26 มีนาคม 2566 ที่ เกาะหลีเป๊ะ จ.สตูล ผู้ประกอบการ และธุรกิจต่อเนื่องการท่องเที่ยว รวมทั้งแรงงาน บนเกาะหลีเป๊ะ กว่า 400 คน ชุมนุมบริเวณถนนคนเดิน เรียกร้องให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ผ่อนผันการรื้อถอน สถานประกอบการ ที่พัก ที่ไม่ได้มีการจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
กลุ่มผู้ประกอบการยืนยันว่า ที่ผ่านมามีความพยายาม ยื่นขอจดทะเบียนมาอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่เคยประสบความสำเร็จ ย้ำว่าทุกคนอยากจดทะเบียนให้ถูกต้องตามกฎหมาย เพราะหากมีการบังคับใช้กฎหมาย ตามที่ คณะกรรมการแก้ปัญหาข้อพิพาทบนเกาะหลีเป๊ะ จะเร่งดำเนินการ โดยไม่มีการพูดคุย จะส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของประชาชน ที่อยู่บนเกาะ โดยเฉพาะผู้ประกอบการ ที่จะต้องเลิกจ้างพนักงานจำนวนมาก ขณะเดียวกันร้านจำหน่ายสินค้า ก็จะพลอยขายไม่ได้ไปด้วย
จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า ศาลชั้นต้นได้มีคำสั่ง ให้ขับไล่ผู้บุกรุกที่ดินของอุทยานแห่งชาติ จำนวน 8 จุด ซึ่งล่าสุดกรมอุทยานฯ ได้มีคำสั่งให้มีการรื้อถอนพื้นที่ทั้งหมด มีการปักป้ายเตือนไปแล้ว มีเจ้าของสามราย ยินยอมให้รื้อถอน
ส่วนอีกห้าราย ยังอยู่ระหว่างการฟ้องอุทธรณ์ ซึ่งภายในวันศุกร์หน้า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ จะลงพื้นที่ไปกำกับดูแลการรื้อถอน และการดำเนินคดีกับผู้ที่บุกรุก พื้นที่อุทยานฯ ตามโฉนดหมายเลข 11
นายมุกตา บู่เอียด นายกสมาคมผู้ประกอบการ กล่าวว่า ผู้ประกอบการได้รับผลกระทบ จากกรณี ข้อพิพาทเรื่องที่ดินบนเกาะหลีเป๊ะ จนเป็นเหตุให้มีการตรวจสอบ เอกสารที่ดินแปลงอื่น ๆ และบังคับใช้กฎหมายเต็มรูปแบบ จนส่งผลกระทบผู้ประกอบการโรงแรม 111 แห่ง ร้านค้า 250 แห่ง รวมจำนวนผู้ประกอบการและลูกจ้างกว่า 4,500 คน
ทั้งนี้ เกาะหลีเป๊ะ เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ มีชื่อเสียงอันดับต้น ๆ ของประเทศ แต่ละปีมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ เดินทางมาราว 140,000 คน สร้างรายได้ให้ จ.สตูล เกินกว่า 4 พันล้านบาทต่อปี ถือเป็นแหล่งรายได้หลักของจังหวัด
นายมุกตา กล่าวว่า ยืนยันว่า ที่ผ่านมา ผู้ประกอบการ และ ชาวเลอูรักลาโว้ย อยู่ร่วมกันแบบถ้อยทีถ้อยอาศัยมากว่า 30 ปี แต่เมื่อวิถีชีวิตชาวเลอุรักษ์ลาโว้ยเปลี่ยนไป ผู้ประกอบการก็ยืนอยู่เคียงข้าง ไม่เคยเพิกเฉย ทั้งการจ้างงาน การสร้างอาชีพ ให้กับเรือหางยาวท้องถิ่น ทดแทนการหาปลาในเขตอุทยาน
รวมถึงการแก้ปัญหาต่าง ๆ บนเกาะหลีเป๊ะ เช่น ปัญหาเกี่ยวกับถนนสาธารณะ ผู้ประกอบการได้จัดโครงการระดมทุนซื้อที่ดิน เพื่อสร้างถนน เปิดเส้นทางเข้า รพสต.เกาะหลีเป๊ะ ที่มีทางเข้าออกลำบาก และเส้นทางเข้าโรงเรียน สำหรับเด็กนักเรียน ใช้ลัดเข้าโรงเรียน แทนเดินอ้อมเข้าทางบริเวณด้านหน้าหาด โครงการเหล่านี้ทางสมาคมได้ดำนินการก่อนเกิดข้อพิพาทที่ดิน เป็นการแสดงเจตนารมณ์ ที่จะช่วยบรรเทาทุกข์ให้กับชาวเลอุรักลาโว้ย
นอกจากนี้ สมาคมยังได้ช่วยเหลือชาวบ้าน ในสถานการณ์โควิด-19 ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา รวมถึงไม่เคยนิ่งนอนใจ ต่อปัญหาเอกสารสิทธิ์ ยินดีให้ความร่วมมือ ในการตรวจสอบเอกสาร ซึ่งผู้ประกอบการนั้น แท้จริงแล้วเป็นผู้ได้รับผลกระทบ จากเอกสารสิทธิ์ที่มีความไม่ชัดเจนมาช้านาน
ที่ผ่านมาหน่วยงานของรัฐ ได้เข้ามาช่วยแก้ปัญหาเรื่องนี้ แต่ยังไม่สามารถแก้ไขได้ เช่น คำสั่ง คสช. เรื่องมาตรการส่งเสริมและพัฒนามาตรฐาน การประกอบธุรกิจโรงแรมบางประเภท โอกาสนี้จึงอยากให้ทางภาครัฐ ผ่อนผันการใช้มาตรการเข้มงวดทางกฎหมาย ที่จะนำมาใช้กับผู้ประกอบการบนเกาะหลีเป๊ะ
พร้อมขอให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ช่วยผลักดันนำร่าง พ.ร.บ.การปรับปรุงแก้ไขหรือยกเลิกกฎกระทรวงฉบับที่ 35 พ.ศ. 2535 ออกตามความใน พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 การกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้างอาคารบางชนิดหรือบางประเภท บริเวณเกาะหลีเป๊ะ และที่มีพื้นที่ทับซ้อนกับกฎกระทรวง ให้ใช้บังคับผังเมืองรวม นำร่างฉบับนี้ขึ้นมาพิจารณาใหม่ เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ และชาวเลอูรักลาโว้ย ที่อาศัยอยู่บนเกาะหลีเป๊ะ ร่วมกันมายาวนานกว่า 30 ปี ให้สามารถประกอบอาชีพได้อย่างถูกต้อง