1 สิงหาคม 2567 ที่ จ.ตรัง เมื่อช่วงบ่ายของวันนี้ พนักงานสอบสวน สภ.ย่านตาขาว ได้รับแจ้งเหตุมีอดีตสามียิงภรรยาเสียชีวิต ตัวผู้ก่อเหตุยังอยู่ภายในบ้าน ที่หมู่ 7 บ้านทับจาก ต.ทุ่งกระบือ จึงนำกำลังตำรวจพร้อม นายสมพงศ์ ไพบูลย์ กำนันตำบลทุ่งกระบือ พร้อมประสาน ตร.พิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.ตรัง แพทย์เวร รพ.ย่านตาขาว หน่วยกู้ภัยสว่างภักดี จุดย่านตาขาว เข้าตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว มีรั้วรอบขอบชิด ประตูรั้วประตูบ้านถูกล็อกสนิทด้วยแม่กุญแจจากด้านใน เมื่อตำรวจมองลอดผ่านช่องเห็น ร.ต.ท.สมโชค อายุ 69 ปี อดีตตำรวจเกษียณอายุราชการ ยืนถืออาวุธปืนวนเวียนอยู่ภายในบ้าน พ.ต.อ.พูนศักดิ์ เซ็งแซ่ ผกก.สภ.ย่านตาขาว พร้อมชุดสืบสวนได้พยายามพูดจาสื่อสารกับผู้ก่อเหตุ เพื่อให้วางอาวุธปืนลงและออกมามอบตัว
แต่จังหวะนั้นผู้ก่อเหตุได้ตะโกนออกมาว่า ให้ออกไป “ผมพกกระสุนมา 2 แม็กกาซีน” ก่อนที่จะได้ยินเสียงปืนดังขึ้นมาอีก 1 นัด เจ้าหน้าที่จึงได้ถอยร่นออกมา พร้อมกับประสานชุดปฏิบัติการพิเศษศรีตรัง (หนุมานตรัง) เข้ามาร่วมเคลียร์พื้นที่
เมื่อเจ้าหน้าที่ได้ทำการพังประตูรั้วบ้านเข้าไป เมื่อเปิดประตูหน้าบ้านเข้าไปถึงบนแคร่ไม้สัก หลังประตูหน้าบ้าน พบร่างของ ร.ต.ท.สมโชค ใช้อาวุธปืนพกสั้นขนาด 9 มม. ยิงเข้าที่ขมับขวา 1 นัด นอนเสียชีวิตบนแคร่ไม้ ตรวจสอบบริเวณหน้าประตูห้องนอน พบรอยคราบเลือดหยดเป็นทางยาว ภายในห้องนอนพบร่างของ นางสมคิด อายุ 70 ปี ซึ่งเป็นอดีตภรรยาผู้ก่อเหตุ ถูกยิงด้วยอาวุธปืนกระบอกเดียวกันเข้าที่ร่างกายกว่า 16 นัด นั่งเสียชีวิต ใกล้กันศพฝ่ายหญิง พบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. ตกอยู่จำนวน 16 ปลอก และเครื่องกระสุนปืนที่ยังไม่ได้ใช้งานตกอยู่อีก 1 นัด มีดอีโต้ 1 เล่ม เมื่อตรวจสอบอาวุธปืนที่อยู่กับฝ่ายชายพบว่า ยังมีกระสุนคงค้างอยู่ในลำกล้องจำนวน 1 นัด แม็กกาซีนจำนวน 2 อัน ภายในไม่มีกระสุน โดยถูกยิงออกไปทั้งหมดแล้ว
