
7 กรกฎาคม 2566 ความคืบหน้าคดีสังหารโหด "ป้าอ้อย" นางดารัณ แพลอย อายุ 58 ปี เจ้าหน้าที่ฝ่ายทะเบียน มหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรี ซึ่งหายตัวไปตั้งแต่วันที่ 30 มิ.ย. 66 ต่อมาวานนี้ (6 กรกฎาคม) น.ส.วิลาวัณย์ แสงประดับเพชร หรือ "สาว" ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมงาน ยอมรับสารภาพอ้างว่า นายนิติ จุลสำราญ หรือ "กอล์ฟ" ได้ปลิดชีพ ป้าอ้อย และนำร่างไปโยนทิ้งเหวลึก 10 เมตร ริมอ่างเก็บน้ำ เขื่อนศรีนครินทร์ จ.กาญจนบุรี ก่อนที่จะมีการพบร่างในจุดเกิดเหตุ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
ซึ่งต่อมา ศาลจังหวัดกาญจนบุรี ได้ออกหมายจับ น.ส.วิลาวัณย์ แสงประดับเพชร หรือ "สาว" และ นายนิติ จุลสำราญ หรือ "กอล์ฟ" ทั้งสิ้น 5 ข้อหา คือ โดยตำรวจ สภ.เมืองกาญจนบุรี ได้คุมตัวผู้ต้องหาทั้งสอง ไปสอบปากคำ ตามที่นำเสนอก่อนหน้า
ล่าสุด เมื่อเวลา 14.00 น. พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรง ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ลงพื้นที่ สภ.เมืองกาญจนบุรี เพื่อสอบปากคำผู้ต้องหา และแถลงข่าวสรุปคดีที่เกิดขึ้น โดยทันทีที่เดินทางมาถึง ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ได้เข้าประชุมร่วมกับ ชุดสืบสวนคลี่คลายคดี เป็นเวลาประมาณ 50 นาที ก่อนจะเข้าไปพูดคุยกับ "น.ส.สาว" และ "นายกอล์ฟ" สองผู้ต้องหา โดยได้สอบถามถึงแรงจูงใจ และมูลเหตุในการก่อคดีประมาณ 20 นาที
จากนั้น จึงได้ลงมาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน พร้อมนำของกลาง ประกอบด้วย รถยนต์ ฮอนด้า แอคคอร์ด ซึ่งใช้ในการก่อเหตุ ลวง "ป้าอ้อย" ไปฆ่ารัดคอ รถจักรยานยนต์ที่ "นายกอล์ฟ" ใช้ในการนำบัตรประชาชน และทรัพย์สินของ "ป้าอ้อย" ไปเผาทำลายมาร่วมในการแถลงข่าวด้วย
ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 7 กล่าวว่า ในการสืบสวนคลี่คลายคดีนั้น ตำรวจระดมกำลังสืบสวนหาข่าวอย่างเต็มที่ จนสามารถขอศาลอนุมัติหมายจับ ผู้ต้องหาทั้ง 2 คน คือ น.ส.วิลาวัณย์ แสงประดับเพชร หรือ "สาว" อายุ 38 ปี และนายนิติ จุลสำราญ หรือ "กอล์ฟ" โดยในส่วนของ น.ส.สาว นั้น เป็นเพื่อนร่วมงานกับ "ป้าอ้อย" และรู้จักคุ้นเคยกันมาเป็นเวลานาน
ส่วน "นายกอล์ฟ" เป็นคนรู้จักสนิทสนมคุ้นเคย กับ น.ส.สาว มานาน ในการลงมือก่อเหตุครั้งนี้ ก็เพื่อต้องการที่จะ ปลดหนี้ ที่ น.ส.สาว เคยไปขอให้ "ป้าอ้อย" ช่วยออกรถมาให้ จำนวน 3 คัน โดยตกลงว่า จะให้เงินค่าตอบแทน จำนวนหนึ่งล้านบาท แต่เมื่อ "ป้าอ้อย" ออกรถมาให้เรียบร้อย น.ส.สาว กลับให้เงินไม่ครบตามที่สัญญา
เมื่อ "ป้าอ้อย" ถูกไฟแนนซ์ตามทวงถามเรื่องค่างวดรถ จึงได้ไปทวงเงินกับ น.ส.สาว ทำให้ น.ส.สาว วางแผนลงมือฆ่า "ป้าอ้อย" โดยลวงว่า จะพาไปหาเพื่อนที่เป็นนายทุน ในอำเภอศรีสวัสดิ์ เพื่อนำเงินมาปลดหนี้ ค่ารถทั้งสามคัน ก่อนจะรับ "ป้าอ้อย" ขึ้นรถและลงมือฆ่ารัดคอ มีนายกอล์ฟเป็นผู้ร่วมลงมือ โดย น.ส.สาว จ้าง นายกอล์ฟ ในราคา 20,000 บาท
