29 มิถุนายน 2566 ความคืบหน้า กรมศุลกากรจับทุเรียนเถื่อน น้ำหนักกว่า 8 ตัน มูลค่ากว่า 1 ล้านบาท ในพื้นที่ จ.สระแก้ว โดยระบุ เป็นทุเรียนมีถิ่นกำเนิดต่างประเทศ ไม่ปรากฎเอกสารหลักฐานแสดงการผ่านพิธีการศุลกากรโดยถูกต้อง จึงยึดของกลางทั้งหมดส่งดำเนินคดี ต่อมาเจ้าของล้งทุเรียน ได้ร้องเรียนกับ นายอัมรินทร์ ยี่เฮง เครือข่ายภาคประชาชนจังหวัดสระแก้ว ยืนยันว่า ทุเรียนดังกล่าวซื้อมาอย่างถูกต้อง จากเจ้าของสวนในพื้นที่ จ.ศรีสะเกษ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
ตามมาด้วยการที่ต่างฝ่าย ต่างนำข้อมูลออกมาโต้กัน โดยเฉพาะประเรื่องการพบมี ใบ GAP ปรากฏชื่อในการขนส่งทุเรียนชุดนี้ ชื่อ นายสมัย สุยคำไฮ เกษตรกรสวนทุเรียน ม.10 ต.พราน อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งนายสมัย ยืนยันว่า ทุเรียนที่ถูกตรวจยึด ไม่ใช่ทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษที่สวน เชื่อมีขบวนการสวมสิทธิ์ GAP นั้น
ล่าสุด ที่ห้องสอบสวน สภ.คลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว นายอัมรินทร์ ยี่เฮง เครือข่ายภาคประชาชนจังหวัดสระแก้ว พร้อมเจ้าของล้งทุเรียนแห่งหนึ่งใน จ.จันทบุรี มี นายนภดล ปิ่นทอง อายุ 36 ปี ตัวแทนล้ง และคนขับรถ 6 ล้อ เดินทางเข้าลงบันทึกประจำวัน เมื่อวันที่ 25 มิ.ย. 66 หลังทุเรียนของกลาง 8 ตันเศษ มูลค่า 1.178 ล้านบาท ที่ถูกจับกุมและตรวจยึดไปเมื่อวันที่ 23 มิ.ย. 66 และถูกนำออกมาขายให้หน่วยต่าง ๆ ในราคา 50 ลูก 7,500 บาท โดยอ้างว่า เจ้าของยินยอมทำการระงับคดีในชั้นศุลกากร
ซึ่งหลังเดินทางมาตรวจสอบของกลาง และขอประมูลของกลาง แต่ปรากฏว่า ของกลางถูกขายออกไปจำนวนมากและไม่มีผู้ใดให้คำตอบที่ถูกต้องได้ จึงได้ลงบันทึกประจำวันกับ พ.ต.ต.กิตติพัศ ขจรพงศ์ชัยกุล สว.(สอบสวน) สภ.คลองลึก ไว้เป็นหลักฐาน
โดยวันนี้เจ้าของล้งทุเรียนดังกล่าว ได้เดินทางมาแจ้งความเพิ่มเติมที่ สภ.คลองลึก พร้อมกับตัวแทนและทนายความ โดยขอปกปิดชื่อกับผู้สื่อข่าว เนื่องจากเกรงว่า จะมีผลต่อการดำเนินธุรกิจ โดยกล่าวหาเจ้าหน้าที่่ศุลกากรอรัญประเทศทำผิด พ.ร.บ.อุ้มหาย ซึ่งพนักงานสอบสวน ได้สอบสวนเจ้าของล้งทุเรียน และคนขับรถ 6 ล้อ โดยมีทนายความร่วมฟังการสอบสวนด้วย
