
12 กรกฎาคม 2566 จากกรณีคดีสะเทือนขวัญ "แก๊งเยอรมัน"ฆ่าหั่นร่างนักธุรกิจพันล้าน อำพรางตู้แช่แข็ง เหยื่อคือ นายฮันส์ ปีเตอร์แรลเตอร์ มัค ( MR.HANS PETER RALTER MACK ) หรือ "ฮันส์ ปีเตอร์" อายุ 62 ปี นักธุรกิจชาวเยอรมัน หายตัวไปอย่างลึกลับพร้อมรถเบนซ์หรู ซึ่งทางครอบครัวเข้าพบกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เพื่อขอให้เร่งติดตามคดี
กระทั่งช่วงดึกวันที่ 10 ก.ค.ที่ผ่านมา เมื่อเวลา 22.00 น. มีรายงานว่าตำรวจไล่กล้องวงจรปิดจาก จุดที่จอดรถทิ้งไว้ หลังคอนโดแห่งหนึ่ง พบว่า ฮันส์ ปีเตอร์ ถูกพาตัวมาที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ที่อยู่ไม่ห่างจากจุดทิ้งรถ เมื่อเข้าไปตรวจสอบพบตู้เเช่เย็น ถูกปิดด้วยผ้าเทปอย่างเเน่นหนา กระทั่งพบร่างอยู่ในถังดังกล่าว ผลพิสูจน์อัตลักษณ์ ยืนยันในตู้เเช่ ร่าง"ฮันส์ ปีเตอร์" จึงขอศาลออกมหายจับ 3 ผู้ต้องหาในข้อหา "ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตรตรองไว้ก่อน" เเละ "ปิดบังซ่อนเร้น อำพรางศพ"
ตำรวจใช้เวลาไม่นาน สามารถจับกุมตัว นายโอลาฟ สัญชาติเยอรมัน ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพัทยา ได้ที่พื้นที่เขตบางนา กรุงเทพฯ พร้อมควบคุมตัว นางนิโคล ชาวเยอรมัน หนึ่งในพยานปากสำคัญ ซึ่งอยู่ในบ้านเช่าที่เก็บตู้แช่แข็ง และ นางเพธา ผู้ที่อยู่กับ "ฮันส์ ปีเตอร์" เป็นคนสุดท้าย สอบสวนที่ สภ.หนองปรือ ตามที่เสนอข่าวไปก่อนหน้านี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
ล่าสุด เมื่อเวลา 23.15 น. วันที่ 11 ก.ค.ที่ผ่านมา ที่ห้อง ศปก.สภ.เมืองพัทยา พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล "บิ๊กโจ๊ก" รอง ผบ.ตร. ได้เดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไปประชุมติดตามความคืบหน้าของคดีแก๊งอุ้มฆ่าหั่นศพ "ฮันส์ ปีเตอร์" นักธุรกิจพันล้านชาวเยอรมัน อำพรางร่างตู้แช่เย็น ร่วมกับ พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.ภ.2 พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ รอง ผบช.ภ.7 รรท.ผบก.ภ.จว.ชลบุรี พล.ต.ต.ธีระชัย ชำนาญหมอ ผบก.สส.ภ.2 พ.ต.อ.ศานติ กรเกษม ผกก.สส.ภ.จว.ชลบุรี พร้อมชุดคลี่คลายคดีจากหลายหน่วยงาน ใช้เวลาประชุมนานกว่า 1 ชั่วโมง
จากนั้น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ให้สัมภาษณ์ว่า ต้องขอบคุณและชื่นชม ตำรวจชุดทำงานในพื้นที่ ซึ่งบูรณาการกำลังร่วมกัน จากการทำงานทางเราใช้เวลาเพียง 1 วันเศษ สืบสวนสอบสวนจนไปสู่การพบศพ "ฮันส์ ปีเตอร์" นักธุรกิจชาวเยอรมัน ที่ถูกลงมือฆ่าอย่างโหดเหี้ยม
