21 สิงหาคม 2566 อุบัติเหตุที่ต้องสังเวยชีวิตโชเฟอร์แท็กซี่ครั้งนี้ เกิดขึ้นเมื่อคืนที่ผ่านมา ร.ต.ท.พงศ์เมธา ชาโรจน์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.บางบ่อ ได้รับแจ้งว่า มีเหตุเพลิงไหม้รถแท็กซี่ ทำให้มีผู้เสียชีวิตติดอยู่ภายใน เหตุเกิดบริเวณสถานที่ก่อสร้างสะพานข้ามคลองปีกนก ถนนรัตนโกสินทร์ 200 ปี หมู่ 6 ตำบลบางบ่อ อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ
หลังรับแจ้งจึงประสานรถดับเพลิง อบต.บางบ่อ จำนวน 2 คัน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เดินทางตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ที่เกิดเหตุกำลังมีการก่อสร้างสะพานข้ามคลอง ที่บริเวณเสาตอมอ พบเพลิงกำลังลุกไหม้รถแท็กซี่ โดยมีคนติดอยู่ภายในรถ เจ้าหน้าที่ฯ จึงช่วยกันระดมฉีดน้ำอยู่ประมาณ 15 นาที เพลิงจึงสงบ
ตรวจสอบภายในรถ พบว่า คนขับถูกไฟคลอกเสียชีวิตคาพวงมาลัย เจ้าหน้าที่มูลนิธิจึงใช้วินซ์ หรือตัวหมุนลากรถ ของรถเจ้าหน้าที่กู้ภัย ทำการดึงซากรถแท็กซี่ขึ้น พร้อมกับนำร่างผู้เสียชีวิตออกมาจากซากรถ และประสานแพทย์เวรโรงพยาบาลบางบ่อ เข้าร่วมตรวจสอบ และชันสูตรพลิกศพ
จากการตรวจสอบ พบว่า ผู้เสียชีวิตถูกไฟคลอก จนไม่สามารถระบุตัวตนได้ว่าเป็นใคร เนื่องจากไม่พบเอกสารใด เพราะถูกไฟเผาไหม้เสียหายทั้งหมด มีเพียงนาฬิกาสายเหล็กที่ผู้ตายใส่อยู่ที่บริเวรข้อมือขวาเพียงเท่านั้น
ตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบรอยล้อรถของรถแท็กซี่คันดังกล่าว ขับเข้ามาจากฝั่งถนนเทพรัตน ก่อนจะหลุดแนวขอบถนน พุ่งตกลงไปชนกับเหล็กข้ออ้อยหลายเส้น ที่ผู้รับเหมาเตรียมไว้หล่อเสาตอม่อ เพื่อทำการก่อสร้างสะพาน คาดว่ารถได้ไปกระแทกกับเสาปูน จนทำให้เกิดไฟลุกไหม้อย่างรวดเร็ว ซึ่งที่เกิดเหตุพบค่อนข้างมืด และไม่มีป้ายสัญญาณเตือนการก่อสร้าง
นายเกรียงศักดิ์ ศรีรุ่งเรือง อาสาสมัครตำรวจชุมชน ซึ่งออกตรวจพื้นที่กับสายตรวจ เดินทางมาถึงในขณะที่เพลิงกำลังลุกไหม้ เล่าให้ฟังว่า เมื่อเดินทางมาถึงก็พบว่า เพลิงกำลังลุกไหม้อย่างรุนแรงอยู่ที่ตัวรถ แต่ไม่สามารถเข้าไปช่วยเหลือได้ ยังไม่ทราบทะเบียนรถ ไม่ทราบสีรถ มีระบุข้างรถแค่เพียง "สหกรณ์เจริญเมืองแท็กซี่" ที่ยังพอเหลือให้อ่านเท่านั้น
สาเหตุคาดว่า ผู้ขับขี่ไม่ใช่คนในพื้นที่ จึงไม่ชินเส้นทาง อีกทั้งการก่อสร้างทาง และสะพานแห่งนี้ ก็ไม่มีป้ายเตือน หรือไฟเตือน ไม่มีแสงสว่างแต่อย่างใด จึงอาจทำให้คนขับมองไม่เห็นทาง พุ่งตกลงไปชนตอมอ จนเกิดเหตุสลดในครั้งนี้
นายชาญชัย ปองสันเที้ย ชาวบ้านที่พักอาศัยไม่ไกลจากที่เกิดเหตุ เล่าว่า ขณะเกิดเหตุได้ยินเสียงดังมาก ตอนแรกคิดว่าเป็นเรื่องเครื่องปั่นไฟ หรือเสียงคนงานกำลังก่อสร้างสะพานแห่งนี้ กระทั่งได้ยินเสียงคล้าย มีอะไรระเบิด จึงได้รีบออกมาดู และพบว่าไฟกำลังลุกไหม้รถแท็กซี่อย่างรุนแรง โดยยังพบว่า คนขับกำลังถูกไฟคอกอยู่ในรถ แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ จนมีรถผ่านมาจึงช่วยโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ
“กว่าจะมีคนมาเห็น ก็เป็นเวลานานพอสมควร ส่วนเส้นทางนี้ มีการก่อสร้างสะพาน และมืดมาก โดยไม่มีป้าย หรือไฟเตือนแต่อย่างใด จนชาวบ้านในพื้น พอตกค่ำคืนก็ไม่มีใครอยากออกจากบ้านไปไหนมาไหน เพราะอันตรายจากความมืดของการก่อสร้างสะพานดังกล่าว”
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ ได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมกับถ่ายภาพ ลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน ก่อนจะเคลื่อนย้ายซากรถแท็กซี่คันดังกล่าวไปเก็บรักษาไว้ในที่เก็บของกลาง พร้อมประสานกองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบอีกครั้ง เพื่อติดตามหาผู้ครอบครองรถแท็กซี่คันนี้ เพื่อตรวจสอบว่าผู้ตายเป็นใครและติดตามหาญาติของผู้เสียชีวิตต่อไป