svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

กรมชลฯ สำรองน้ำช่วงฝนทิ้งช่วงพื้นที่"อีอีซี" ป้องกันภัยแล้ง

02 มิถุนายน 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

กรมชลประทานเตรียมใช้โครงข่ายน้ำภาคตะวันออกสูบกลับ- เติมน้ำในอ่างประแสร์ เพื่อไม่ให้กระทบการอุปโภค-บริโภค-ภาคเกษตร-อุตสาหกรรมในพื้นที่อีอีซี 

นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า กรมฯ ประเมินสถานการณ์น้ำ เพื่อวางแผนป้องกันและบรรเทาสถานการณ์ฝนทิ้งช่วง รวมทั้งลดความเสี่ยงต่อปัญหาการขาดแคลนน้ำ หลังจากกรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่า อาจเกิดภาวะฝนทิ้งช่วงระหว่างเดือนพ.ค.- ก.ค. 66  รวมถึงผลกระทบปรากฏการณ์เอลนิโญ่ ส่งผลให้มีฝนน้อยกว่าค่าปกติ จึงได้กำชับให้ใช้โครงข่ายน้ำในภาคตะวันออกให้เต็มประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันปัญหาภัยแล้งที่อาจจะเกิดขึ้น

โดยจะต้องไม่ให้กระทบต่อน้ำอุปโภคบริโภคและเศรษฐกิจ ทั้งภาคเกษตรและอุตสาหกรรม ในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) นอกจากนี้ ยังได้เตรียมแผนสำรอง เช่น เครื่องสูบน้ำ หรือรถบรรทุกน้ำ ที่จะสามารถเข้าไปช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงที และให้ตรวจสอบการทำงานของอาคารชลประทาน เครื่องมือ เครื่องจักรให้พร้อมใช้งานได้อย่างเต็มศักยภาพตลอดเวลา  

นอกจากนี้ได้เน้นในเรื่องการผันน้ำว่า จะต้องเป็นไปตามแผนที่ได้วางไว้อย่างเคร่งครัด เมื่อระดับน้ำสามารถสูบได้ตามข้อตกลงกับกลุ่มผู้ใช้น้ำต้นทางให้ผันน้ำทันที เพื่อสำรองน้ำไว้ให้ได้มากที่สุด

ล่าสุด(1 มิ.ย. 66)มีรายงานว่าระดับน้ำที่คลองสะพานเพิ่มมากขึ้นจากฝนที่ตกในพื้นที่ อยู่ในระดับ+18.20 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลปานกลาง(ม.รทก.) สำนักงานชลประทานที่ 9 จึงได้เริ่มสูบน้ำจากคลองสะพานไปเติมให้กับอ่างเก็บน้ำประแสร์ ศักยภาพสูงสุดได้มากถึง 470,000  ลูกบาศก์เมตร(ลบ.ม.)ต่อวัน  ส่งผลให้อ่างเก็บน้ำประแสร์ ที่ปัจจุบันมีน้ำอยู่ 196 ล้าน ลบ.ม. หรือ 67% ของความจุอ่างฯ มีปริมาณน้ำเพิ่มมากขึ้น จนสามารถเป็นศูนย์กลางในการกระจายน้ำไปช่วยในการผลิตน้ำประปา และอุตสาหกรรม ในพื้นที่ EEC ได้อย่างเพียงพอ

นอกจากนี้จะได้สูบผันน้ำจากคลองพระองค์ไชยานุชิตไปเก็บไว้ในอ่างเก็บน้ำบางพระ เพื่อรักษาระดับน้ำและคุณภาพน้ำให้เป็นไปตามเกณฑ์ ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความมั่นคงให้กับปริมาณน้ำต้นทุนที่เพียงพอต่อการผลิตน้ำประปาของจังหวัดชลบุรีต่อไป” นายประพิศฯ กล่าวในที่สุด

นายทินกร เหลือล้น ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 9  กรมชลประทาน กล่าวว่า ได้วางแผนร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการเตรียมระบบสูบกลับน้ำทั้งโครงข่าย อาทิ การผันน้ำจากอ่างเก็บน้ำประแสร์ไปลงอ่างเก็บน้ำคลองใหญ่ ก่อนจะผันต่อไปยังอ่างเก็บน้ำหนองปลาไหล ตามที่ได้ประชุมร่วมกับคณะทำงาน Keyman Water Warroom ภาคตะวันออก ที่จะเริ่มสูบน้ำตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 31 ธ.ค.  ได้วันละประมาณ  250,000 ลบ.ม. หรือเดือนละ 7.50 ล้าน ลบ.ม.

ทั้งนี้หากสิ้นฤดูฝนวันที่ 31 ต.ค. จะหารือกับ JMC อ่างฯประแสร์ และ คณะทำงาน Keyman Water Warroom  ภาคอุปโภคบริโภค และอุตสาหกรรม เพื่อให้การบริหารจัดการน้ำเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับสถานการณ์ รวมทั้งเตรียมความพร้อมสูบผันน้ำจากคลองพระองค์ไชยานุชิต มาลงอ่างเก็บน้ำบางพระ

ซึ่งในปีนี้วางแผนสูบผันน้ำตั้งแต่เดือน ส.ค.ถึงเดือน พ.ย. 66 แต่หากคุณภาพน้ำค่าความเค็มเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดก่อนแผนที่วางไว้ จะสูบผันน้ำในทันที เป็นการปรับแผนการผันน้ำให้เหมาะสมกับสถานการณ์ เพื่อรองรับการใช้น้ำของพื้นที่ EEC จังหวัดชลบุรี  ระยอง และฉะชิงเทรา ภายใต้ข้อตกลงของกลุ่มผู้ใช้น้ำในพื้นที่ รวมไปถึงการเฝ้าระวังค่าความเค็มด้วย โดยปริมาณความต้องการใช้น้ำของพื้นที่ EEC จากโครงข่ายน้ำภาคตะวันออก จะอยู่ที่ประมาณ 1.20 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน

logoline