1 พฤศจิกายน 2566 เมื่อเวลา 07.00 น. ที่ วังปู่ปาริจิต อ.วานรนิวาส จ.สกลนคร นายไชย์พล วิภา หรือลุงพล และ น.ส.สมพร หลาบโพธิ์ หรือ ป้าแต๋น พร้อมด้วยทีมทนายความส่วนตัวและแฟนคลับ ได้ทำบุญตักบาตร พระ 9 รูป จากวัดดอนสวรรค์ กับ วัดจำปาดง เพื่อทำบุญตักบาตร เสริมความเป็นสิริมงคล หลังจากเมื่อวานนี้ (31 ตุลาคม 2566) ลุงพล และป้าแต๋น ได้เดินทางไปฟังคำสั่งเลื่อนอ่านคำพิพากษาคดีน้องชมพู่
ต่อมาเวลา 08.39 น. ลุงพล และป้าแต๋น ได้เข้าร่วมพิธีบายศรีสู่ขวัญ เพื่อเรียกขวัญเข้าตัว โดยมีพารหมณ์คอยทำพิธี และมีญาติผู้ใหญ่ แฟนคลับที่ลุงพล เคารพนับถือ มาร่วมทำพิธีด้วย โดยบรรดาแฟนคลับและคนที่มาร่วมงาน ต่างเอิ้นขวัญ ลุงพลป้าแต๋น เสียงดังกึกก้อง
นายไชย์พล กล่าวว่า สำหรับพิธีบายศรีสู่ขวัญ แฟนคลับของเรา ได้จัดเตรียมไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ไม่ว่าเราไปฟังคำพิพากษาจะออกมาเป็นอย่างไร งานในวันนี้ก็ยังจะเกิดขึ้นอยู่ดี ซึ่งประเพณีบายศรีสู่ขวัญเป็นประเพณีของคนอีสานที่จะที่จะรับขวัญที่ญาติผู้ใหญ่ให้ความรักเรามาซึ่งเป็นพิธีที่ศักดิ์สิทธิ์พิธีหนึ่ง
โดยในช่วงหนึ่งที่ตนน้ำตาคลอเพราะมันเป็นความตื้นตันใจ ที่เห็นชาวบ้านและคนในชุมชนหลั่งไหลเข้ามาให้กำลังใจเรามากมาย ซึ่งก็ทำให้เรามีกำลังใจมากขึ้นเพราะที่ผ่านมาครอบครัวของเราก็โดนกระทำมาเยอะ
เมื่อวานนี้ (31 ตุลาคม 2566) ได้พาทีมทนายไปที่บ้านกกกอก แต่ไม่ได้พาไปขึ้นเขา เพียงแต่ไปดูบ้านที่ตนเคยพักอาศัยอยู่เท่านั้น เพราะเป็นทางผ่าน ที่จะต้องมา จ.สกลนคร สำหรับแผนการก่อนถึงวันฟังคำพิพากษา 20 ธันวาคม 2566 ตนก็จะพัฒนาพื้นที่ วังปู่ปาริจิตนาคราช ต่อ และเดือนนี้ก็จะเดินสายทำบุญกฐิน 9 วัด
สำหรับประเด็นดราม่าในโลกโซเชียลที่การแถลงข่าวระหว่างแม่ชมพู่กับลุง บรรยากาศแตกต่างกันนั้น ลุงมองว่าไม่ว่าภาพที่ออกมาจะเป็นฝั่งไหนก็ตามความรู้สึกทั้งลุงและป้า เราสู้กันมาอย่าง จนถึงวันที่ 31 ตุลาคม และเราได้รับคำตอบที่มีการเลื่อนออกไป เราก็น้อมรับ แต่จะให้เรามาทำหน้าเศร้าเหมือนคนที่เป็นทุกข์ก็คงจะไม่ได้ บางครั้งเราก็ต้องปลดปล่อยมันออกมาบ้าง อย่างเมื่อวานที่ผ่านมา ก็ไปทานข้าวและร้องเพลง 2 เพลง เท่านั้นเอง ซึ่งเป็นเพลงให้กำลังใจกันด้วย
ด้าน นางสมพร กล่าวว่า เรามีกำลังใจจากแฟนคลับ ยูทูบเบอร์เป็นหลักอยู่แล้ว ส่วนอีกฝ่ายก็มีกำลังใจเหมือนกันจะนำมาเปรียบเทียบกันไม่ได้ เพราะทุกคนต่างมีแฟนคลับของกันและกัน แต่เมื่อวานที่ผ่านมา มีแฟนคลับเข้ามาให้กำลังใจและเราเห็นว่าผู้สื่อข่าวมาเยอะ ไม่อยากให้สัมภาษณ์บริเวณศาล จึงได้มาแถลงข่าวที่ห้องจัดงานเท่านั้น ไม่ได้มีอะไรที่มันแตกต่างกัน เพราะจะสัมภาษณ์ที่ไหนก็ตาม มันอยู่ที่ว่าความเป็นจริงที่เราต่อสู้กันทั้งสองคนและอยู่ที่คำแถลงของทนายแต่ละฝ่ายมากกว่า
วันนี้แฟนคลับเป็นคนจัดให้หมดเลยพร้อมกับบอกว่าถ้าหากวันที่ 31 ตุลาคม เราจะมีการประกันตัวออกมา จากนั้นก็จะกลับมาที่นี่เหมือนเดิมแล้วก็มาทำพิธีบายศรีสู่ขวัญ เราจะเพียงแค่ทำบุญตักบาตรเท่านั้น ซึ่งเรามีกำลังใจดีทุกวัน เมื่อไหร่ที่มองลูกก็จะมีกำลังใจเมื่อนั้น
อยากตะโกนดัง ๆ ว่า เขาสูญเสีย แต่เราก็ไม่ได้เป็นผู้กระทำ เขาต้องเข้าใจว่า เราไม่ใช่คนทำ เราเข้าใจว่าความเสียใจมันมี แต่ความสูญเสียของเขาไม่ใช่จะมาโยนให้เรา ทั้งที่เราไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง
สำหรับประเด็นที่แม่ของน้องชมพู่บอกว่า ฝ่ายลุงพลกับป้าแต๋นมีโอกาสได้ชี้แจง ตนคิดว่า ด้วยบุญที่เราสะสมมา คิดดี ทำดี มันก็ทำให้มีคนให้โอกาสและสนับสนุนให้เราได้ต่อสู้ เงยตา อ้าปาก ต่อสู้กับสิ่งที่ไม่ยุติธรรมกับเรา โดยแฟนคลับของตนก็มีทั้งเป็นผู้ใหญ่ที่มีชื่อเสียง เป็นคนที่มีความรู้ สามารถคิดวิเคราะห์ได้ เขามองด้วยตาของเขาเอง เราไม่ได้ไปขอให้ใครมารัก มาสนับสนุน แต่เขามาด้วยใจ