
31 มีนาคม 2566 พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบช.ภ.5 พร้อมด้วย พล.ต.ต.วรพงศ์ คำลือ ผบก.สส.ภ.5 เจ้าหน้าที่ ปปส. และ สำนักงานสาธารณสุขเชียงใหม่ แถลงข่าวการจับกุม คดีจำหน่ายยาอันตรายและวัตถุออกฤทธิ์โดยผิดกฎหมายซึ่งเป็นภัยร้ายแรงต่อสังคม และสร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนจำนวนมาก โดยเฉพาะการจำหน่ายยาเสพติด จำหน่ายยาอันตราย ให้กับกลุ่มวัยรุ่น นักเรียน นักศึกษา ซึ่งเป็นเยาวชนของชาติ
ทั้งนี้ ตำรวจภูธรภาค 5 ได้ดำเนินการสืบสวนทางสื่อโซเชียลมีเดีย พบว่ามีการโฆษณาจำหน่ายยาอันตราย ทรามาดอล (tramadol) เกินปริมาณที่กฎหมายกำหนดไว้ ,ยาโคลนาซีแพม (Clonazepam) และ อัลปราโซแลม (Alprazolam) เป็นวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท ประเภท 2 และประเภท 4 ห้ามมิให้มีการจำหน่ายเว้นแต่ได้รับอนุญาต ให้กับกลุ่มวัยรุ่น นักเรียนนักศึกษาในเขตพื้นที่อำเภอเมืองเชียงใหม่
จึงทำการสืบสวนจนนำไปสู่การจับกุม 2 ผู้ต้องหาคือ นายโจ อายุ 22 ปี และนายโต้ง อายุ 22 ปี ได้ที่หอพัก ถนนเวียงบัว ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ พร้อมด้วยของกลาง
ทั้งสองถูกดำเนินคดีในข้อหา "ร่วมกันขายยาแผนปัจจุบันซึ่งเป็นยาอันตราย โดยไม่ได้รับอนุญาต, จำหน่ายและมีไว้ในครอบครองซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ ในประเภทที่ 2 (อัลปราโซแลม) โดยไม่ได้รับอนุญาต" และถูกนำตัวส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.ช้างเผือกเมืองเชียงใหม่ดำเนินคดีตามกฎหมาย
สอบสวนผู้ต้องหาให้การว่า ได้สั่งซื้อวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท ผ่านสื่อโชเชียล เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงสอบสวนขยายผล จับกุมผู้ต้องหาได้อีก 2 ราย คือ น.ส.แก้ม อายุ 27 ปี และนายจักร อายุ 29 ปี ตรวจค้นในห้องพักก็พบว่ามีของกลางยาอันตรายเป็นจำนวนมาก
1.ยาแผนปัจจุบัน โดยไม่ได้รับอนุญาต Tramadol (ยาแก้ปวด), Promethazine (ยาแก้แพ้), TRIHEXYPHENIDYL (ยารักษาโรคพาร์กินสัน), HYDROCHLORIDE (ยาแก้แพ้), sildenafil (ยาเพิ่มสมรรถภาพ), Fluoxetine(ยารักษาอาการซึมเศร้า), Diazepam(ยากล่อมประสาท), Sertraline (ยารักษาอาการซึมเศร้า), Trazodone (ยารักษาอาการซึมเศร้า) Clozapine (ยารักษาอาการจิตเวช), Clonazepam(ยานอนหลับ), Perphenazine(ยาแก้ประสาทหลอน), Risperidone(ยาระงับอาการทางจิต) ชนิดเม็ด จำนวน 52,526 เม็ด ชนิดขวด จำนวน 23 ขวด และ ชนิดซอง จำนวน 500 ซอง
2.วัตถุออกฤทธิ์ต่อประสาท ประเภท 2 และประเภท 4 หรือกลุ่มยานอนหลับ Clonazepam, Diazepam, Rohypnol, Midazolam, Alprazolam, Lorazepam, Methylphenidate Bromazepam, Zolpidem
ชนิดเม็ด จำนวน 136,251 ชนิดขวด จำนวน 21 ขวด
3.ยาเสพติด ประเภท 2 มอร์ฟีน (Morphine) จำนวน 600 เม็ด, โคดีอีน (Codeine) จำนวน 780 เม็ด รวมจำนวน 1,380 เม็ด ทั้งสองเป็นยาระงับปวดชนิดออกฤทธิ์โดยตรงต่อระบบประสาทส่วนกลาง
4.วัตถุต้องสงสัยว่าจะเป็นยาเสพติด น้ำยาสีเหลือง, MST CONTINUS, KINAL CODEINE, Nimetazepam, CODEINE, CEDIPECT, (CODEINE), COCOF LINTCUS ชนิดเม็ด จำนวน 875 เม็ด, ชนิดขวด จำนวน 34 ขวด
รวมทั้งสิ้น ชนิดเม็ด จำนวน 191,032 เม็ด ชนิดขวด จำนวน 78 ขวด ชนิดซอง จำนวน 500 ซอง มูลค่าทั้งสิ้นประมาณ 3 ล้านบาท และพบเงินหมุนเวียนในบัญชี ประมาณ 10 ล้านบาท
เบื้องต้นแจ้งข้อหา ร่วมกันขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันจำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 2 และประเภท 4 โดยไม่ได้รับอนุญาตเพื่อการค้า, ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 2 และประเภท 3 โดยไม่ได้รับอนุญาต
พล.ต.ต.วรพงศ์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบทราบว่า มีวัยรุ่นเดินทางไปเที่ยวสถานบันเทิง ก่อนโพสต์ในโซเชียลมีเดียในลักษณะเดียวกันว่า ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไปไม่มาก แต่ทำไมมีอาการมึนเมาอย่างรวดเร็ว เมื่อทำการสืบสวนพบว่า มีการโพสต์ขายสารเสพติดและยาประเภทกล่อมประสาทให้กับประชาชน และยากลุ่มนี้ยังพบว่ามีการระบาดในนักเรียนนักศึกษา ในพื้นที่ตัวเมืองเชียงใหม่ ขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการขยายผลว่ายาเหล่านี้เล็ดลอดออกมาจากช่องทางใด
ด้าน นายมโนรมภ์ สินธพอาชากุล หัวหน้ากลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภคและเภสัชสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า หลังจากนี้จะได้ประสานกับ อย. ในการสืบหาบริษัทและคนส่งยาว่าส่งไปที่ไหนให้กับใคร ซึ่งตัวยาทั้งหมดที่มีการจับกุมนั้นจะอยู่ในสถานพยาบาลและอยู่ในการกำกับดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด