ชัดแล้วว่า พลเอกประยุทธ์ ใช้วิธียุบสภาแน่นอน แต่จะเป็นวันใดนั้น ลุ้นกันต่อบนสถานะ"ความพร้อมหรือไม่พร้อมของพลเอกประยุทธ์ และพรรคต้นสังกัดกับถนนการเมือง" และเมื่อบวกกับการยื่นเรื่องร้อนของกกต.ต่อศาลรัฐธรรมนูญ  สองวาระนี้หากเซียนการเมืองร้อยเรียงเหตุการณ์จะพบว่า "สอดรับกันยิ่ง" เพราะ



1. รอลุ้นว่าศาลรัฐธรรมนูญจะรับ ไม่รับวาระที่กกต.ยื่นให้วินิจฉัย และใช้เวลากี่วัน รวมทั้งจะวินิจฉัยในแนวทางใด

2. กกต.จะดำเนินการอย่างไรกับมติที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยจากข้อ 1 ไม่ว่าจะออกมาในแนวทางใดก็ตาม

3. จะเกิดอะไรขึ้นหากข้อ 1 และข้อ 2 นั้น สังคมได้รับคำตอบ หลังวันที่ 23 มีนาคม และการจัดการเลือกตั้งจะดำเนินการด้วยการยึดกฎหมาย กติกาใดกันแน่

ผนวกกับภาวะล่าสุดของ"พลเอกประยุทธ์" บนถนนการเมือง แม้พลเอกประยุทธ์ จะให้ความชัดเจนว่ายุบสภาแน่ๆ แต่หากมองลึก ๆ จะพบอาการยึกยักของ"พลเอกประยุทธ์" ว่าจะลงสมัครส.ส.หรือไม่ (เพราะก่อนหน้านี้แกนนำพรรครวมไทยสร้างชาติยืนยันว่าพลเอกประยุทธ์ จะรับเป็นหนึ่งในแคนดิเดตบัญชีรายชื่อนายกฯของพรรค)

เนื่องจากข้อเท็จจริงพบว่า "พรรครวมไทยสร้างชาติ" เพิ่งทยอยเปิดตัวส.ส. นักการเมือง ที่จะย้ายมาสังกัดพรรคนี้เป็นช่วง ๆ และยังไม่คลอดแคมเปญหาเสียง จนเซียนการเมืองมองว่า "พรรครวมไทยสร้างชาติ น่าจะยังมีผู้สมัครว่าที่ส.ส.ไม่ครอบคลุมทั้งสี่ร้อยเขต เมื่อบวกกับเวลาที่มีอยู่ไม่กี่วันนั้นพรรคนี้จะขยับทันหรือ....

 



\"ยุบสภา\"ช่วงใด อ่านใจ\"นายกฯประยุทธ์\" การตัดสินใจ ท่ามกลางความพร้อม\"รทสช.\"

ล่าสุด ภายหลังการอภิปรายทั่วไปยุติลง มีกระแสข่าวสะพัดว่า พลเอกประยุทธ์ อาจไม่ลงสมัครในทุกบัญชี เพราะตอนนี้กระแสนิยมจากโพลล์ต่าง ๆ พบว่าคะแนนนิยมของ"พลเอกประยุทธ์" และ"พรรครวมไทยสร้างชาติ" ไม่กระเตื้อง มีเพียงภาคใต้เท่านั้นที่คะแนนดี แต่ภาคอื่น ๆ สถานการณ์ไม่น่าไว้วางใจและน่ากังวลอย่างยิ่ง

เมื่อเป็นแบบนี้ก็ต้องวัดกันนาทีต่อนาที "พลเอกประยุทธ์" จะโยนไพ่การเมืองในมือตัวเองออกมาเมื่อใด จะไปต่อหรือพอแค่นี้

 

กระแสข่าว"ลุงตู่"ถอดใจ ทำให้บรรดาผู้แทนในสภาสอบถามกันให้ควั่ก กอปรกับความพร้อมของพรรคอื่นๆเคียงข้าง สังคมน่าจะรู้ว่า พรรคใดพร้อมรบกันบ้าง และควรลงคะแนนให้พรรคใดมาบริหารบ้านเมืองในเวลาข้างหน้า...

logoline