อดีตเลขาแฉ อดีต ส.ส.หัวหน้าพรรคดัง โกงไปทั่ว เสียหายไม่ต่ำกว่า 100 ล้าน

30 พฤษภาคม 2566 ความคืบหน้ากรณีที่มีผู้เสียหายจำนวนมาก เข้าร้องเรียน เพจสายไหมต้องรอด กรณี ถูก "อดีต ส.ส." หัวหน้าพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง ที่มีสมาชิกทั่วประเทศมากเป็นอันดับสอง หลอกให้ทำงาน แต่กลับเบี้ยวจ่ายเงิน ความเสียหายคาดเกือบ 100 ล้าน 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : 

• ใครเอ่ย? เหยื่อร้อง "สายไหมต้องรอด" ถูก "อดีต ส.ส." หลอกทำงานเบี้ยวจ่ายเงิน

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ ต.โคกตูม อ.เมือง จ.ลพบุรี พูดคุยกับ น.ส.ภรทิชา ไม้เจริญ อายุ 35 ปี อดีตเลขาของ อดีต ส.ส. รายดังกล่าว ที่เปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเป็นอดีตคนสนิทของ อดีต ส.ส.คนนี้ รู้จักกันตั้งแต่ 10 ปีก่อน ตอนนั้น อดีต ส.ส. รายนี้ ดำรงตำแหน่งเพียงหัวหน้าพรรคเท่านั้น โดยมาเช่าบ้านของญาติตน เพื่อเปิดที่ทำการพรรค และได้พูดคุยกับตน ก่อนจะชวนไปร่วมเป็นสมาชิกพรรค กระทั่งสนิทสนมกัน จนอดีต ส.ส.คนนี้ ให้ตนเองเป็นเลขาประจำตัว 

 

น.ส.ภรทิชา กล่าวว่า ที่ผ่านมา อดีต ส.ส. ชอบแจกของให้ประชาชน เป็นเหมือนการทำบุญ แต่มักมีพฤติกรรมใช้ความเป็นหัวหน้าพรรค ไปเจรจาพูดคุยกับร้านค้า ชาวบ้าน เพื่อให้เอาของมาแจกจ่ายก่อน อ้างว่า หากได้เงินสนับสนุนจากรัฐมนตรีคนดังที่สนิทสนม ก็จะนำมาจ่ายให้ภายหลัง ทำให้ชาวบ้านหลายคนหลงเชื่อใจ เช่น สั่งข้าวสารหลักพันกระสอบ มาแจกจ่ายให้ประชาชน แต่ไม่ยอมจ่ายเงินค่าข้าวสารให้กับร้านค้า ทางร้านค้าก็มักจะมาสอบถาม ทวงเงินกับตนในฐานะเลขา

นอกจากนี้เมื่อประมาณ 7 ปีที่แล้ว อดีต ส.ส.ได้จัดทำกลุ่มวิสาหกิจชุมชน โดยให้ตนไปเชิญชวนชาวบ้าน ผู้สูงอายุที่ว่างงาน มาร่วมในกลุ่มด้วย มีการทำดอกไม้จันทน์ ทำพวงหรีด โดย อดีต ส.ส. มักอ้างว่า มีเครือข่าย และจะส่งให้ตามพรรคการเมืองอื่น ๆ เหมือนเป็นการสนับสนุนให้ชาวบ้านให้มีอาชีพ อ้างว่าจะให้ค่าตอบแทน ชาวบ้านที่มาทำดอกไม้จันทน์ 100 ดอก เป็นเงิน 30 บาท แต่ชาวบ้านไม่เคยได้รับค่าตอบแทนเลยสักคน

เมื่อตนสอบถามไปทาง อดีต ส.ส.ก็ถูกบ่ายเบี่ยง โกหกกลับมาว่า ติดต่อคนรับพวงหรีดไม่ได้ รถไฟตีกลับ ทำให้ไม่ได้รับเงินค่าตอบแทน ขณะนั้นตนรู้สึกสงสารทั้งตัวเอง และชาวบ้านที่ถูกโกง ทำให้มีการทะเลาะกับ อดีต ส.ส. และแตกหักแยกย้ายกันไป ซึ่งตนก็ไปแจ้งความไว้ แต่จนถึงทุกวันนี้คดีก็ยังไม่คืบหน้า 

