11 มีนาคม 2566 ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ภาพตัวเองกับหญิงชราและเด็กเล็กวัยประมาณขวบเศษ นั่งซ้อนท้าย จยย. ท่ามกลางแดดที่ร้อนระอุ โดยระบุข้อความ ว่า
สิ่งที่ไม่เคยขาดจากตัวผมก็คือ "น้ำใจ" เจอยายเดินอุ้มหลานอยู่ตรงเเยกเเสงรุ้งบุรีรัมย์ ยายบอกว่ามายืนยันตัวตนสวัสดิการเเห่งรัฐที่ธนาคาร รอตาขับซาเล้งมารับกลับบ้าน ตาไม่มาสักที ตั้งเเต่บ่ายโมง โทรหาตาไม่รับสาย ยายว่าตาน่าจะมัวไปดู หรือไม่ก็รอรับหลานอีกคนที่โรงเรียน ผมเลยอาสาส่งยายกับหลาน เพราะว่ากว่าตาจะมา ผมกลัวหลานร้องให้ง่วงนอน เเดดร้อนด้วย ผมเลยจัดให้ส่งฟรีถึงบ้านโคกระกาน้อยสวายจีก
#บทชีวิตคนเราย่อมเเตกต่างกันไป เเต่น้ำใจเราควรมีกันทุกคน
ต่อมาได้มีชาวเน็ตแชร์ข้อความดังกล่าวออกไปเป็นจำนวนมาก ทุกคนต่างชื่นชมในความมีน้ำใจที่ดีงาม จนกระทั่งทราบต่อมาว่าหนุ่มคนดังกล่าวเป็นนักศึกษาวิทยาลัยเทคนิคบุรีรัมย์ และทำงานหารายได้เสริมด้วยการวิ่งแกร็บส่งอาหารในเขตตัวเมืองบุรีรัมย์
ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับ นายอถพล วงศ์เลิศ อายุ 20 ปี นักศึกษาวิทยาลัยเทคนิคบุรีรัมย์ สาขางานเทคนิคยานยนต์ไฟฟ้า ปวส.2 กำลังขับแกร็บรับส่งอาหารอยู่ในเขตตัวเมืองบุรีรัมย์
นายอถพล เล่าว่า ปกติทุกวันจะพกเสื้อแกร็บใส่ในกระเป๋าหนังสือไปด้วย วันไหนเลิกเรียนไม่ค่ำก็จะสวมเสื้อแกร็บแล้วทำงานทันที วันที่เจอยายเป็นวันที่ 10 มีนาคม เวลาประมาณ 15.00 น. ช่วงนั้นตัวเองกำลังจะขับรถกลับบ้าน ช่วงที่มาจอดติดไฟแดงบริเวณสี่แยกแสงรุ้ง เห็นยายอายุประมาณ 65 ปี อุ้มหลานชายอายุขวบเศษ เดินฝ่าแสงแดดจะข้ามถนน ลักษณะเหมือนจะเหน็ดเหนื่อย
จึงถามว่า ยายจะไปไหน ยายตอบว่าจะไปสวายจีก ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 12 กม. ตนจึงอาสาไปส่งให้ถึงบ้าน ยายบอกว่าไม่มีเงิน จึงบอกไปว่า ผมไม่คิดเงิน และให้ยายกับหลานซ้อนท้ายจักรยานยนต์ไปด้วย
ระหว่างทางยายได้เล่าให้ฟังว่า ตอนเช้าตนกับสามีและหลาน ได้ขี่รถจักรยานยนต์พ่วงข้างจากบ้านเพื่อจะมายืนยันตัวตนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ธนาคาร แต่เกิดการล่าช้า เนื่องจากที่ธนาคารมีคนเป็นจำนวนมาก
เวลา 12.00 น. จึงให้สามีขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้านไปก่อนเพื่อไปดูควายที่เลี้ยงไว้กลางทุ่งนา หลังจากตนยืนยันตัวตนเสร็จสิ้น ได้โทรศัพท์หาสามีให้มารับแต่ไม่มีใครรับสาย จึงอุ้มหลานเดินมาเรื่อย ๆ เพื่อมาเจอกับสามีระหว่างทาง จนกระทั่งมาเจอตน
ที่ผ่านมาเคยช่วยเหลือคนในลักษณะนี้เป็นประจำ ไม่เคยเก็บเงิน ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เอาภาพไปโพสต์ลงในเฟชบุ๊ก ดีใจที่มีคนเข้าชื่นชม ส่วนตนยังคงจะทำความดีแบบนี้อีกต่อไป