svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ภูมิภาค

เปิดใจ"สุชาติ ชมกลิ่น" เหตุผลลึก ที่ต้องเลือก ระหว่าง "ลุงตู่" กับ"บิ๊กป้อม"

07 ธันวาคม 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"ผมเองรัก"ลุงตู่" และ "ลุงป้อม" เหมือนกันนะ มีบุญคุณด้วยกันมากๆทั้งคู่" ตอนหนึ่งของการเปิดใจ"สุชาติ ชมกลิ่น" รมว.แรงงาน ที่ตัดใจลาออกจากตำแหน่งผอ.พรรคพลังประชารัฐกับสถานการณ์ที่เขาต้องเลือก?!? (มีคลิป)

 

"รายการคมชัดลึก" ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์เนชั่นทีวี  ดำเนินรายการโดย "วราวิทย์  ฉิมมณี" ได้มีโอกาสเปิดใจ "สุชาติ  ชมกลิ่น" รมว.แรงงาน ที่ประกาศลาออกจากตำแหน่ง ผอ.พรรคพลังประชารัฐ พร้อมเดินตามอุดมการณ์ทางการเมืองบนสถานการณ์ที่"ต้องเลือก"    

 

"วราวิทย์"  ที่ออกจากกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐคืออะไรกันแน่

 

ผมเป็นคนมีความชัดเจน ยังไงผมก็ต้องไปกับท่านนายกฯ ในส่วนตรงนี้ ควรที่จะให้คนที่มีความรู้ความสามารถ มีคนที่พร้อมทำหน้าที่ในส่วนผอ.พรรคมากกว่าผม อย่าไปนั่งทับตำแหน่งตรงนี้ ต้องปล่อยให้พรรคพลังประชารัฐเข้มแข็งและเติบโตไปเรื่อยๆ ตำแหน่งผอ.พรรคสำคัญมากในการคัดสรรตัวผู้สมัคร

 

เปิดใจ"สุชาติ  ชมกลิ่น" เหตุผลลึก ที่ต้องเลือก ระหว่าง "ลุงตู่" กับ"บิ๊กป้อม"

 

"ข่าวที่ออกไประหว่างลุงตู่กับลุงป้อมผมก็ต้องแสดงความชัดเจน ถ้าเกิดผมอยู่แบบนี้โดยไม่แสดงอะไรเลย แล้วถ้าเกิดเป็นตามข่าว"ลุงตู่"ออกไปอีกพรรคสมมตินะ แล้วผมออกไป ผมเป็นคนใช้ไม่ได้เลยนะ ผมไม่อยากให้ใครว่าทีหลัง ดีกว่าถึงวันนั้นตัดสินใจต้องไป แล้วผมยังนั่งทับตรงนี้มานานก็ทำให้คนอื่นไม่สบายใจเราจะอยู่ทำไมตำแหน่งสำคัญๆ แต่ผมไม่ได้ลาออกสมาชิกพรรค เพราะว่าผมเป็นส.ส.เขต ผมก็ยังต้องเป็นส.ส.อยู่

 

"วราวิทย์" การที่คุณสุชาติออกมาก่อนก็เหมือนเป็นการคอนเฟิร์มข่าวนี้ แล้วพล.อ.ประยุทธ์จะรออะไร

 

ผมคิดว่าเป็นเรื่องของข้อกฎหมายหรือมารยาททางการเมืองด้วยนะ อย่างตัวผมเองไม่เป็นไร เพราะไม่ได้ลาออกจากสมาชิกพรรค แต่อย่าลืมว่า"ลุงตู่" "ลุงป้อม"มีความสัมพันธ์ที่ดีกันมายาวนานและก็ยังดีกันอยู่ และเวลาต่างๆเพื่อความเหมาะสมและทางเรื่องข้อกฎหมายก็มีส่วนประกอบเยอะ เพราะจริงๆท่านนายกฯไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคแต่เป็นบัญชีรายชื่อนายกฯ  แต่ผมบังเอิญไปนั่งในตำแหน่งที่สำคัญของพรรคที่ใกล้จะมีการเลือกตั้งเนี่ยมันไม่ได้

 

"วราวิทย์" ความสัมพันธ์ความใกล้ชิดกับพรรคระหว่างคุณสุชาติกับนายกฯ คุณสุชาติใกล้กว่าเพราะฉะนั้นช่วงที่ไม่ชัดเจนถอยออกมา

 

"สุชาติ" ใช่ๆ ผมถอยให้คนอื่นดีกว่า อีกอย่าง เป็นการแสดงจุดยืนว่าเราจะไม่ได้เข้ามารับรู้ในเรื่องการจัดตัวหรืออะไรเลย ถ้าเรารู้แล้วจัดตัวเขามาแล้ววันหนึ่ง เราไม่อยู่พรรคจะเสียหายไง เราอย่าไปทำอะไรให้คนว่าเราลับหลังดีกว่ามันไม่ดี

 

เปิดใจ"สุชาติ  ชมกลิ่น" เหตุผลลึก ที่ต้องเลือก ระหว่าง "ลุงตู่" กับ"บิ๊กป้อม"

 

"วราวิทย์" ข่าวเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมามีการประชุมพรรคเรียกมาคุยทีละคน มันเป็นแรงบีบที่ทำให้ท่านรัฐมนตรี  ถ้าคิดจะไม่อยู่แล้วแสดงจุดยืนซะก่อนที่เขาจะเช็คชื่อ มีผลมั้ยกับการประชุมพรรคในบ่ายวันนั้น

 

"สุชาติ" ไม่มีผลหรอก เพราะว่าผมเองรัก"ลุงตู่" "ลุงป้อม" เหมือนกันนะ มีบุญคุณด้วยกันมากๆทั้งคู่ แต่ถ้าเป็นตามข่าวถ้าให้เลือกความห่วงผมห่วงนายกฯ เพราะว่าทาง"ลุงป้อม"มีองคาพยพเก่งๆเยอะในทางการเมือง และ"ลุงป้อม" ก็เป็นหัวหน้าพรรคหลายปีรู้บริบทการเมืองที่ไม่มีใครจะไปหลอกท่านได้  แต่ไม่ว่านายกฯจะโดนหลอกนะ สมมติถ้าท่านนายกฯไปแบบนั้นตามที่เป็นข่าว ผมคิดว่าผมพักตัวเองออกมาในจุดสุญญากาศก่อน ถ้านายกฯไปจริงผมก็ไป ผมไปเพราะผมเป็นห่วงท่าน

 

"วราวิทย์ "ช่วงเวลาที่เหลืออยู่ 2 ปีตามคำวินิจฉัยของศาลรัญธรรมนูญ คุณสุชาติโพสต์ไว้ยิ่งเหลือน้อยยิ่งต้องพิสูจน์ความรักที่มีต่อตัวท่านใช่มั้ย แต่เราก็จะเอาชีวิตไปฝากแขวนอนาคตไว้กับตัวท่านด้วยนะ 

 

"สุชาติ" สิ่งต่างๆที่ผมเป็นนักการเมืองจนถึงทุกวันนี้ ถ้าผมไม่ได้รับโอกาสจาก"ลุงตู่" "ลุงป้อม" ผมจะมีโอกาสเป็นฝ่ายบริหารรัฐมนตรีมั้ย ไม่มีทาง เป็นผู้แทนฯกี่สมัยเราก็ไม่มีโอกาสได้แสดงความสามารถอย่างที่เราทำ วันนี้สิ่งหนึ่งที่เราเป็นผู้แทนราษฎรมาเป็นตัวแทนพี่น้องประชาชน แล้ววันหนึ่งมาอยู่ฝ่ายบริหารผมถือว่ามันสุดๆของชีวิตแล้ว ถ้ามีโอกาสเราก็ต้องตอบแทนคนที่ให้โอกาสเรา

 

"มีคนถามทำไมผมไม่ตอบแทน"ลุงป้อม" ก็ถ้าเขาอยู่ด้วยกันที่พูดคือสมมติหมดนะ ถ้าเขาอยู่ด้วยกันผมก็อยู่กับท่าน ผมรักทั้งคู่แต่ถ้าเกิดมีเหตุการณ์ตามที่ข่าวออก ถ้าเกิดมีการต้องเปลี่ยนแปลงตรงนั้นมันต้องเลือกระหว่างความห่วงแล้ว" 

 

"มีคนบอก 2 ปีทำไมผมตัดสินใจการเมืองผม อนาคตผม เป้าหมายชีวิตผมไม่ใช่เพื่อที่จะต้องเป็นรัฐมนตรี เพื่อที่ต้องชนะเพื่อที่จะต้องเป็นฝ่ายรัฐบาลอย่างเดียว เป้าหมายผมคืออยู่กับคนที่เขาดูแลเรา ตอบแทนเขาให้ถึงวันที่เขาเลิกหรือหยุดไปแล้ว มันไม่มีใครนินทาครหาผมได้ว่าทิ้งผู้มีพระคุณทิ้งผู้ใหญ่อย่างนี้ไม่ได้"

 

"วราวิทย์" แต่ท่าทีพลังประชารัฐอาจจะไม่ได้ง้อพล.อ.ประยุทธ์ อะไรมากมาย

 

"สุชาติ" ต้องยอมรับว่าท่านนายกฯไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคการเมือง แล้วจะลงมาประชุมพรรคอะไรแบบนี้ไม่ได้เดี๋ยวก็มีปัญหาถูกมั้ยครับ ก็ต้องยอมรับบริบทท่านไม่ได้ลงมาเป็นสมาชิกจะเข้ามาประชุมพรรคมันทำไม่ได้

 

คนที่ลังเลอยู่อาจจะไม่แน่ใจว่าถ้าไปบ้านใหม่จะได้เป็นรัฐบาลหรือป่าว แต่อยู่กับพลังประชารัฐมันคล่องกว่าถ้าขั้วเดิมจับมือกันได้ แต่ถ้าขั้วใหม่เขาขึ้นมามันคล่องกว่าในการที่ไม่มีพล.อ.ประยุทธ์

 

ส.ส.ผู้แทน 500 คน ความคิดแต่ละคนคิดไม่เหมือนกันเลย เราไปคิดแทนคนอื่นไม่ได้เลยแต่ตัวเราจุดยืนคือแบบนี้ พูดด้วยความเคารพนะผมไม่ได้ยึดติดว่าผมไปอยู่ตรงไหนแล้วผมจะเป็นรัฐบาลหรือเป็นฝ่ายค้าน แต่ผมลงส.ส.เขตแน่นอน ยังไงผมก็เป็นผู้แทนฯแน่นอนถ้าประชาชนเลือกผม ยังไงผมก็เป็นส.ส.มีหน้าที่ที่ดูแลพี่น้องประชาชนได้ แต่การเป็นรัฐบาลหรือเป็นรัฐมนตรีมันเป็นอีกสเต็ปหนึ่ง ถ้าผมไม่ไปถึงสเต็ปนี้ผมก็เป็นผู้แทนฯ ผมบอกตรงๆผมไม่ได้ยึดตรงนั้นเป็นหลัก  ไม่ได้ยึดว่าต้องเป็นรัฐบาลต้องเป็นรัฐมนตรี แต่ยึดว่าผมลงเขตแน่นอนเป็นผู้แทนฯ

สุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ลาออกจากตำแหน่ง ผอ.พรรคพลังประชารัฐ

 

"วราวิทย์" ถ้าไปบ้านใหม่อาจจะไม่ได้มีตำแหน่งใหญ่ในพรรค เช่นหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค แต่ก็มีเพื่อนและก็มีคนคบไงดีกว่า 

 

"สุชาติ"  ไม่แคร์ว่าต้องมีตำแหน่งอะไรในพรรค ไม่เช่นนั้นจะเสียของหรือป่าวย้ายไปทั้งที  คิดอีกมุมหนึ่ง ถ้าเราเลือกจะเป็นรัฐมนตรี เลือกจะเป็นผู้ชนะเป็นรัฐบาลอย่างเดียวโดยไม่ได้มองมิตรภาพกับใครเลย หรือไม่ได้คิดถึงบุญคุณใครเลย เป็นรัฐมนตรีแล้วไม่มีใครคบเราเป็นทำไม เป็นแล้วไม่มีใครอยากคุยกับเรา ไม่มีเพื่อนเพราะเขาไม่เชื่อใจเรา ขนาดมีบุญคุณขนาดนี้ยังทิ้งเขาแล้วแบบนี้จะไปคบได้ไง

 

แต่อย่างที่บอกสมมติไปกับ"ลุงตู่" ถ้าผมไม่ได้เป็นรัฐบาลหรือตำแหน่งอะไรก็ได้ แต่ผมมีเพื่อนรอบพรรคเยอะนะ เขาต้องรู้ผมเป็นคนยังไง คบได้หรือไม่ได้เลือกเอา คุณจะคบคนแบบนี้หรือจะคบคนเอาตัวรอดแต่ถ้าถึงเวลาเหตุและผลองค์ประกอบที่ต้องได้ อันนี้ต้องได้นะถ้าไม่ได้แบบนี้คือผิดเงื่อนไข 

 

"วราวิทย์" คือก็ไม่ยอมถูกหักหลังเหมือนกัน

 

"สุชาติ"ไม่ได้ คือต้องยอมรับว่าถ้าสิ่งที่เราตกลงกันไว้หรือมันเป็นอย่างที่เราทำได้ทำตามเงื่อนไข แล้วบอกไม่ได้ อย่างนี้รับไม่ได้นะ เพราะเราเป็นคนคนจริงแต่ถ้าไม่จริงไม่ตรงกับเรามันก็รับไม่ได้

 

"วราวิทย์"เงื่อนไขที่ว่านี้ตกลงกันแล้วหรือยัง

 

"สุชาติ" ไม่ได้ตกลง มันเป็นเรื่องของบริบทการเมืองทุกพรรคการเมืองเขาคิดอย่างนี้อยู่แล้ว คนที่จะเป็นหลักในพรรคการเมืองแต่ละพรรคเขาก็ต้องมีทีมของเขามีพื้นที่รับผิดชอบของเขา  แต่ผมมาถ้าสมมติที่บอก"ลุงตู่"การเมืองเปลี่ยนแปลงไป ผมไปผมไม่ได้คิดถึงเรื่องตำแหน่ง แต่ที่แรกเลยด้วยความที่คิดว่าเป็นแบบนั้นความเหมาะสมเราน่าจะเหมาะสมแบบนั้น หรือเราพอที่จะมีเครดิตตรงนี้ แต่ถ้าไปแล้วความสามัคคีมันไม่เกิดหรือแตกแยกกันเนี่ยเราไม่เอา

 

ชมคลิป >>> เปิดใจ สุชาติ  ชมกลิ่น กับเส้นทางที่ต้องเลือก 

 

logoline