“ชูวิทย์” แฉ "ตู้ห่าว" ยังอยู่ไทย แอบซุกปีกผู้มีอิทธิพล

19 พฤศจิกายน 2564 นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองไทย เดินหน้าแฉขบวนการ "กลุ่มทุนสีเทาชาวจีน" ในประเทศไทย โดยแถลงข่าวเปิดหลักฐาน เกี่ยวกับเครื่องบินเจ็ทส่วนตัวของ “นายตู้ห่าว” นายทุนจีนสีเทา พร้อมเปิดเส้นทางการบินแบบผิดปกติของนายตู้ห่าว โดยระบุว่า ปัจจุปัน “นายตู้ห่าว” หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย โดยยังไม่มีการถูกออกหมายจับ หรือจับกุมมาดำเนินคดีแต่อย่างใด ทั้ง ๆ ที่เป็นตัวการใหญ่ที่สุด 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :
๐ ทัพฟ้า สยบข่าวลือ กลุ่มทุนจีนใช้เครื่องบินพลเรือนหลบหนี ยันไม่ปกป้องคนผิด
๐ ชูวิทย์ มอบข้อมูลทุนจีนสีเทาให้ รองต่อศักดิ์ สัปดาห์หน้านัดชำแหละตัวการ
๐ "ชูวิทย์" แนะใช้เงินทุนจีนสีเทา ซื้อลิขสิทธิ์บอลโลก คืนความสุขให้คนไทย
๐ "บิ๊กโจ๊ก"ประกาศ 3 สัปดาห์ปิดคดีกลุ่มทุนจีนสีเทา 

นายชูวิทย์ กล่าวว่า จากข้อมูลเชื่อว่า “นายตู้ห่าว” ยังคงอยู่ในประเทศไทย กบดานอยู่กับผู้มีอิทธพลชาวไทยรายหนึ่ง เนื่องจากเขาเป็นมาเฟีย ที่มีทรัพย์สินหลายพันล้าน และกุมความลับของผู้มีอิทธิพล นักการเมืองจำนวนมาก ที่นำเงินหรือทรัพย์สินที่ได้จากการทุจริต มาให้ “นายตู้ห่าว” ฟอกเงิน โดยการลงทุนในธุรกิจผิดกฎหมาย หากนายตู้ห่าวถูกจับ   ข้อมูลก็อาจจะถูกเปิดเผย และส่งผลกับผู้ที่มีส่วนได้เสียในครั้งนี้ ส่วนหลานชายของนายตู้ห่าว อาย 21 ปี มีข้อมูลว่าได้หลบหนีไปแล้ว

ทั้งนี้ ฝูงบินเศรษฐี ซึ่งถือเป็นพื้นที่หวงห้าม จะต้องได้รับอนุญาต อยู่ที่ศูนย์ฝึกการบินพลเรือน แต่กลับจอดได้โดยไม่มีใบอนุญาต PPL จนกระทั่งวันที่ 29 ต.ค. ที่ผ่านมา พบว่าคนขับเครื่องบินอักษรย่อ ต.เต่า (โต้ง) นำเครื่องบินไปจอดที่หัวหินและภูเก็ต โดยอ้างว่า นำไปซ่อมบำรุงเพื่อไม่ให้ถูกตรวจสอบว่า ใครเป็นคนอนุญาตให้จอดไว้ที่เขตหวงห้ามดังกล่าว

นอกจากนี้ นายชูวิทย์ ยังเปิดเผยเอกสารเกี่ยวกับทรัพย์สินของ "นายตู้ห่าว" บางส่วน เช่น รถยนต์หรู อสังหาริมทรัพย์ อีกหลายแห่ง รวมหลายพันล้าน ซึ่งใช้ชื่อนอมินี ที่เป็นญาติของ "นายตู้ห่าว" มาเป็นเจ้าของ โดยตนเคยมอบข้อมูลให้กับนายตำรวจระดังสูง ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แต่เรื่องก็เงียบ เนื่องจากเกี่ยวข้องกับคนที่มีอำนาจ และอิทธิพล จึงต้องการแถลงเปิดโปงข้อมูล เพื่อเร่งรัดไปยังเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง

แต่หากตำรวจยังล่าช้า ทรัพย์สินต่าง ๆ เหล่านี้ อาจถูกยักย้ายถ่ายเทไปที่อื่นได้ ทำให้ยากต่อการตรวจสอบ ดังนั้น ในสัปดาห์หน้า ตนจะนำบัญชีธนาคาร เส้นทางการเงิน และรายชื่อนอมินีที่เกี่ยวข้องทั้งหมดมาเปิดเผย ซึ่งวันจันทร์จะเดินทางไปกระทรวงยุติธรรม ยื่นเรื่องให้กระทรวงยุติธรรมสั่งให้ ป.ป.ง. ตรวจสอบเส้นทางการเงินของนายสันทนะว่า ร่ำรวยมาจากธุรกิจใด และเกี่ยวข้องกับทุนจีนสีเทาหรือไม่ ส่วนวันอังคารจะเดินทางไปศาลอาญารัชดา ยื่นฟ้องนายสันทนะในข้อหาหมิ่นประมาท กรณีให้สัมภาษณ์สื่อใส่ร้ายว่าโรงแรมเดวิสเกี่ยวข้องกลับยาเสพติด และวันพุธยื่นหลักฐานต่อ พล.ต.อ.เสรีพิสุทธิ์ เตมียเวช หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย เพื่อให้ตรวจสอบพฤติกรรมของ นายสันธนะ ที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้