เตือนอย่าหลงเชื่อ พระรักษาพิเรนทร์ ให้นอนย่างไฟ จนเป็นแผลพุพอง

28 มีนาคม 2566 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากนางสมศรี (สงวนนามสกุล) อายุ 55 ปี ชาวบ้าน ต.เขาเจียก อ.เมืองพัทลุง หลังน.ส.วิไลวรรณ (สงวนนามสกุล) อายุ 53 ปี น้องสาวซึ่งป่วยอัมพฤกษ์ หลงเชื่อพระที่อ้างตัวเป็นหมอ เปิดสำนักสงฆ์รักษาชาวบ้าน มานานกว่า 5 เดือน และมีเสียงร่ำลือว่ามีคนที่ไปรักษาแล้วหายป่วยหลายราย น้องสาวเกิดความหวังว่าจะหายจากอาการป่วย จึงเดินทางไปสำนักสงฆ์ดังกล่าว ในพื้นที่ ต.ท่าแค่ อ.เมือง จ.พัทลุง

เมื่อไปถึง พระภูมิพัด ได้ทำการรักษาด้วยการใช้ค้อนตอกตามลำตัว ตามจุดต่างของร่างกาย แผ่นหลังต้นขา หน้าขา จากนั้นให้นอนบนแคร่สูง 60 เซนติเมตร ก่อนมีการปูสังกะสี แล้วเอาถ่านไฟก่อให้ร้อน ใช้สมุนไพรปูบนแคร่ทับ โดยพระอ้างว่า ทำเพื่อให้คลายเส้นและเส้นที่ตายจะฟื้นขึ้นมา น้องสาวนอนอยู่บนแคร่ตามวิธีรักษาของพระรูปดังกล่าว นานกว่า 30 นาที พอลุกขึ้นมาพบว่าที่เท้ามีแผลพุพอง

กระทั่งกลับไปถึงบ้านพบว่าทำแผ่นหลัง ก้น ขา มี แผลพุพอง ที่เกิดจากการนอนย่างไฟเต็ม บางจุดเป็นแผลลึก นอนพักอยู่บ้าน 2 วัน แผลเริ่มเน่า จึงได้เดินทางเข้ารับรักษายังโรงพยาบาลศรีนครินทร์ เพื่อให้แพทย์ช่วยเหลือ มาตั้งแต่วันที่ 21 มีนาคม แต่อาการยังไม่ดีขึ้น เนื้อผิวหนังแผลยังลามต่อเนื่อง สามีของน้องสาวพยายามติดต่อไปทางพระที่รักษามาตลอด แต่ทางพระก็ปฎิเสธ ไม่รับโทรศัพท์ จนล่าสุดวันที่ 26 มีนาคม ลูกศิษย์พระได้ติดต่อกลับมา บอกว่าให้สามีน้องสาวเอาน้ำมันไปทาแล้วจะหาย แต่ทางครอบครัวไม่เชื่อแล้ว

น้องสาวมีฐานะทางครอบครัวค่อนข้างลำบาก มีรายได้วันละ 1-2 ร้อยบาท จากการรับจ้างของสามี ต้องแบ่งมาชื้อแพมเพิส ใส่วันละ 1 ห่ออีก ทำให้ยิ่งเดือดร้อนหนัก จึงอยากวอนเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดพัทลุง เข้าตรวจสอบพระคนดังกล่าว ว่ามีการรักษาถูกต้องหรือไม่ และอีกอย่างที่ติดใจสงสัย คือ พระรักษาชาวบ้านที่เป็นผู้หญิง โดยการสัมผัสตัว นวด ตอก ลูบ คลำ ได้ด้วยหรือไม่

ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่สำนักสงฆ์ดังกล่าว พบว่าตรงศาลายังคงเปิดรักษาโรคให้กับชาวบ้านตามปกติ โดยพระคนดังกล่าว มีลูกมือเป็นผู้หญิงช่วยในการรักษา และพบว่ามีชาวบ้านเข้ามารักษาต่อเนื่อง โดยเฉพาะโรคเมื่อย ปวดหลัง ปวดเอว โดยทางทีมผู้สื่อข่าวได้แฝงตัวไปเพื่อดูการรักษาของพระ พบว่าพระนุ่งสบง แล้วทำการนวดตัว กดจุดผู้หญิง นอกจากนี้ยังพบว่ามีการปิดป้ายห้ามถ่ายคลิปจะผิด พ.ร.บ.คอมฯ

สอบถามชาวบ้านบอกว่า พระคนดังกล่าว ได้มาพักที่โรงเรียนร้าง และเปิดเป็นสำนักสงฆ์บ้านยางยายขลุย พร้อมทั้งเปิดทำการรักษาโรคทั่วไป โดยบอกว่าได้วิชาตอกเส้นและนวดน้ำมันมาจากพระทางภาคอีสาน และเปิดรักษามาแล้ว 5 เดือน ซึ่งผู้รักษาที่หลงเชื่อเดินทางมารักษาวันละหลายราย บางคนหายบางรายก็อาการหนักขึ้น เมื่อรักษาเสร็จจะมีค่ารักษาตามกำลังศรัทธา

ล่าสุดวันนี้ (28 มีนาคม) พี่สาวของนางวิไลวรรณ์ ได้เข้าร้องเรียนกับนายสุนทร คงทองสังข์ รักษาการสาธารณสุขจังหวัดพัทลุง เพื่อให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเข้าตรวจสอบถึงการเปิดสำนักสงฆ์ทำการรักษาผู้ป่วย จนชาวบ้านหลายคนหลงเชื่อ แต่การรักษาไม่มีดีขึ้นส่งผลให้ผู้ป่วยที่ป่วยอยู่แล้วยิ่งมีอาการหนักขึ้นไปอีก

จากการตรวจสอบฐานก็มูลพบว่าพระองค์ดังกล่าว ไม่ได้ขอขึ้นทะเบียนเพื่อการรักษาผู้ป่วยแต่อย่างใด ซึ่งการรักษาดังกล่าวผิด พ.ร.บ.สาธารณะสุข หลังจากนี้จะเข้าทำการตรวจสอบ รวบรวมหลักฐานเพื่อที่จะเอาผิดตามกฎหมายต่อไป และอยากแจ้งเตือนประชาชน อย่าหลงเชื่อหากมีอาการเจ็บป่วยให้เข้าทำการรักษา ตามสถานพยาบาลของรัฐ ส่วนกรณีที่พระภิกษุรักษาแบบนี้ ถือว่าผิด พ.ร.บ.สงฆ์ โดยสำนักพระพุทธศาสนา เตรียมเข้าไปตรวจสอบอีกครั้ง

มีข้อมูลด้วยว่า ก่อนหน้านี้พระรูปดังกล่าวได้บวชอยู่ที่สำนักสงฆ์บ้านทุ่งนา ต.หนองธง อ.ป่าบอน จ.พัทลุง แต่มีพฤติกรรมรักษาผู้หญิง ชาวบ้านได้แจ้งเตือนให้หยุด แต่ไม่ยอมหยุดจนกระทั่งชาวบ้านและกรรมการสำนักสงฆ์ ได้ไล่ออกจากวัด ก่อนมาพบเปิดโรงเรียนร้างเป็นสำนักสงฆ์บ้านยางยายขลุย รักษาผู้ป่วยอีกครั้ง