น.ส.ภรทิชา กล่าวว่า กระทั่งเมื่อปี 62 อดีต ส.ส. รายนี้ จากเดิมที่ดำรงตำแหน่งเพียงหัวหน้าพรรค ตอนนั้นได้รับตำแหน่งเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรค และมีการเปิดตลาดเช้ายันค่ำ ในพื้นที่ อ.บ้านหมอ จ.สระบุรี อดีต ส.ส.จึงติดต่อตนกลับมา ชวนให้ไปช่วยงานที่ตลาด

ด้วยความที่เคยสนิทและเชื่อใจ จึงกลับมาทำงานด้วย เป็นทั้งเลขาและคนดูแลร้านกาแฟในตลาด  ปรากฏว่า อดีต ส.ส.คนดังกล่าว ก็ยังมีพฤติกรรมแบบเดิม ไม่จ่ายเงินเดือน ทั้งตนและพนักงานคนอื่น ๆ ในตลาด ทำให้หลายคนมาทวงถาม ทั้งกับตนเอง และถามโดยตรงกับ อดีต ส.ส. แต่ก็ถูกบ่ายเบี่ยงมาตลอด 


นอกจากนี้ยังมีร้านค้า ทวงค่าข้าวสารที่ อดีต ส.ส.ให้ตนเองไปสั่ง เพื่อนำไปแจกในงานต่าง ๆ และไม่ยอมนำเงินไปจ่ายให้ร้านค้าอีกเช่นเคย ทำให้ทางร้านมาทวงถามกับตนเอง แต่เมื่อตนเองไปถาม ก็ถูกบ่ายเบี่ยง ให้ตนไปบอกร้านค้า เพื่อขอผลัดวันไปอีก

ทั้งยังมีเรื่องเสื้อลายขอ ที่สั่งจำนวน 2,000 ตัว มูลค่าประมาณ 130,000 บาท ที่สั่งไว้แจกจ่ายให้กำนัน และผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่เขต 4 จ.สระบุรี ที่ อดีต ส.ส.ดูแล แต่สุดท้ายก็ไม่ยอมนำเงินไปจ่าย ให้ทางร้านเช่นเคย ทำให้ช่วงเดือน พ.ย. 65 ตนตัดสินใจเลิกทำงาน ร่วมกับ อดีต ส.ส.อีกครั้ง และรวมตัวกับลูกจ้างคนอื่น ที่ทำงานแล้วไม่ได้รับเงินเดือน ไปลงบันทึกประจำวันเอาไว้เป็นหลักฐาน 


ทั้งนี้ แม้ตนจะเลิกทำงานกับ อดีต ส.ส. คนดังกล่าวแล้ว แต่ล่าสุดเมื่อวันที่ 9 พ.ค. ที่ผ่านมา อดีต ส.ส.จัดงานวันเกิด จ้างโต๊ะจีน วงดนตรี ร้านอาหารต่าง ๆ มาจัดเลี้ยงภายในงาน ปรากฏว่าหลังงานวันเกิด มีร้านข้าวสาร ร้านอาหาร และเจ้าของโต๊ะจีนที่ อดีต ส.ส.จ้างมาจัดงาน ติดต่อสอบถามมาที่ตน เพื่อทวงเงินค่าจ้าง เนื่องจากไม่สามารถติดต่อ อดีต ส.ส.ได้ และทางร้านทราบว่า ตนเคยทำงานกับ อดีต ส.ส. ซึ่งตนได้ชี้แจงกับทางร้านต่าง ๆ ไปว่า ขณะนี้เลิกทำงานกับ อดีต ส.ส. คนดังกล่าวอย่างถาวรแล้ว 
 

ทั้งนี้ หากอดีต ส.ส. คนดังกล่าวดูอยู่ ตนอยากให้ติดต่อ ผู้เสียหายทั้งหมด เพื่อพูดคุยเรื่องของการจ่ายเงินชดใช้ ไม่ใช่หาย หรือขาดการติดต่อไปเลย เพราะเชื่อว่าผู้เสียหาย มีอยู่ทั่วประเทศ มูลค่าความเสียหายคาดว่า ไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท