
3 พฤษภาคม 2566 ความคืบหน้ากรณีเรื่องราวววุ่น ๆ ของมรดก "เสี่ยปาน 30 ล้าน" ที่ "น.ส.มด" อดีตภรรยา ออกมาโวย "ป้าเก้า" พี่สาวเสี่ยปาน ที่เป็นผู้จัดการมรดก ไม่ทำตามพินัยกรรม จ่ายค่าเลี้ยงดูลูกชาย เดือนละ 7 พันบาท และเมื่ออายุครบ 20 ปี ต้องมอบเงินให้ 2 ล้าน เท่านั้น ทำให้ต่อมามีการยื่นฟ้องต่อศาลจังหวัดอุดรธานี ทั้งอาญาและแพ่ง ในข้อหายักยอกทรัพย์ แต่ "ป้าเก้า" กลับไม่มาตามนัดศาลถึง 3 ครั้ง ทำให้ถูกออกหมายจับในที่สุด ขณะที่ทาง "น.ส.มด" ได้มีการตั้งค่าหัว 2 หมื่นบาท
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
ล่าสุดวันนี้ "ป้าติ๋ว" พี่สาวคนโตของเสี่ยปาน พร้อมด้วย "น.ส.มด" และ "น้องเกาลัด" ลูกชายเสี่ยปาน รวมถึงพยาน "คุณตาเรืองเดช" เจ้าของที่ดิน ที่ขายให้เสี่ยปานเมื่อปี 59 และ "นายตู๊ด" ประธาน อบต.หนองหาน เดินทางมาเป็นพยาน ที่บ้านหลังหนึ่ง ซึ่งเป็นร้านก๋วยเตี๋ยวของ "ป้าเก้า" ที่บ้านหนองบ่อ หมู่ 7 ต.หนองหาน อ.หนองหาน จ.อุดรธานี เพื่อไปทวงสิทธิตามพินัยกรรมกับ "ป้าเก้า" แต่ไม่พบตัว พบเพียง นายพจน์ สามีของ "ป้าเก้า"
เมื่อพบตัว "ป้าติ๋ว" ได้เรียก "นายพจน์" ให้มาพูดคุยถึงเรื่องสิทธิตามพินัยกรรม ซึ่งตอนแรก "นายพจน์" ไม่ยอมลงมา ทำท่าจะขับรถหนี แต่สุดท้ายก็ยอมมาพูดคุยด้วย พร้อมแสดงความไม่พอใจเมื่อผู้สื่อข่าวทำการถ่ายภาพ
ทั้งนี้ "ป้าติ๋ว" ระบุว่า ตนเป็นพี่สาวของ "ป้าเก้า" และ "เสี่ยปาน" วันนี้ต้องการถามเรื่องเงินตามพินัยกรรม และที่ดินตรงนี้ เนื่องจากได้ยินข่าวว่า ที่ดินตรงนี้ได้มีการขายแล้ว จึงต้อง เอาให้ลูกชาย "เสี่ยปาน" แต่นายพจน์ กลับตอบอย่างดุเดือดว่า ตนไม่รู้กับเมียว่า เงินไปไหน เขาก็หนีไปไม่บอก และไม่ได้บอกด้วยว่า นำเงินไปใช้อะไร เพราะไม่ได้อยู่ด้วยกัน โดย "ป้าเก้า" หนีไปอยู่ภูเก็ตนานแล้ว
ทั้งนี้ เมื่อ "ป้าติ๋ว" ยืนยันจะขอที่ตรงนี้ที่เหลืออยู่ ให้ลูกชายเสี่ยปานไป นายพจน์ ก็มีท่าทางขึงขังไม่ยอม ระบุว่า ยังให้ไม่ได้ ขอเวลาให้ตนขายได้ก่อน รออีก 5 เดือน ถึงเดือน ก.ย. ถ้ายังขายที่ดินไม่ได้ ก็ให้มาเอาเลย
ทำให้ "น.ส.มด" โต้กลับทันทีว่า ที่ผ่านมา ตนฟังฝั่ง "ป้าเก้า" มานานแล้ว ที่ดินตามพินัยกรรมก็แอบขายไม่แจ้ง พอได้เงินก็ไม่เอามาให้ ทำไมไม่เอาที่ตรงนี้ให้หลานไปเลย เรื่องจะได้จบ ๆ ไป ส่วนเรื่องขายที่แล้วจะรับปากจะให้ ก็ไม่มีอะไรมารับประกันได้เลย
ทำให้ "นายพจน์" ถึงกับโมโห และตอบโต้ว่า อย่าเก่ง ให้ฟัง ปากอย่าปลิ้นปล้อน ถ้าไม่ฟังจะหนีเดี๋ยวนี้ ให้คุยกันดี ๆ ถ้าไม่ทำตามพวกตน ก็ไม่ต้องเอา จนสุดท้ายทั้งหมดคุยกันไม่รู้และเแยกย้ายกันไป
น.ส.มด กล่าวทั้งน้ำตาว่า ตนไม่เชื่อลุงกับป้าอีกแล้ว จะยื้อเวลาไปทำไม อ้างจะขายที่ดินตรงนี้ แล้วถึงจะเอาเงินให้ มันนานไป รอถึง 5 เดือน และไม่มีอะไรมารับประกันว่า จะได้ เพราะเงินตามพินัยกรรม ก็ไม่ได้แล้ว ถ้ายกที่ดินและร้านก๋วยเตี๋ยวให้น้องเกาลัดก็จบกัน ที่ผ่านมาฝั่งตน ฟังฝ่ายลุงกับป้ามาตลอด ให้รอก็รออีก แต่กลับอ้างว่า ไม่ยอมมาเอา ทั้ง ๆ ที่ติดต่อมาตลอด ทำให้ตนไม่เชื่อใจอีกแล้ว ที่ผ่านมาไม่มีความหวังให้ตนและลูกเลย จึงรู้สึกเสียใจมาก
