svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ภูมิภาค

เปิดเบื้องหลังจับ "ลูกเขยชาดา" อึ้งกระบวนการฮั้วประมูลเป็นเครือข่ายใหญ่

เปิดเบื้องหลังการจับกุม "ลูกเขยชาดา" อึ้งพบกระบวนฮั้วประมูล เป็นเครือข่ายใหญ่ กระจายอิทธิพลไปถึงจังหวัดใกล้เคียง พร้อมแฉกลวิธีกระจายงาน ผ่านหัวจ่าย "บ้านใหญ่"

27 ตุลาคม 2566 ความคืบหน้ากรณี ตำรวจ บก.ปปป. ตำรวจกองปราบฯ สนธิกำลังร่วมกับ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท.และ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. เข้าจับกุมตัว นายวีระชาติ รัศมี อายุ 45 ปี นายกเทศบาลตลุกดู่ จ.อุทัยธานี ลูกเขย นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย พร้อมพวก

ร่วมกันทุจริตเรียกรับเงิน จากผู้ประกอบการรับเหมาก่อสร้าง ระบบท่อน้ำประปาหมู่บ้านแบบบาดาล จำนวน 2 โครงการ คือ โครงการในตำบลตลุกดู่ 1 โครงการ และในตำบลหาดทนง อีก 1 โครงการ ก่อนที่จะมีการลาออกจากตำแหน่งนายกเทศบาลตลุกดู่ ตามคำสั่งนายชาดา ตามที่มีการนำเสนอข่าวนั้น
นายวีระชาติ รัศมี ลูกเขย นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย  

ทั้งนี้มีประเด็นที่เป็นข้อสังเกต กรณี นายวีระชาติ หรือ “นายกแม็ก” ลูกเขยนายชาดา ถูกตำรวจ ปปป. และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท.บุกจับกุม ฐานเป็นเจ้าพนักงานเรียกรับ มีพฤติการณ์ข่มขู่ผู้ประมูลงาน รับเหมาก่อสร้างท่อประปาในพื้นที่ ตั้งแต่ขั้นตอนก่อนเข้าประมูลงาน มีการเสนอเงินให้ถอนตัวไปเสีย และหลังได้งานไปแล้ว มีการข่มขู่ต่อเนื่อง ถึงขั้นสั่งให้ร้านขายปูน ขายวัสดุก่อสร้างในจังหวัด ห้ามขายให้ผู้เสียหาย จนทำงานไม่ทัน และถูกปรับ จึงต่อรองให้จ่ายอีกรอบ 

ทำให้การจับกุม นายวีระชาติ หรือ “นายกแม็ก” ลูกเขยนายชาดา ครั้งนี้ ตำรวจไปจับได้อย่างไร มีอะไรอยู่เบื้องหลังหรือไม่? เพราะฝ่ายที่ถูกจับเป็นถึงลูกเขย นายชาดา รมช.มหาดไทย 
โครงการก่อสร้างระบบน้ำประปาที่ถุกเรียกรับเงิน
 

เบื้องต้น ประเด็นนี้มีการวิจารณ์กันไป 2 แนวทาง คือ

1.เป็นการบุกจับเพื่อเสริมภาพลักษณ์ของนายชาดา ในฐานะ รมช.มหาดไทย ที่กำลังเร่งผลงานปราบผู้มีอิทธิพล โดยเริ่มจากการปราบมาเฟียในบ้านตัวเองก่อน เพื่อเปิดทางฟาดคนอื่นแบบไม่ยั้งหรือไม่

2.เป็นการบุกจับ เพราะมี “คนใหญ่กว่า” ไฟเขียวให้จับ เพื่อให้สะเทือนถึง “คนข้างหลัง” ของ “นายกแม็ก” อีกทีหรือไม่ 

ทีมข่าวเนชั่น ได้คุยกับตำรวจชุดจับกุม รวมไปถึง “แหล่งข่าวระดับสูง” ในกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้รับคำยืนยันว่า คดีนี้ไม่มีเบื้องลึกเบื้องหลังอะไรมาก ต้นสายปลายเหตุมาจาก ผู้เสียหายเข้าแจ้งความที่สอบสวนกลาง  เมื่อมีการแจ้งความ มีหลักฐานชัดเจน ส่งทีมไปสืบแล้วพบว่ามีมูล มีพยานหลักฐานยืนยัน จึงนำกำลังเข้าจับกุม 
 

