14 มิถุนายน 2566 จากกรณี กองกำลังติดอาวุธ กลุ่มกะเหรี่ยงคะยา สนธิกำลังระหว่าง KA , KNDF และ PDF บุกเข้าโจมตีสถานีตำรวจบ้านแม่แจ๊ะ ในรัฐคะยา และค่ายทหารอีก 3 แห่ง ส่งผลให้มี ผู้ลี้ภัยสงครามในเมียนมาทะลักข้ามแดนเข้าไทย ทางชายแดนจังหวัดแม่ฮ่องสอนกว่า 3.3 พันคน
ล่าสุด วันนี้ (14 มิ.ย.) นายเชษฐา โมสิกรัตน์ ผวจ.แม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การสู้รบในพื้นที่รัฐคะยา ประเทศเมียนมา ซึ่งมีพรมแดนติดกับจังหวัดแม่ฮ่องสอน ส่งผลให้มีผู้ลี้ภัยสงครามหนีเข้ามาพึ่งพิงในพื้นที่ จ.แม่ฮ่องสอน จำนวน 3,342 คน โดยแบ่งพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว ได้ดังนี้
ทั้งนี้ ศูนย์สั่งการชายแดนจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้จัดกำลัง อส. ร่วมกับ ทหาร และ อบต.เข้าไปให้การช่วยเหลือและดูแลผู้หนีภัยสงครามเหล่านั้นตามหลักมนุษยธรรมแล้ว
ด้าน กองกำลังนเรศวร และฝ่ายปกครองจังหวัดแม่ฮ่องสอน ดำเนินการติดตามสถานการณ์ในฝั่งเมียนมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อเตรียมความพร้อมในการรองรับสถานการณ์ที่อาจส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนไทย โดยทางด้านกองทัพอากาศ จัดอากาศยานขึ้นบินลาดตระเวนตามแนวพื้นที่ชายแดน จังหวัดตาก และจังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อป้องกันการรุกล้ำอธิปไตย
ด้าน นายคู เนียล รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยแห่งรัฐคะเรนนี ระบุว่า กองกำลังคะเรนนี ได้ทำการโจมตีและยึดสถานีตำรวจในเมืองแม่แจ๊ะ รวมทั้งค่ายทหาร ทั้ง 3 แห่ง ได้แก่ ค่ายมูติน ค่ายโอกิ และค่ายทหารสังกัดกองพันเคลื่อนที่เร็วที่ 430 ตรงข้ามช่องทางบ้านเสาหิน ของประเทศไทย
ก่อนหน้านั้น ทางกองกำลังกะเหรี่ยงคะยา ได้ทำการยึดฐานที่มั่นของทหารเมียนมา อีก 3แห่ง ในพื้นที่ตรงข้ามช่องทาง BP 11 ตรงข้ามช่องทางบ้านน้ำเพียงดิน ต.ผาบ่อง อ.เมือง และ BP 12 ตรงข้ามช่องทางบ้านแม่สุริน ต.ขุนยวม อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน