17 มิถุนายน 2566 เร่งช่วยเหลือผู้อพยพชาวกะเหรี่ยง โดย นายสุรเชษฐ์ พุ้ยน้อย นายอำเภอแม่สะเรียง เปิดเผยว่า เร่งให้การช่วยเหลือผู้อพยพเบื้องต้น ประเภทสิ่งของที่มอบมี ข้าวสาร อาหารแห้ง มาม่า ปลากระป๋อง ปลาเค็ม ขนม เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อน พร้อมทั้งร่วมวางแผน จัดการบริหารงานภายในกับศูนย์อำนวยยการร่วมฯ ณ พื้นที่ปลอดภัยชั่วคราวบ้านเสาหิน ห่างจากชายแดนประมาณ 3 กิโลเมตร
ทั้งนี้ จากสถานะการณ์ความไม่สงบในประเทศเพื่อนบ้าน จึงทำให้ชาวบ้านชุมชนกะเหรี่ยงชายแดนไทย-พม่า หอบลูกจูงหลานหนีการสู้รบมาเพื่อความปลอดภัยเข้าสู่ชายแดนช่องทางเสาหิน ทางศูนย์สั่งการชายแดน ไทย-เมียนมา จังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้จัดพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราวให้พักที่บ้านเสาหิน และได้ให้ความช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรม
แต่ด้วยสถานการณ์ค่อนข้างฉุกเฉิน และมีชาวบ้านหนีมาค่อนข้างจำนวนมาก จึงทำให้การเตรียมพร้อมนั้นเริ่มมีปัญหาในด้านการให้ความช่วยเหลือ ทั้งเรื่องสถานที่ในการรองรับไม่เพียงพอ ด้านการสาธารณสุข อาหาร นมและน้ำสะอาด เพราะชาวบ้านที่หนีมาบางรายมีแต่เสื้อผ้าติดตัวเท่านั้น
ผู้อพยพมีทั้งเด็กแรกเกิด หญิงมีครรภ์ ผู้ป่วย ผู้สูงอายุ ผู้พิการ(บางคนไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้) ลูกหลานต้องแบกหามเข้ามายังเขตประเทศไทย
สำหรับสถานการณ์ใน อ.แม่แจ๊ะ จ.ลอยก่อว์ รัฐคะยา แหล่งข่าวแจ้งว่า ทหารพม่าได้ใช้อากาศยานทิ้งระเบิดใส่บ้านเรือนประชาชน ทำให้มีอาคารหลายหลัง เสียหายยับเยินอย่างหนัก ซึ่งการกระทำดังกล่าว ยิ่งเป็นการผลักดันให้มีผู้ลี้ภัยหนีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยนายอำเภอแม่สะเรียงกล่าวว่า มีความจำเป็นที่จะต้องช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ตามหลักมนุษยธรรม ผู้หนีภัยจากการสู้รบ ที่จุดพักบ้านเสาหิน จำนวน 3,076 คน
อย่างไรก็ตามคาดว่า จะยังคงมีผู้อพยพทยอยเข้ามาเพิ่มอีก ทำให้มีปัญหาทั้งที่พักอาศัย ฝนตก อาหารไม่เพียงพอ ยารักษาโรค ระบบสุขอนามัย ซึ่งในเบื้องต้นสิ่งของที่ต้องการ ประกอบไปด้วย น้ำดื่ม ข้าวสาร อาหารแห้ง ของกินของใช้ นมเด็กอ่อน ยากันยุง ยาสามัญประจำบ้าน อุปกรณ์การทำอาหาร เป็นต้น น้ำดื่มและนมเด็ก ยังเป็นสิ่งที่ต้องการมากที่สุด
ทั้งนี้ ปริมาณข้าวสารใน 1 วัน ใช้ประมาณ 20 กระสอบ (กระสอบละ45 กก.) หากต้องการจะบริจาคช่วยเหลือให้ประสานที่ สนง.กิ่งกาชาดอำเภอแม่สะเรียง เบอร์โทร 0639032081 และสามารถนำไปส่งมอบที่ จุดพักผู้ลี้ภัยบ้านเสาหินได้
การเดินทางเข้าพื้นที่ จะต้องเดินทางโดยรถยนต์ 4W จากที่ว่าการอำเภอแม่สะเรียงใช้เวลาประมาณ 4-5 ชม.หากมีฝนตกอาจทำให้มีปัญหาในเส้นทางและต้องระมัดระวังเป็นพิเศษเพราะรถจะต้องวิ่งลัดเลาะไปตามลำห้วยเท่านั้น