ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายในเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมคำ เมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว ตรงข้ามอำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย ได้เปิดโรงเรียนประถมดอกงิ้วคำอย่างเป็นทางการ นับว่าเป็นโรงเรียนแห่งแรกที่เปิดการเรียนการสอน 3 ภาษา ลาว, จีน และอังกฤษ ภายใต้สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ สปป.ลาว เพื่อให้เด็กนักเรียนสัญชาติลาว, จีน และเมียนมา ได้เข้ามาเรียนตั้งแต่ระดับอนุบาลจนถึงประถมศึกษา ฟรีโดยไม่มีค่าใช้จ่าย โดยมีสภาเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมคำ และนักธุรกิจร่วกันสนับสนุนงบประมาณ เพื่อยกระดับการศึกษา และให้โอกาสเด็กๆ ในเขตเศรษฐกิจพิเศษที่ติดตามพ่อแม่เข้ามาทำงานได้มีความรู้เท่าเทียมกัน
นายเจียว ผู้อำนวยการ โรงเรียนประถมดอกงิ้วคำ กล่าวว่า โรงเรียนเพิ่งเปิดการเรียนการสอนอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา ปัจจุบันมีนักเรียนทั้งหมด 271 คน แยกเป็นอนุบาล 81 คน และ ประถมศึกษา 196 คน และ ครู เกือบ 100 คน โดยเป้าหมายสูงสุดของของการสร้างโรงเรียนประถมดอกงิ้วคำ คือ การยกระดับการศึกษาให้เยาวชนได้มีความรู้และเท่าทันโลก สามารถนำความรู้ไปต่อยอดได้ในทุกทาง ซึ่งปีแรกรองรับนักเรียนได้เพียง 300 คนเท่านั้น จากเด็กที่เข้ามาสมัครเกือบ 1,000 คน
ในปัจจุบันมีประชากรในเขตเศรษกิจพิเศษสามเหลี่ยมคำกว่าจำนวนมาก ทำให้ในปี 2567 ทางเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมคำ มีแผนขยายการเรียนการสอนไปถึงระดับ มัธยม และในอนาคตมีแผนจะเปิดมหาวิทยาลัยตามลำดับ เพื่อรองรับและขยายโอกาสทางการศึกษาให้มากขึ้น อนาคตอันใกล้นี้ จะเปิดให้เด็กข้างนอกเขตฯที่สนใจมาเรียนร่วมกันได้ และเพิ่มหลักสูตร ภาษาไทย อาจจะมีค่าใช้จ่ายจากค่าเทอม แต่จะไม่มากนัก แต่มีชุดนักเรียนให้ อุปกรณ์การเรียน โดย จ้าว เหว่ย ประธานเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมคำร่วมกับ นักลงทุน ชาวจีน เป็นผู้สนับสนุนค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด
ด้านจ้าว เหว่ย ประธานเขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมคำ กล่าวว่า เขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมคำที่ถูกขนานนามให้ เป็นแดนแห่งสนธยาจากคาสิโน ยาเสพติด และ ธุรกิจผิดกฎหมาย เราจึงได้วางยุทธศาสตร์ยกระดับการศึกษา เพื่อฉุดดึงเยาวชนคนรุ่นใหม่ให้ห่างไกลยาเสพติด และพัฒนาศักยภาพ ของเด็กๆนักเรียน ให้เติบโตอย่างมีคุณภาพ ลบล้างคำว่าเป็นดินแดนของยาเสพติดให้ได้ เพราะมองว่า พื้นฐานการศึกษาที่ดี จะทำให้เยาวชนมีคุณภาพมากขึ้น