ส่วนภายในบ้านพักพบว่า หน้าหน้าต่างกระจกประตูหน้าบ้านแตก 1 บาน ลูกบิดประตูห้องนอนแตกหัก ห่างออกไปจากบ้านหลังเกิดเหตุประมาณ 20-30 เมตร ซึ่งเป็นหน้าบ้านของเพื่อนบ้าน พบรถ จยย. ยี่ห้อ ซูซูกิ สีแดง-ดำ ซึ่งเป็นของฝ่ายชายจอดอยู่ โดยที่ยังมีกุญแจรถเสียบค้างเอาไว้ เจ้าหน้าที่ได้ทำการเก็บรวบรวมพยานหลักฐานทุกชิ้นไว้เป็นหลักฐาน
พ.ต.อ.พูนศักดิ์ เซ็งแซ่ ผกก. สภ.ย่านตาขาว กล่าวว่า หลังรับแจ้งเหตุรีบมาที่เกิดเหตุทันที เมื่อมาถึงตะโกนบอกว่า ผู้กำกับๆ แต่ไม่มีเสียงขานรับ จึงเรียกชื่อพี่โชค พี่โชค แต่แกไม่ตอบ ก่อนจะได้ยินเสียงปืนดังขึ้นมา 1 นัด ตนจึงใช้โทรโข่งเจรจาเรียกแล้ว แกก็ไม่ขาน โทรศัพท์หาก็ไม่รับสาย สักพักตำรวจในสังกัดได้ยินเสียงตะโกนกลับมาว่า “อย่าเข้ามาผมพกกระสุนมา 2 แม็กกาซีน” ก่อนจะได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด สักพักหนึ่งมองลอดผ่านกระจก เห็นแกนั่งนิ่งอยู่ ก็เลยตัดสินใจรอชุดปฎิบัติการพิเศษศรีตรัง เข้ามาเคลียร์พื้นที่ ซึ่งระยะเวลาที่ก่อเหตุยิงอดีตภรรยา กับยิงตัวเองเสียชีวิต น่าจะใกล้เคียงกันห่างกันประมาณ 15-20 นาที
พ.ต.อ พูนศักดิ์ กล่าวอีกว่า ส่วนประเด็นปัญหาน่าจะเกิดจากฝ่ายชาย เพิ่งเลิกกับภรรยาได้ประมาณ 1 เดือนก่อนที่ภรรยาจะย้ายไปพักอยู่กับญาติ ที่ อ.ทุ่งสง จ.นครศรีฯ และเพิ่งกลับมาอยู่บ้านหลังนี้ประมาณ 3 วันก่อนเกิดเหตุ ซึ่งอาจจะยังหึงหวงกันอยู่ โดยบ้านหลังนี้เป็นชื่อของทั้งสองคน ซึ่งภรรยาไม่ได้ทำงานอะไร แต่ผู้ก่อเหตุเป็นอดีตตำรวจเกษียณราชการมาหลายปีแล้ว
ด้าน นายอารัญ อายุ 37 ปี เพื่อนบ้านหลังติดกัน เล่าว่า ก่อนหน้าจะเกิดเหตุฝ่ายชายได้ขี่รถ จยย. มาวนเวียนหน้าบ้าน ก่อนที่ประมาณบ่ายโมงกว่าๆ จะได้ยินเสียงฝ่ายชายตะโกนเรียกฝ่ายหญิงที่ประตูหน้าบ้าน สักพักก็ได้ยินเสียงว่า ฝ่ายชายเข้าไปในบ้าน แต่ไม่ได้ยินเสียงฝ่ายหญิงตอบรับ หรือออกมาเปิดประตูให้ ห่างออกไปเวลาประมาณ 10 นาที ก็ได้ยินเสียงทะเลาะวิวาทกัน แต่ได้ยินเบามาก ๆ ซึ่งอาจจะเพราะทั้งคู่อยู่ในห้องนอน ก่อนที่จะได้ยินเสียงปืนดังขึ้นประมาณ 4-5 นัดติด ๆ ซึ่งก่อนหน้านี้ตนก็ไม่เคยได้ยินเสียงทะเลาะกันมาก่อน โดยฝ่ายภรรยาออกไปอยู่ข้างนอกได้สักพักแล้ว ก่อนกลับเข้ามาเมื่อประมาณ 3-4 วันที่ผ่านมานี้เอง
