
วันที่ 29 ตุลาคม 2567 เวลา 02.00 น. พ.ต.อ.ชยชัย นาธนกาญจน์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรพัฒนานิคม ลพบุรี นำกำลังเข้าตรวจสอบหลังได้รับแจ้งจากนายไชยวัฒน์ กุณฑลทอง สารวัตรกำนัน และเป็นอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูว่า พบรถกระบะต้องสงสัยเป็น แก๊งขนยาเสพติด เสียหลักตกถนนอยู่ในร่องระบายน้ำริมถนน ซอย10 สายจักตวา ถนนหลวงหมายเลข 3333 เส้นทางโคกตูม - มะนาวหวาน ช่วงหลักกิโลเมตร 16-17 หมู่ 4 ตำบลดีลัง อำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี
หลังไปตรวจสอบพบรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซูดีแม็คสีดำติดแผ่นป้ายทะเบียน สระบุรี สภาพด้านหน้ารถชนอัดติดอยู่กับคันดินปากท่อระบายน้ำ ยางล้อหน้าข้างซ้ายแตก กระจกหน้ามีรอยแตก 2 แห่ง
ตรวจสอบที่กระบะท้ายพบกระสอบบรรจุยาบ้าจำนวน 3 กระสอบคลุมด้วยผ้าฟาง ภายในรถห้องโดยสารยังพบกระสอบบรรจุยาบ้าอีก 5 กระสอบ ส่วนคนขับหลบหนีไปก่อนแล้ว โดยตรวจสอบร่องรอยคาดว่าน่าจะหลบหนีเข้าไปหลบซ่อนตัวอยู่ในป่าข้าวโพดใกล้กัน จึงนำกำลังปิดล้อมเข้าค้นหาใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงไม่พบตัวแก๊งขนยาบ้ารายนี้
นอกจากนี้ ได้ตรวจสอบภายในรถ ยังพบหลักฐานเป็นโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง ส่วนรถคันดังกล่าวทราบว่าได้นำป้ายทะเบียนของรถเก๋งคันอื่นมาติดสวมแทน ขณะที่ ป้ายภาษีประจำปีเป็นรถหมายเลขทะเบียน พิษณุโลก
เบื้องต้น ทางตำรวจตรวจสอบทราบชื่อเจ้าของรถเป็นคนภูมิลำเนาจังหวัดพิษณุโลก ซึ่งจะได้ติดตามตัวมาสอบปากคำต่อไป
จากการสอบถาม นายไชยวัฒน์ กุณฑลทอง สารวัตรกำนัน และเป็นอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู เล่าว่า ตนเองได้รับแจ้งจากหน่วยกู้ชีพลพบุรี ให้ตรวจสอบรถกระบะตกข้างทางบริเวณดังกล่าว หลังจากเดินทางมาถึงพบรถกระบะคันดังกล่าว ตกอยู่ข้างทางมีเสียงแตร่รถดังอยู่ตลอด
เบื้องต้น จึงเข้าไปถึงสายไฟแตรที่อยู่ใต้ฝากระโป่งรถจนดับลง แต่พอดูในรถปรากฏว่าไม่พบคนขับหรือคนบาดเจ็บแต่อย่างใด แต่กลับพบกระสอบบรรจุยาบ้าเต็มห้องโดยสาร จึงแจ้งให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งมาตรวจสอบทันทันที
ด้าน พ.ต.อ.ชยชัย นาธนกาญจน์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรพัฒนานิคม ลพบุรี คาดว่า รถกระบะแก๊งยาบ้าเสพติดน่าจะขนยาเสพติดมาจากทางภาคเหนือกำลังมุ่งหน้านำมาพักไว้ที่ภาคกลางโดยใช้เส้นทางเล็ก ๆ ในชุมชนเป็นทางผ่านช่วงกลางคืน
ขณะกำลังขับมุ่งหน้าไปทางแยกถนนสระบุรี หล่มสัก แต่ด้วยคนขับมาเพียงลำพังอาจจะทำให้เกิดอาการหลับในทำให้รถเสียหลักตกข้างถนนล้อติดโคลนขับขึ้นไม่ได้ จึงต้องทิ้งรถหลบหนีไป
ส่วนยาบ้าที่ขนมาจำนวน 8 กระสอบ คาดว่ามีไม่ต่ำกว่า 1,600,000 เม็ด มูลค่า 10 ล้านบาท ซึ่งจะได้ประสานไปยังพิสูจน์หลักฐานลพบุรี เพื่อมาตรวจสอบรายนิ้วมือแฝง และจำนวนยาบ้าทั้งหมดอีกครั้งต่อไป