ด้านนางสาวซาซ่า ทำมะวง ครูประจำชั้นห้องลาว กล่าวว่า นักเรียนที่เข้ามาเรียนที่นี่ มาจาก 3สัญชาติหลักคือ ลาว จีน เมียนมาและยังมีเด็กไทยเข้าเรียนบางส่วน มากที่สุดเป็นเด็กสัญชาติเมียนมา และ ทั้งหมดเป็นลูกหลานของคนที่เข้ามาทำธุรกิจ และทำงานในเขตเศรษฐกิจพิเศษ โดยโรงเรียนใช้หลักสูตรการเรียนการสอนที่ได้รับการรับรองจากกระทรวงศึกษาธิการ สปป.ลาว ใช้ภาษาลาว , ภาษาจีนและภาษาอังกฤษเป็นหลัก
ส่วนครูมาจากหลายชาติ ทั้ง ลาว จีน และ เมียนมา ทุกคนจะได้ทำกิจกรรมร่วมกันโดยไม่มีแบ่งแยกเชื้อชาติ เพื่อให้ปรับตัวเข้ากันได้ เด็กที่นี่จะได้เรียนรู้ทั้ง3ภาษา ทั้ง จีน อังกฤษ ลาว จะส่งผลดีทำให้ลูกหลานชาวจีนที่มาทำธุรกิจการค้าภายในเขตเศรษฐกิจพิเศษจะสามารถกลับไปเรียนต่อในระดับ มัธยมปลาย และ มหาวิทยาลัย ที่จีนได้ เช่นเดียวกับลูกหลานชาวลาว ที่นิยมส่งลูกหลานไปเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัยในจีนและเวียดนาม โดยเฉพาะจีนมีทุนการศึกษารองรับเป็นจำนวนมาก
เด็กชาย ภัทรพล หยาง เด็กนักเรียนลูกครึ่งไทย -จีน กล่าวว่า ก่อนหน้านี้คยเรียนโรงเรียนในจังหวัดเชียงราย ก่อนย้ายตามผู้ปกครอง มาเริ่มเรียนที่ โรงเรียนประถมดอกงิ้วคำแห่งนี้ และยอมรับว่า มาเรียนที่นี่ แตกต่างจากโรงเรียนในจังหวัดเชียงราย เพราะมีเพื่อนหลายเชื้อชาติเรียนด้วยกัน และใช้ภาษาจีนในการเรียนการสอน ทำให้ได้พัฒนาทักษะภาษาจีน นอกจากนี้ ยังตั้งเป้าอนาคตของตัวเองอยากเรียนหมอ เพื่อที่จะได้กลับมาทำงานในเขตเศรษฐกิจพิเศษแห่งนี้และได้ รักษาผู้ป่วยที่เข้ามาเที่ยว มาทำงานที่นี่
รายงานข่าวแจ้งว่า ภายในเกาะดอนซาว เขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมคำ ได้มีการจัด พิพิธภัณฑ์ยาเสพติด เพื่อให้เห็นถึงโทษของยาเสพติด ที่เด็กๆ ทุกคนจะได้เข้าไปศึกษาเรียนรู้ โดยภายใน พิพิธภัณฑ์ จะมีห้อง จำลอง เกี่ยว พืชเสพติด อย่าง ฝิ่น ห้องสวนสนุก ที่บ่งบอกถึงความสนุกสนา รวมถึง การจำลองเขาวงกตกระจก เป็นเส้นทางหากเข้าไปข้องเกี่ยวกับยาเสพติด จะไม่มีทางออก นอกจากนี้ ภาพในอาคาร ยังมีการจัด แสดง ยาเสพติดแต่ละชนิด ทั้ง ยาบ้า ยาไอซ์ เฮโลอีน และ อื่นๆ เพื่อให้เด็กได้รู้จักชนิดของยาเสพติด และ โทษที่จะเกิดขึ้นกับร่างกาย มีความรู้ ถึงผลกระทบ และ โทษ ขณะเดียวกันก็ยังมีการจำลอง บ้านขุนส่า อดีต ราชา ยาเสพติดโลก ที่แสดงให้เห็นขั้นตอนของขบวนการค้ายาเสพติด และ จุดจบของ ขุนส่าในที่สุด โดยเป้าหมายสูงสุดคือ บ่มเพาะเยาวชนไม่ให้เข้าไปข้องเกี่ยวกับยาเสพติด