สอบถาม ร.ต.ท.วรเชษฐ แก้วเพ็ง อายุ 65 ปี อดีตตำรวจ และเป็นเพื่อนสนิทฝ่ายชาย เผยว่า แกมีปัญหาครอบครัว เถียงกันทุกวัน เจอกันบ่อย ซึ่งเมื่อ 2 วันก่อน ก็ได้มาหาตนเพื่อให้มาเจรจาปัญหาให้จบ ๆ กันไป เกี่ยวกับเรื่องของคนตาย (ภรรยา) เรื่องทรัพย์สิน เรื่องในบ้านที่พี่โชคซื้อมา ให้มีการมาเจรจาคืนกลับ ซึ่งผู้ก่อเหตุโทรหาตนอยู่บ่อยๆ เพราะเครียดเรื่องทรัพย์สินกับภรรยา จริง ๆ แล้วแกก็ไม่อยากเลิกรากับภรรยา โดยฝ่ายภรรยาเป็นคนจ่ายเงินให้ผู้ก่อเหตุ 3 แสนบาทเพื่อให้เซ็นใบหย่า ซึ่งตอนเช้าก็ยังโทรหาตน เพราะบ่นว่าเครียด แต่ไม่ได้พูดถึงเรื่องจะก่อเหตุ โดยตอนเกิดเรื่อง ผกก.โทรหาตน แต่ตนยังมาไม่ถึง ผู้ก่อเหตุก็ลงมือก่อเหตุเสียก่อนแล้ว
ขณะที่ แนวทางการสืบสวนสอบสวนเบื้องต้น ทราบว่า โดยก่อนหน้านี้ทั้งคู่ มีสามีและภรรยาและลูกกันมาก่อนแล้ว ก่อนจะมาอยู่กินกันที่บ้านหลังดังกล่าว ซึ่งเป็นบ้านของทั้งคู่ ได้ประมาณ 10 กว่าปีที่ผ่านมา แต่ไม่มีลูกด้วยกัน กระทั่งระยะหลังได้มีปัญหาเกิดขึ้นในครอบครัว โดยเพื่อนสนิทของฝ่ายชายรู้ดี ก่อนที่ฝ่ายหญิงจะขอหย่าร้างโดยตกลงให้เงิน จำนวน 3.5 แสนบาท เมื่อประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมา จ่ายมาแล้ว 2.5 แสนบาท และฝ่ายหญิงได้ไปอาศัยบ้านญาติต่างจังหวัด และเพิ่งกลับมาได้ 3 วัน ก่อนเกิดเหตุฝ่ายชายยังเคยพูดกับเพื่อนตำรวจตลอดว่า หากยิงเมียแล้วจะยิงจะตัวเองตาม โดยที่เพื่อน ๆ ได้ห้ามปรามไว้ตลอด
กระทั่งวันนี้ฝ่ายชายได้แวะดื่มเบียร์ 2 ขวด ที่ร้านชำภายในหมู่บ้านที่เกิดเหตุ ก่อนจะขับรถมาที่บ้านหลังนี้ และบุกเข้าไป โดยที่ฝ่ายหญิงขังตัวเองอยู่ในห้องนอน โดยที่ฝ่ายหญิงน่าจะถือมีดอีโต้อยู่ ก่อนจะมีปากเสียงกัน ฝ่ายชายจึงใช้อาวุธปืนยิงใส่ไม่ยั้ง ก่อนที่ฝ่ายชายจะโทรหาเพื่อนและจบชีวิตตัวเองตาม เบื้องต้นทางญาติไม่ได้ติดใจในสาเหตุการเสียชีวิตของทั้งคู่ ก่อนจะมอบร่างให้กับญาตินำไปประกอบพิธีการตามศาสนาอิสลามต่อไป