กรณีเรื่องราวบีบหัวใจของนายภานุวัฒน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 44 ปี หนุ่มบุรีรัมย์ ขี่จักรยานยนต์พ่วงข้าง พาสุนัขคู่ใจ 2 ตัว มาจอดรถพักร้อนอยู่ริมถนน สายสุวิทวงศ์ (นาดี-ปักธงชัย) หรือ สาย 304 ฝั่งขาขึ้นไป อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา จากการสอบถามทราบว่า ถูกภรรยาบอกเลิก หนีไปกับชู้ที่เป็นเพื่อนผู้รับเหมา จึงตัดสินใจขี่เดินทางจากพัทยากลับอีสาน รวมระยะทางกว่า 400 กิโลเมตร ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
19 พฤษภาคม 2566 นายอนุเทพ จีนตุ้ม อายุ 55 ปี เจ้าของครัวบ้านลุงมุ้ย แจ้งตำรวจให้ช่วยจับกุมตัวมิจฉาชีพ พร้อมด้วยรถจักรยานยนต์ยี่ห้อยาม่าฮ่า สีดำ ถูกไฟไหม้ ข้าวของเครื่องใช้ นำส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.มะเริง ส่วนสุนัขตัวผู้ 2 ตัวที่ชื่อว่า ข้าวโพดกับมะม่วง เตรียมประสานมูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์ มารับตัวไปดูแล
นายอนุเทพ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม เวลาประมาณ 17.30 น. นายภาณุวัฒน์ ได้ขี่ จยย.พ่วงข้าง พร้อมสุนัข 2 ตัว ผ่านบ้านมาบมะค่า ม.7 ต.หนองระเวียง อ.เมือง จ.นครราชสีมา แล้วเกิดเพลิงลุกไหม้ จยย. ครอบครัวตนเองจึงเอาทรายมาช่วยดับไฟ หลังจากนั้นก็ให้นอนพักบริเวณอู่ต่อรถหลังบ้าน เป็นเวลา 2 คืน
จากการพูดคุยกับนายภาณุวัฒน์ อ้างว่า ขี่ จยย. มาจากชลบุรี เพื่อกลับบ้านที่ อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ เนื่องจากว่าแฟนไปมีชู้กับผู้รับเหมา ตนเองรับไม่ได้กับเหตุการณ์และอยากที่จะกลับบ้านมาตั้งหลัก จึงทำให้เกิดความสงสาร
แต่พอตนเองขอดูบัตรประชาชน นายภาณุวัฒน์ กลับพยายามบ่ายเบี่ยง ทำให้จับพิรุธได้ จึงเข้าไปค้นรายชื่อในกูเกิล จนพบว่านายภาณุวัฒน์ เคยตกเป็นข่าวและมีนายจ้างแจ้งความไว้ที่ สภ.ชะอำ จ.เพชรบุรี และยังมีผู้เสียหายอีกหลายราย แจ้งความดำเนินคดี ตนเองจึงวางแผนให้ตำรวจมาจับกุม
เจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามเช็คประวัติชายคนดังกล่าว ก็ยังไม่สามารถระบุตัวตนได้อย่างชัดเจนว่าชื่ออะไรกันแน่ จึงนำตัวตรวจปัสสาวะพบมีสารเสพติดอยู่ในร่างกาย จึงควบคุมตัวไว้ที่ สภ.มะเริง
สอบสวนนายภาณุวัฒน์ ยืนยันว่า ถูกแฟนทิ้งจริงตามที่เคยเป็นข่าว และเพิ่งเสพยามาเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน ส่วนเครื่องตัดเหล็กและเครื่องเชื่อมเหล็ก ยอมรับว่าขโมยของนายจ้างมา เพราะไม่จ่ายค่าแรง ซึ่งตำรวจ สภ.มะเริง อยู่ระหว่างประสานกับ สภ.ชะอำ มารับตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป