ชาวนากาฬสินธุ์ระทม ต้องทำนาบนพื้นดินที่แห้งแล้ง หลังฝนไม่ตกตามฤดูกาล

3 มิถุนายน 2566 ที่ จ.กาฬสินธุ์ แม้ขณะนี้จะเข้าสู่ ฤดูฝน แล้ว แต่ในพื้นที่ยังคงมีความแห้งแล้งอยู่ โดยนายหนูรัก พัฒนสาร อายุ 53 ปี ชาวบ้าน ม.6 บ้านหนองหญ้าปล้อง ต.ยอดแกง อ.นามน นำรถไถนาแบบเดินตาม มาไถนาบนพื้นดิน ที่แห้งแล้งจนฝุ่นตลบ เพราะไม่มีน้ำ เพื่อเตรียมดิน สำหรับหว่านเมล็ดข้าว ท่ามกลางไอแดด ที่ร้อนระอุกว่า 40 องศาเซลเซียส บนเนื้อที่ทำนา 4 ไร่ ของตน เป็นประจำทุกปี ตั้งแต่เดือน มิ.ย. - ฤดูเก็บเกี่ยวเดือน พ.ย. 

นายหนูรัก กล่าวว่า ฤดูทำนาในปีนี้พบว่า ฝนไม่ตกลงมาตามฤดูกาล ทำให้ชาวนาประสบปัญหาภัยแล้งอย่างแสนสาหัส แต่เมื่อฤดูทำนา ชาวนาก็ต้องทำนา ถึงแม้ไม่ฝนตกลงมา ก็ต้องทำนาบนพื้นที่แห้งแล้ง หากจะรอให้ฝนตกลงมา ก็จะมีความล่าช้า เลยฤดูกาลของการทำนาออกไป

นายหนูรัก เปิดเผยว่า เมื่อฝนไม่ต้องตามฤดูกาล ก็ต้องทำนาแห้งไปก่อน เพื่อรอให้ฝนตกลงมา โดยในปีที่ผ่านมา เมื่อถึงเวลาทำนา ตั้งแต่เดือน มิ.ย. ฝนก็จะตกลงมามีน้ำเต็มท้องนา ให้ได้ลงมือไถหว่านข้าวและปักดำ

แต่ในปีนี้จะมีความแห้งแล้งมากกว่าทุกปี จึงอยากจะฝากถึงหน่วยงานของภาครัฐ ช่วยเหลือในเรื่องแหล่งน้ำ ที่ใช้สำหรับปลูกข้าวให้ด้วย หากฝนไม่ตกอย่างนี้ต่อเนื่องออกไป ข้าวที่หว่านไว้ก็คงไม่เกิด ถูกแมลงหรือนกกัดกินจนหมดเป็นแน่ อย่างนี้ชาวนาจะมีข้าวกินได้อย่างไร ลำพังก็ยากจนอยู่แล้ว จะให้ไปซื้อข้าวกินอีกคงลำบากแน่

 

ขณะที่ นายบุญมา ดอนวิรัตน์ อายุ 67 ปี ชาวนาบ้านโนนศรีสวัสดิ์ ม.7 ต.ยอดแกง เปิดเผยว่า มีที่นาอยู่ 7 ไร่ ในปีนี้ ฝนทิ้งช่วงไม่ตกตามฤดูกาล ถือว่าประสบปัญหา ภัยแล้ง มากกว่าทุกปี โดยเฉพาะพื้นที่บริเวณนาดอน ถ้าประสบภัยแล้งเช่นนี้ ทำนาไม่ได้ผลผลิต จึงแบ่งที่ดินให้เกษตรกรรายอื่น เช่าปลูกอ้อย เหลือไว้ปลูกข้าวบางส่วน เพื่อปลูกข้าวให้พอกินในครอบครัว

แต่มีนี้ฝนทิ้งช่วง เจอภัยแล้งอย่างหนัก ไม่แน่ใจว่า จะมีน้ำฝนให้ได้ทำนาหรือไม่ จึงอยากจะขอวิงวอน หน่วยงานภาครัฐ มาช่วยเหลือในเรื่องของแหล่งน้ำการเกษตร โดยเฉพาะแหล่งน้ำที่ใช้ปลูกข้าว และพืชผักอย่างอื่นสำหรับการดำรงชีพของชาวบ้าน

ผู้สื่อข่าวรายเพิ่มเติมว่า ชาวนาในพื้นที่ อ.นามน จ. กาฬสินธุ์ หลายราย ต้องประสบปัญหากับภัยแล้ง ถึงแม้ว่าไม่มีฝนตกลงมา แต่ก็จำเป็นต้องทำนา โดยมีการว่าจ้างรถไถนาไร่ละ 350 บาท บนพื้นดินที่แห้งแล้งก็จำเป็นต้องทำ