4 มิถุนายน 2566 ที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ จากสภาพ อากาศร้อนและแล้งจัด ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ส่งผลให้แปลงปลูกมะม่วงน้ำดอกไม้สีทอง ส่งออกนอกฤดู ตายยกแปลงกว่า 300 ไร่ ใน ต.อ่าวน้อย อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ อย่างไม่เคยมีมาก่อน ทั้งเกษตรกรมีประสบการณ์ ปลูกมะม่วงมาหลายสิบปี ก็ยังเอาไม่อยู่ เหตุจากภาวะอากาศร้อน แล้ง ฝนขาดช่วง น้ำในภาคเกษตรกรรมขาดแคลน
นางพัชรี ซำเผือก อายุ 55 ปี เกษตรกรผู้ปลูกมะม่วงน้ำดอกไม้สีทอง กลุ่มวิสาหกิจชุมชนผู้ผลิตมะม่วงส่งออกนอกฤดูอ่าวน้อย ต.อ่าวน้อย ที่ทำสวนมะม่วงกว่า 30 ปี มีพื้นที่เพาะปลูก 100 ไร่ ขณะนี้กำลังประสบปัญหา มะม่วงน้ำดอกไม้สีทอง ตายยกแปลงกว่า 30 ไร่ มูลค่าความเสียหายร่วม 3 ล้านบาท
นางพัชรี กล่าวว่า ต้นมะม่วงเริ่มทยอยตาย ช่วง 3 – 4 เดือนที่ผ่านมา ปกติแล้วมะม่วงจะไม่ยืนต้นตาย แต่ปีนี้แล้งมาก จึงยืนต้นตาย ช่วงที่ผ่านมา มีฝนตกไม่ทั่ว ตกเพียงน้อยนิด ก่อนหน้านี้ มีการขุดสระน้ำไว้คอยรดน้ำ ทำการติดสปริงเกอร์ที่โคนต้นไม้
แต่จากสภาพอากาศที่ร้อนจัด และต้นขาดน้ำมานาน จึงสู้ไม่ไหว เป็นปีนี้ที่เจอหนักมาก ไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อน ตั้งแต่ทำมะม่วงมาหลายสิบปี ทั้งนี้ เมื่อต้นมะม่วงยืนต้นตายยกแปลง ต้องใช้เวลากอบกู้แปลงผลผลิต เริ่มปลูกจนออกผลผลิต ใช้เวลา 4 – 5 ปี กว่าจะเริ่มเก็บเกี่ยวผลผลิตได้อีกครั้ง
ทั้งนี้พบกว่า เกษตรกรชาวสวนมะม่วงส่งออกนอกฤดู ในตำบลอ่าวน้อยกว่า 200 ครอบครัว มีพื้นที่เพาะปลูก 2,7000 ไร่ ได้รับความเสียหาย มะม่วงยืนต้นตายประมาณ 300 ไร่ ขณะที่ระบบชลประทานยังไม่ครอบคลุมพื้นที่เพาะปลูก ประกอบกับอาการร้อนและแล้งจัด น้ำในอ่างเก็บน้ำหมู่บ้าน และสระน้ำขนาดเล็กของเกษตรกร มีน้ำไม่พอ
สำหรับพื้นที่เพาะปลูก มะม่วงส่งออกนอกฤดู ใน จ.ประจวบคีรีขันธ์ มีประมาณ 50,000 ไร่ ใน อ.ปราณบุรี , อ.สามร้อยยอด , อ.กุยบุรี , อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ แต่ที่อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ ประสบปัญหาหนักกว่าอำเภออื่น เนื่องจากขาดระบบชลประทานที่ดี มีน้ำกักเก็บในอ่างเก็บน้ำน้อย
มะม่วงน้ำดอกไม้สีทองของกลุ่มวิสาหกิจชุมชน ผู้ผลิตมะม่วงส่งออกนอกฤดูอ่าวน้อย ส่งออกไปยังประเทศเกาหลี , จีน , ฮ่องกง , มาเลเซีย และสิงคโปร์ มีราคารับซื้อหน้าสวนที่กิโลกรัมละ 80 บาท แต่หากเป็นผลผลิตออกในฤดู มีราคาขายเพียง 40 บาทต่อกิโลกรัม