“เรื่องนี้ไม่มีการเมือง แต่ถามว่ากลัวจะเป็นการเมืองหรือไม่ ก็ยอมรับว่าคิดหนักเหมือนกัน เพราะเกรงจะถูกมองเป็นการเมือง แต่ก็มาประชุมชั่งน้ำหนักกันว่า เมื่อผู้เสียหายมาแจ้งความ แล้วถ้าเราเห็นว่า ผู้ถูกแจ้งเป็นลูกเขยรัฐมนตรี แล้วเราก็ไม่ทำ ปล่อยไป ทั้ง ๆ ที่มีหลักฐาน สังคมต้องการให้เป็นแบบนั้นหรือ สุดท้ายเราก็ตัดสินใจดำเนินการ” 


แหล่งข่าวระดับสูง ในกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ย้ำว่า ตำรวจสอบสวนกลาง ตั้งใจทำทุกเรื่องให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน คือ ดำเนินคดีกับทุกคนอย่างเท่าเทียม ไม่สนใจว่าเป็นลูกท่าน หลานใคร 
นายวีระชาติ รัศมี ลูกเขย นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย
 

ประเด็นต่อมา ที่มีการวิจารณ์กันมากคือ ทีมงานที่ถูกจับ ทำกันเองโดด ๆ หรือมีเบื้องหลังมากกว่านี้อีก ซึ่งทีมข่าวเนชั่น มีข้อมูลจาก 2 แหล่ง คือ แหล่งที่หนึ่ง เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ระบุว่า วิธีการทำงานของกลุ่มฮั้วประมูล ไม่ใช่เฉพาะกลุ่มนี้ โดยปกติทำกันเป็นเครือข่ายขนาดใหญ่ และมีอิทธิพลที่ใหญ่กว่าเป็นแบ็ก ไม่เช่นนั้น คงสั่งร้านขายปูนทั้งจังหวัด ห้ามขายปูนให้ผู้เสียหายไม่ได้แน่ ที่สำคัญ เครือข่ายฮั้วประมูลขนาดใหญ่ ไม่ได้รับงานแค่จังหวัดเดียว แต่จะแผ่อิทธิพลไปยังจังหวัดใกล้เคียงด้วย 
เปิดเบื้องหลังจับ "ลูกเขยชาดา" อึ้งกระบวนการฮั้วประมูลเป็นเครือข่ายใหญ่  


แหล่งที่สอง เจ้าหน้าที่ศูนย์ปราบปรามการฮั้วประมูลของดีเอสไอ ระบุว่า ปัญหาฮั้วประมูลที่เกิดขึ้นในบ้านเรา เกือบทั้งหมดมาจาก “การเมืองในลักษณะบ้านใหญ่” คล้าย ๆ ที่สมุทรปราการ “บ้านใหญ่” จะมีนักการเมืองระดับชาติ และมีลูกตัวเอง ลูกเขย น้องสาว น้องชาย ไปจนถึงรุ่นหลาน ทำงานการเมืองในระดับท้องถิ่น ท้องที่ เป็นเครือข่ายเชื่อมโยงกันทั้งจังหวัด แต่ส่วนใหญ่จะเป็นจังหวัดใครจังหวัดมัน ไม่ออกนอกเขต 

วิธีการได้งาน กระจายงาน “บ้านใหญ่” จะกำหนดเอง โดยส่งงาน ส่งงบไปตาม “กิ่งก้านสาขา” ของตน เริ่มจากนักการเมืองระดับชาติ (บ้านใหญ่) เป็น สส. เป็นรัฐมนตรี ก็นำงบมาลงที่จังหวัดของตัวเอง จากนั้นก็กระจายลงไปท้องถิ่น ที่คนของตัวเองเป็นผู้บริหาร กระบวนการยื่นประมูล จะมีคู่เทียบรออยู่แล้ว

ถ้ามีคนนอก “ทะเล่อทะล่า” ไปยื่นประมูล ก็จะถูกข่มขู่ หรือเสนอผลประโยชน์ให้ถอนตัวออกไป ทำให้งานก่อสร้างหรือโครงการพัฒนาต่าง ๆ ก็จะวนเวียนอยู่ในเครือข่าย บริษัทกลุ่มพวกตัวเอง แบ่งสรรผลประโยชน์กันอย่างลงตัว เว้นแต่บางพื้นที่ที่มีหัวคแนนอยู่ ก็จะเปิดทางให้บริษัทของหัวคะแนน ได้งานไปบ้าง
บริษัทรับเหมาต่างถิ่นที่เข้าไปรับในพื้นที่เทศบาลตลุกดู่ อุทัยธานี ที่มาจาก จ.กาญจนบุรี