ในส่วนของผู้ต้องหา ที่ศาลจังหวัดพัทยาอนุมัติหมายจับ ทั้งหมดรวม 3 ราย ขณะที่ตำรวจได้จับกุมไป 2 รายแล้ว ประกอบด้วย นางเพธา คริสตอล นายหน้าซื้อขายที่ดินชาวเยอรมัน และตัวการสำคัญคือ นายโอลาฟ ธอร์สเตน บริงมันน์ สมาชิกแก๊ง "Outlaws" ส่วนนายนายซาฮ์รูค คารีม อุดดิน อายุ 27 ปี สัญชาติไทย เชื้อชาติปากีสถาน ยังคงหลบหนี เชื่อว่าตำรวจน่าจะได้ตัวในเร็วๆนี้
ขณะที่นางนิโคล เจ้าของบ้านเช่าที่นำศพไปซุกซ่อน เบื้องต้นได้มีการแจ้งข้อกล่าวหา “อำพรางซ่อนเร้น” พร้อมทั้งทำการเพิกถอนวีซ่า
"มั่นใจว่าตำรวจมีพยานหลักฐานมากพอ ที่ศาลจะสามารถตัดสินลงโทษดำเนินคดีเอากับผิดกลุ่มผู้ต้องหาได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นหลักฐานจากดีเอ็นเอ ลายนิ้วแฝง กล้องวงจรปิด และร่องรอยพยานหลักฐานต่างๆ และคดีมีความสมบูรณ์เป็นอย่างมาก"
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
ส่วนแรงสาเหตุจูงใจ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า การฆ่าเป็นเรื่องประสงค์ต่อทรัพย์ ไม่มีอะไรที่น่าซับซ้อน เพราะว่าตัวนายฮันส์ เป็นนักธุรกิจค่อนข้างมีฐานะทางการเงิน
อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้จะมีการไล่เช็กการเชื่อมโยง เพื่อจะดูว่ามีคนไทยเข้ามาสนับสนุนช่วยเหลือหรือไม่ ซึ่งในตัวหัวหน้าขบวนการหลักคือ นายโอลาฟ สมาชิกแก๊ง “Outlaws” แปลเป็นไทยคือ “พวกนอกกฎหมาย” โดยก่อนหน้านี้เมื่อหลายปีก่อน นายโอลาฟ เคยถูกจับกุมคดียาเสพติดมาแล้ว
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า ได้สั่งการกำชับตำรวจภูธรภาค 2 ให้รีบเร่งรัดไปเอกซเรย์สแกนกลุ่มอาชญากรข้ามชาติ ที่มาตั้งฐานปักหลักอยู่ในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ เช่น ในพื้นที่เมืองพัทยา และหนองปรือ รวมถึงภูเก็ต และเกาะสมุย โดยยกตัวอย่าง กลุ่มอาญากรเหล่านี้จะเข้ามาเที่ยวที่เมืองพัทยา และพักอาศัยอยู่ในพื้นที่หนองปรือ ซึ่งเป็นพื้นที่เชื่อมโยงกัน โดยวิธีการจะไปเข้าหากินกับคนประเทศเดียวกัน ซึ่งจะทำตัวเป็นมาเฟียและผู้มีอิทธิพล เรียกเก็บค่าคุ้มครอง ถ้าหากใครจะมาทำธุรกิจอะไรก็จะต้องผ่านบุคคลเหล่านี้
"เน้นย้ำว่าหลังจากนี้ต้องไม่มีกลุ่มแก๊งเหล่านี้แล้ว พร้อมเดินปราบปรามอย่างจริงจังเพื่อให้หมดไปจากในพื้นที่"
หลังจากนี้จะมีการเข้าค้นแหล่งมั่วสุมต่างชาติกันบ่อยขึ้น และถ้าประชาชนมีข้อมูลหรือเบาะแส สามารถแจ้งมาได้ตลอด จากนี้เป็นต้นไป หากชาวต่างชาติรายใดกระทำความผิด ก่อคดีซ้ำซากก็จะทำการเพิกถอนวีซ่า และผลักดันออกนอกประเทศ พร้อมขึ้นบัญชีแบล็คลิสต์ถาวร ห้ามเข้าประเทศไทยเป็นอันขาด เพราะว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแตะละครั้ง สร้างความเสียหายให้กับเศรษฐกิจแหล่งท่องเที่ยวสำคัญเป็นอย่างมาก