หลังจากนั้นทางล้งทุเรียน ได้เดินทางไปที่ศุลกากรอรัญประเทศ เพื่อแจ้งความประสงค์ขอคืนของกลางจำนวนดังกล่าว และรถยนต์ 6 ล้อที่ถูกยึดไว้ เนื่องจากผ่านมาเกือบ 1 สัปดาห์แล้ว เกรงว่าสินค้าจะได้รับความเสียหาย พบว่าสำนักงานศุลกากรอรัญประเทศ ปิดประตูเหล็กด้านหน้า
โดยเปิดให้เข้าช่องเล็ก ๆ ส่วนที่สำนักงานไม่รับเรื่อง และไม่ให้กลุ่มดังกล่าวเข้าไปด้านใน ขอให้ตัวแทนหรือเจ้าของรถ ดำเนินการมอบอำนาจมาดำเนินการภายหลัง ทางล้งทุเรียน คนขับรถและทนายความ จึงเดินทางกลับไป พร้อมกับถ่ายคลิปไว้
สำหรับบรรยากาศที่ด่านผ่านแดนถาวร บ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ เจ้าหน้าที่ด่านศุลกากร เจ้าหน้าที่ด่านตรวจพืชอรัญประเทศ ด่านตรวจสินค้าเกษตร และจุดตรวจร่วมยาเสพติด และสิ่งผิดกฎหมาย กองร้อยทหารพรานที่ 1302 ชุดควบคุมกรมทหารพรานที่ 13 ได้เข้มงวดตรวจสอบการนำสินค้า และสิ่งผิดกฎหมาย เข้า - ออก ชายแดนอย่างเข้มงวด ในกรณีสินค้าเกษตร เช่น ทุเรียน หากนำเข้า หรือนำออกไปจำนวนไม่มาก ก็สามารถนำข้ามชายแดนได้ ยกเว้น ต้นพืช พืชพันธุ์ ที่เป็นสิ่งของต้องห้าม
จากนั้นผู้สื่อข่าว ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบแผง และร้านค้าขายทุเรียน ในตลาดโรงเกลือ ตลาดการค้าชายแดนไทย - กัมพูชา ซึ่งมีแผงทุเรียนขนาดเล็ก-ใหญ่ นำทุเรียนมาขายไม่มาก จำนวนเพียง 5 - 6 ร้านเท่านั้น ซึ่งแม่ค้าทุเรียนชาวกัมพูชา ในตลาดโรงเกลือรายหนึ่ง บอกว่า ไม่เคยมีใครนำทุเรียนจากกัมพูชา มาขายในตลาดโรงเกลือ
เพราะในกัมพูชามีการปลูกไม่มาก มีเป็นส่วนน้อยที่ออกลูกแล้ว ซึ่งราคาหากส่งมาขายที่ฝั่งไทย จะตกราคาเกือบ 200 บาท/กิโลกรัม ขณะที่ไปซื้อทุเรียนจากจันทบุรี ระยอง มาขาย ราคาส่งเพียงโลละ 100 - 130 บาทเท่านั้น สามารถขายได้ในราคาโลละ 150 - 160 บาท สวนทุเรียนที่เพิ่งปลูกใหม่ในกัมพูชา ก็ยังเล็กอยู่ ไม่มีผลผลิต
ที่ได้ยินข่าวว่าจับมา 8 ตัน เชื่อว่าเป็นทุเรียนของไทย เยอะขนาด 7 - 8 ตันไม่มีหรอก ไม่มีใครเชื่อ ขายทุเรียนตรงนี้มา 6 ปี มีแต่ซื้อจากจันทบุรี ระยอง ถ้าหมดก็ซื้อทุเรียนจากใต้ เพื่อเอามาขาย หลังจากนั้นชาวกัมพูชา พ่อค้าที่ขายกันอยู่ในตลาดโรงเกลือ ก็จะแบ่งเอาครั้งละ 100 กว่าโล เอาใส่รถเข็นข้ามไปขายฝั่งโน้น ซึ่งที่ตลาดเขาดิน ก็เอาไปขายแบบนี้ ถ้าฝั่งโน้นมาแพง ใครจะเอามาขาย ขายตรงนี้มา 5 - 6 ปี ไม่เคยมีทุเรียนจากกัมพูชา มาขายแน่นอน ไม่มีมาขายแน่ ๆ