ผู้อพยพชาวกะเหรี่ยง หนีภัยสงคราม ยังทะลักเข้าไทยอย่างต่อเนื่อง
ผู้อพยพยังทะลักเข้าไทยอย่างต่อเนื่อง ผู้อพยพชาวกะเหรี่ยงคะยา ยังคงทะลักเข้าสู่ประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง นายอำเภอแม่สะเรียง และ นายอำเภอขุนยวม เร่งลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ผู้หนีภัยความไม่สงบ มอบสิ่งของช่วยเหลือ เร่งสร้างพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราวรองรับผู้ลี้ภัย
16 มิถุนายน 2566 จากกรณี กองกำลังติดอาวุธ กลุ่มกะเหรี่ยงคะยา สนธิกำลังระหว่าง KA , KNDF และ PDF บุกเข้าโจมตีสถานีตำรวจบ้านแม่แจ๊ะ ในรัฐคะยา และค่ายทหารอีก 3 แห่ง ส่งผลให้มี ผู้ลี้ภัยสงครามในเมียนมาทะลักข้ามแดนเข้าไทย ทางชายแดนจังหวัดแม่ฮ่องสอนกว่า 3.3 พันคน ทางการไทยเร่งลงพื้นที่ ติดตามสถานการณ์ผู้หนีภัยความไม่สงบ มอบสิ่งของช่วยเหลือ เร่งสร้างพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราวรองรับผู้ลี้ภัย
ล่าสุด นายสุรเชษฐ์ พุ้ยน้อย นายอำเภอแม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ได้เดินทางเข้าติดตามสถานการณ์ชายแดนบ้านเสาหิน ต.เสาหิน อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน โดยมีทาง หน่วยเฉพาะกิจสิงหนาท (ร.17) เจ้าหน้าที่ทหารพรานที่ 36 เจ้าหน้าที่ อบต.เสาหิน เจ้าหน้าที่ ตร.สภ.เสาหิน ช่วยจัดระเบียบควบคุมดูแล ผู้ลี้ภัยสงคราม ที่ทางเจ้าหน้าที่ได้กางเต็นท์อยู่บริเวณ สภ.เสาหิน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเด็ก ผู้หญิง คนแก่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
พร้อมกันนี้ นายอำเภอแม่สะเรียง ร่วมกับ พัฒนาการอำเภอแม่สะเรียง ท้องถิ่นอำเภอแม่สะเรียง เกษตรอำเภอแม่สะเรียง เป็นตัวแทนนำสิ่งของจากสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดแม่ฮ่องสอน กิ่งกาชาดอำเภอแม่สะเรียง คณะสงฆ์อำเภอแม่สะเรียง ผู้ประกอบการร้านค้า ภาคเอกชน มอบสิ่งของช่วยเหลือ ข้าวสาร อาหารแห้งเบื้องต้น ในการช่วยเหลือผู้อพยพทั้งหมด เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อน ร่วมวางแผนจัดการ บริหารงานภายใน กับศูนย์อำนวยยการร่วมฯ ณ พื้นที่ปลอดภัยชั่วคราวบ้านเสาหิน
ทั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทย ได้เร่งดำเนินการก่อสร้างเพิงพักที่ปลอดภัย ให้ผู้หนีภัยจากความไม่สงบ ที่ยังทะลักเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยใช้พื้นที่ป่าชุมชบ้านเสาหิน เนื้อที่ประมาณ 10 ไร่ ห่างจากชายแดนประมาณ 3 กิโลเมตร และ ห่างจากชุมชนหมู่บ้านราษฎรไทย ประมาณ 1.5 กิโลเมตร โดยเตรียมจัดระบบน้ำ กินน้ำใช้ ห้องน้ำ อย่างเร่งด่วน เพื่อให้มีพื้นที่รองรับผู้หนีภัยจากการสู้รบที่ยังคงทยอยเดินทางข้ามฝั่งมาหลบหนีภัยอย่างต่อเนื่อง
ด้านเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ระบุว่า พร้อมให้ความช่วยเหลือ ตามหลักสิทธิมนุษยชน ยืนยัน เหตุความไม่สงบฝั่งประเทศเพื่อนบ้านยังไม่ส่งผลกระทบกับราษฎรไทย แต่อย่างใด ส่วน ผู้หนีภัยจากความไม่สงบอยู่ในพื้นที่พักรอที่ปลอดภัย หลังต้องหอบลูกหอบเต้าเดินทางเข้ามาฝั่งไทยเพื่อความปลอดภัย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเด็ก ผู้หญิง และ คนแก่
สำหรับสถานการณ์ ด้าน อ.ขุนยวม นายอำเภอขุนยวม ร่วมกับสมาชิกกิ่งกาชาด อำเภอขุนยวม และส่วนราชการในพื้นที่ เป็นผู้แทนสำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดแม่ฮ่องสอนและผู้แทนภาคเอกชนที่ร่วมบริจาคสิ่งของ อุปโภค-บริโภค ดำเนินการมอบสิ่งของ ตรวจคัดกรองไข้มาลาเรีย บริการปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้กับผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา (ผภสม.) พร้อมทั้งร่วมวางแผนจัดการบริหารงานในบริเวณ พื้นที่ปลอดภัยชั่วคราวบ้านแม่กิ๊