ส่วน "น้องเกาลัด" กล่าวหน้าเศร้าอย่างไร้เดียงสาว่า ตนมากับแม่ เพราะอยากได้สิ่งที่พ่อจะให้ แต่กลับไม่ได้ อยากจะฝากถึงลุงพจน์และป้าเก้าว่า ขอให้ตนได้บ้างเถอะ
ด้าน นายเรืองเดช มั่งคั่งดี อายุ 70 ปี เจ้าของที่คนเก่า ระบุว่า ที่ตรงนี้ขายให้เสี่ยปานเมื่อปี 59 ในราคา 1.7 ล้านบาท เรื่องนี้จริง ๆ ทางลุงกับป้า ควรยกที่ดินตรงนี้ให้ลูกเมียเขาซะ เพราะเงินตามพินัยกรรมก็ไม่ให้เขาแล้ว
ส่วน "ป้าติ๋ว" พี่สาวคนโตเสี่ยปาน เปิดเผยว่า ด้วยความสงสารหลานและน้องสะใภ้ ที่ไม่ได้อะไรเลย วันนี้จึงมาพูดคุยกับสามีป้าเก้าก่อน แต่ดูแล้วคุยไม่รู้เรื่อง เขาไม่ยอมยกที่ดิน ที่เหลือชิ้นสุดท้ายตรงนี้ให้ ขนาดเงินตามพินัยกรรม 3 ล้านก็ไม่ได้ แต่กลับเอาไปใช้จนหมด ซึ่งคาดเอาไปเล่นพนัน ตนจึงหาช่องทางก่อนที่จะกลับไปเยอรมัน
เมื่อวาน (2 พ.ค.) ได้ไปพูดคุยกับทาง สนง.ที่ดินแล้ว พอมีช่องทางให้น้องเกาลัดได้ที่ตรงนี้ โดยจะทำหนังสือรับรองและมีพยานว่า เจ้าของเดิมได้ขายให้เสี่ยปานจริง มี อบต. และชาวบ้านในพื้นที่ว่า มีการซื้อขายจริง น้องเกาลัดก็มีสิทธิในที่ดินตรงนี้ เพราะเป็นผู้สืบสันดานโดยตรง
เรื่องราวที่เกิดขึ้น ทำให้ตนติดใจสงสัยการเสียชีวิตของน้องชาย 2 คน คือนายเบิ้มและเสี่ยปาน โดยเฉพาะนายเบิ้มที่จู่ ๆ กินน้ำเปล่า จากนั้นล้มลงเสียชีวิตทันที ยิ่งเห็นข่าววางยาของ "แอม ไซยาไนด์" และเสี่ยปาน ที่ป่วยมะเร็งหลังถูกหวย จะมีการวางยาด้วยหรือไม่ อันนี้ก็ติดใจอยู่ ตั้งแต่กลับมาเมืองไทย เสี่ยปานเข้าฝันหลายครั้ง เหมือนวิญญาณยังห่วง อยากให้พี่สาวช่วยลูกชายเขาได้ในมรดกด้วย
กลับมาครั้งนี้ตนมาทำเรื่องโอนกรรมสิทธิ์บ้านหลังเก่า ที่เคยยกให้เสี่ยปานให้เสร็จเรียบร้อย แล้วจะขายทำบุญให้เสี่ยปาน เพราะบ้านหลังนี้มีคนตายแล้ว 6 ศพ และจะเดินเรื่องขอน้องเกาลัดและน้องสะใภ้ ได้ที่ดินผืนนี้ เพราะน่าจะเป็นสิ่งสุดท้ายที่เขาควรจะได้ ส่วนเงินตามพินัยกรรมคงไม่ได้แล้ว ถ้าน้องสะใภ้ได้ตรงนี้แล้วพอ ก็อยากให้มันจบๆ ไม่อยากให้พี่น้องกันทะเลาะกัน
ขณะที่ นายภาณุมาศ จิตรวศินกุล หรือ “เฮียเปี๊ยกช่วยด้วย” เปิดเผยว่า ในเรื่องของมรดกเสี่ยปาน 30 ล้าน ที่ผจก.มรดกไม่ยอมทำตามพินัยกรรม และมีพฤติกรรมที่ส่อให้เห็นทุจริตกับมรดก และไม่ทำตามวัตถุประสงค์ตามพินัยกรรม ตอนนี้ชัดเจนแล้ว เพราะเขาหลบหนี ศาลจึงออกหมายจับแล้ว ทางอดีตภรรยาเสี่ยปาน สามารถให้ทนายร้องต่อศาลให้เพิกถอน ผจก.มรดก ได้ และทางศาลจะอาจสืบหาญาติพี่น้องคนใหม่เป็น ผจก.มรดก แทน
ดูแล้วลูกชายเสี่ยปานก็มีสิทธิ์ได้ทรัพย็สินทั้งหมด ส่วนที่ดินตรงนี้ อดีตภรรยาเสี่ยปาน สามารถตั้งทนายร้องต่อศาล เพื่อให้ศาลคุ้มครองชั่วคราว จนกว่าจะพิสูจน์ทราบว่า ที่ตรงนี้ใครเป็นเจ้าของที่แท้จริง โดยตอนนี้ป้าเก้าและสามีอ้างว่า เสี่ยปานยกให้ ก็เอาเอกสารมายืนยัน แต่ถ้าพิสูจน์แล้วที่ดินตรงนี้เป็นของเสี่ยปาน ลูกชายที่เป็นผู้สืบสันดานก็มีสิทธิในที่ดินตรงนี้ชัดเจน