พล.ต.ต.ไพโรจน์ คุ้มภัย ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวว่า หลังตำรวจรับแจ้งเรื่อง การหายตัวไปของ "ป้าอ้อย" เมื่อช่วงเย็นวันที่ 1 ก.ค. 66 ก็ได้มีการออกติดตาม สืบจากกล้องวงจรปิด ตั้งแต่หน้ามหาวิทยาลัย จนพบว่า ป้าอ้อย ขี่รถจักรยานยนต์ ไปจอดที่ปั๊มน้ำมัน ในพื้นที่ ต.ลาดหญ้า จากนั้น ได้มีรถฮอนด้า แอคคอร์ด ซึ่งมี น.ส.สาว เป็นคนขับ มีนายกอล์ฟ นั่งมาด้วย มารับ ป้าอ้อย ไป โดยมุ่งหน้าไปทาง อ.ศรีสวัสดิ์ โดยกล้องวงจรปิด ที่จับภาพรถของผู้ก่อเหตุได้จุดสุดท้าย ก็คือในพื้นที่ ม.4 บ้านท่าสนุ่น ต.ด่านแม่แฉลบ อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี
เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัว น.ส.สาว และ นายกอล์ฟ มาสอบปากคำอย่างละเอียด สุดท้าย ด้วยพยานหลักฐานต่าง ๆ ทำให้ทั้งคู่ยอมรับสารภาพว่า ได้ร่วมกันลงมือฆ่า "ป้าอ้อย" จริง โดยนำศพไปทิ้งลงเหว ริมถนนสาย 3199 กาญจนบุรี - ศรีสวัสดิ์ ห่างจากท่าจอดแพขนานยนต์ ประมาณ 3 กม. ซึ่งเมื่อไปตรวจสอบ ก็พบศพของ ป้าอ้อย อยู่ในจุดดังกล่าวจริง
ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 กล่าวว่า พฤติกรรมการก่อเหตุ ของผู้ก่อเหตุทั้งสองราย มีความโหดเหี้ยมอำมหิต โดยเริ่มจากการให้ น.ส.สาว ขับรถไปรับ ป้าอ้อย ที่ปั๊มน้ำมัน จากนั้น ให้ ป้าอ้อย นั่งเบาะหน้าข้างคนขับ
จากนั้น นายกอล์ฟ ที่นั่งอยู่เบาะด้านหลัง ใช้เชือกที่เตรียมมา ลงมือรัดคอ ป้าอ้อย จากด้านหลัง โดยที่ น.ส.สาว ทำหน้าที่ขับรถมุ่งหน้าไป อ.ศรีสวัสดิ์ จากนั้น เมื่อถึงกลางทาง ได้เปลี่ยนหน้าที่ให้ นายกอล์ฟ มาขับรถแทน และให้ น.ส.สาว ไปรัดคอป้าอ้อยซ้ำ เพื่อให้แน่ใจว่าเสียชีวิตแล้ว
เมื่อไปถึงจุดทิ้งศพ ได้ช่วยกันยกศพลงจากรถ และทิ้งศพลงข้างทาง ก่อนจะขับรถกลับออกมาอย่างรวดเร็ว หลังจากแยกย้ายกัน โดย นายกอล์ฟ รับหน้าที่ขี่รถจักรยานยนต์ นำเอาทรัพย์สิน และบัตรประชาชนของ ป้าอ้อย มาเผาทำลายที่ท่าน้ำบ้านท่าเพนียด
ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ยังได้กล่าวว่า ก่อนจะลงมือก่อเหตุ ผู้ต้องหาทั้งสองคน ได้มีการวางแผน และสำรวจเส้นทาง ที่จะนำศพไปทิ้งเป็นอย่างดี ซึ่งหลังจากนี้ จะได้พิจารณาว่า จะดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้งสองคน ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน เพิ่มด้วยหรือไม่
นอกจากนี้ ในเรื่องของขบวนการ จ้างผู้อื่นให้ไปดาวน์รถ แล้วนำมาขายนั้น ขณะนี้ ตนได้สั่งการให้ชุดสืบสวน ตำรวจภูธรภาค 7 ลงพื้นที่มาทำคดีนี้แล้ว โดยจะได้สืบสวน หาเพื่อนร่วมขบวนการ รวมถึงกลุ่มนายทุน และผู้ที่รับซื้อรถเหล่านี้ ให้ได้ทั้งขบวนการ
ทั้งนี้ ในระหว่างการแถลงข่าว ได้มี "ครูหนึ่ง" ซึ่งเป็นครูในมหาวิทยาลัยราชภัฎกาญจนบุรี เดินทางมาขอพบผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 7 เพื่อแสดงความบริสุทิ์ใจว่า ตนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง ในการก่อคดีครั้งนี้ เนื่องจาก "ครูหนึ่ง" มีชื่อเป็นเจ้าของรถฮอนด้า ที่ น.ส.สาว ใช้ในวันก่อเหตุ
โดย ครูหนึ่ง ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่า ตนได้รับการขอร้องจาก น.ส.สาว ที่รู้จักกันมานับสิบปี ให้ช่วยใช้ชื่อไปออกรถคันดังกล่าวให้ โดย น.ส.สาว จะให้ค่าตอบแทน จำนวน 50,000 บาท โดย น.ส.สาว อ้างว่า อยากได้รถไว้ใช้รับส่งลูก ด้วยความรู้จักคุ้นเคยและไว้ใจ จึงตกลงให้ใช้ชื่อไปออกรถคันดังกล่าว แต่ไม่ได้รับเงินห้าหมื่นบาทมาแต่อย่างใด