
16 สิงหาคม 2566 จากกรณี "จอมแฉ" ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ออกมาแถลงปม บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ซื้อที่ดินย่านสุขุมวิท โดยใช้นอมินี ระบุชื่อ น.ส.พินิช (สงวนนามสกุล) แม่บ้าน และ นายสมศักดิ์ (สงวนนามสกุล) รปภ. ร่วมกันตั้งบริษัท ซื้อที่ดินทองหล่อ 1 พันล้าน สร้างคอนโดหรูฯ มีเงินทอน 435 ล้าน
ขณะที่ นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย ประกาศเตรียมฟ้อง "ชูวิทย์" จนถึงที่สุด ยืนยันซื้อที่ดินสุขุมวิทตามราคาตลาด ระบุ บริหาร "แสนสิริ" อย่างมีธรรมาภิบาล ด้านนายชูวิทย์ ก็พร้อมออกมาเดินหน้าแฉอีกรอบ ตามข่าวที่เสนอไปก่อนหน้านี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้เดินทางลงพื้นที่บ้านพักของ น.ส.พินิช ในพื้นที่ ต.นาทอง อ.เชียงยืน จ.มหาสารคาม โดยพบว่า บ้านหลังที่ปรากฏในข่าว แต่ไม่มีคนอยู่ภายในบ้าน มีเพียงรถยนต์ 3 คัน จอดอยู่ภายในบริเวณบ้าน และมีน้ำดื่มที่เตรียมไว้ขาย
จากการสอบถามชาวบ้านในหมู่บ้าน บอกว่า บ้านหลังนี้อยู่กัน 6 คน มีนางน้อย อายุ 56 ปี นายนิเวศน์ อายุ 60 ปี มีลูก 2 คน และหลานอีก 2 คน ชาวบ้านไม่เคยรู้ข่าวมาก่อน เรื่องซื้อขายที่ดินทองหล่อ จนกระทั่งวันนี้ ที่มีนักข่าวเข้ามาในพื้นที่ จึงทราบว่ามีข่าวลักษณะนี้เกิดขึ้น แต่ส่วนตัวไม่เชื่อว่า เพื่อนบ้านจะเป็นไปตามข่าวที่ปรากฏ เพราะที่ผ่านมา เห็นคนบ้านนี้ อยู่บ้านตลอด
ในช่วงเช้าก็ยังเห็นอยู่บ้านตามปกติ บางวันก็ออกไปนา ไปไร่ อีกทั้งยังมีธุรกิจขายน้ำดื่ม มีเพียงลูกสาวที่เคยไปทำงานที่ กทม. เมื่อประมาณ 5 ปีที่แล้ว แต่ก็กลับมาอยู่บ้าน ทำธุรกิจน้ำดื่มตามปกติ
ขณะที่ สามีของ น.ส.พินิช เปิดเผยว่า ข่าวที่ปรากฏตามสื่อฯ รู้สึกงงเป็นอย่างมาก เพราะข่าวที่ออกไป ที่มีการระบุว่า มีเงินเข้ามาเกี่ยวข้องถึง 1,000 ล้านบาท ที่ว่าไปกู้มา โดยส่วนตัวแล้วไม่รู้เรื่องนี้เลย แต่ก่อนหน้านี้ 4-5 วัน ก็มีคนมาถ่ายรูปที่บ้าน อีกวันก็มีคนขับรถ "ปาเจโร่" เข้ามา แต่ก็ไม่ยอมมาลงจากรถ
สำหรับรูปที่ นายชูวิทย์ เอาไปเผยแพร่ ก็เป็นภาพใหม่ๆ เพราะเพิ่งจะมีการปรับปรุงบ้านไปได้ไม่ถึง 2 สัปดาห์ ซึ่งที่ผ่านมาก็ยังเอะใจเรื่องคนมาถ่ายรูปอยู่เหมือนกัน แต่ก็ไม่คิดว่า จะเป็นแบบนี้ จนกระทั่งมาเป็นข่าว เพื่อนๆ ก็ส่งข่าวมาให้ดู
"รู้สึกตกใจมาก นอนก็ไม่หลับ เมียก็ท้อง 7 เดือนใกล้คลอดแล้ว และรู้สึก งง ว่า ชื่อของแฟน ไปโผล่อยู่ตรงนั้นได้ยังไง"
กระทั่งมาทราบภายหลังว่า มีคนที่มาถ่ายรูปและออกไปตามสืบ บริเวณรอบๆ หมู่บ้านมาก่อน โดยมีการสอบถามว่า บ้านตนทำอาชีพอะไร ก่อนที่จะเข้ามาที่บ้าน เป็นใครมาจากไหน ก็ไม่รู้ว่าเป็นใคร
ขณะนี้เมื่อมีข่าวที่ออกไปส่งผลกระทบมาก ส่งผลเสียเยอะมาก ตั้งแต่เกิดเรื่อง ยังไม่ได้นอนเลย ยืนยันว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินจำนวนดังกล่าว เพราะหากพวกตนมีเงินมากถึงพันล้านจริง ป่านนี้ก็คงไม่มาอยู่อย่างนี้ บอกตรงๆ ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นได้ไปแจ้งความเอาไว้แล้ว ส่วนจะดำเนินการอย่างไรต่อไป ก็ต้องขอดูก่อน