10 พฤศจิกายน 2565 นายวรงค์ สราญฤทธิชัย ผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายบริหารองค์กร บมจ.อัครา รีซอร์สเซส ผู้บริหาร "เหมืองทองอัครา"ตั้งอยู่ที่ตำบลเขาเจ็ดลูก อำเภอทับคล้อ จังหวัดพิจิตร เปิดเผยกับผู้สื่อข่าว ถึงความคืบหน้าของการดำเนินกิจการว่า ขณะนี้ภายในโรงงานเริ่มดำเนินการซ่อมแซมครั้งใหญ่ที่เรียกว่า MAJOR OVERHAUL เครื่องจักร รวมถึงอาคารสถานที่ สิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ภายในโรงงาน ซึ่งดำเนินการมาแล้วเกือบ 3 เดือนที่ผ่านมา
การซ่อมแซมเป็นไปตามแผนงานที่วางไว้ เพื่อเป็นการเตรียมการเปิดดำเนินกิจการ ฝ่ายบุคคล จึงได้ประกาศรับสมัครพนักงานใน 11 แผนก 166 อัตรา โดยเชิญชวนผู้ที่สนใจมาขอรับใบสมัครได้ด้วยตนเอง ที่สำนักงานอัคราเพื่อชุมชน ในช่วงระหว่างวันที่ 7-16 พ.ย. 65 ( เว้นวันเสาร์-อาทิตย์) หรือ จะสมัครผ่านเว็ปไซต์ ออนไลน์ หรือแพลตฟอร์มต่าง ๆ ที่บริษัทอัคราได้ประกาศอย่างเปิดเผย
จากประกาศดังกล่าว ปรากฏว่าได้รับความสนใจ มีผู้มาขอรับใบสมัครในช่วง 3 วันที่ผ่านมา มากกว่า 1 พันราย โดยมาขอใบสมัครแล้วนำเอกสารไปกรอกข้อความที่บ้านและให้นำมายื่นในวันที่ 14-16 พ.ย. 65 โดย คุณสมบัติหลัก ๆ ของผู้ที่สมัครมี 4 ข้อด้วยกันคือ
1. เป็นผู้มีความรู้ความสามารถ
2. มีทัศนคติที่ดีต่อการทำเหมืองแร่
3. ถ้าเป็นคนในพื้นที่จะได้รับพิจารณาเป็นพิเศษ
4. ต้องเป็นผู้ที่ไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด
นายวรงค์ เปิดเผยว่า งบประมาณที่ใช้ในการ MAJOR OVERHAUL เครื่องจักร รวมถึงอาคารสถานที่และสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ใช้งบดำเนินการมากถึง 500 ล้านบาท เนื่องจากโรงงานหยุดกิจการมาเกือบ 6 ปีแล้ว ดังนั้นในการซ่อมแซมเครื่องจักรต้องทำใหม่เกือบ 100% รวมถึงต้องซ่อมแซมทั้งหมด ของโรงงานและอาคารสถานที่ ส่วนกำหนดการเดินเครื่องอย่างเป็นทางการนั้น ยังไม่สามารถกำหนดวัน-เวลา ได้ในขณะนี้ ต้องรอให้การซ่อมแซมดำเนินการให้แล้วเสร็จตามแผนงานก่อน
คาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงปลายปีนี้ จากนั้นต้องแจ้งให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ เพื่อขออนุญาตดำเนินการตามระเบียบราชการ ซึ่งอาจต้องใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ เมื่อถึงช่วงนั้น ฝ่ายทรัพยากรบุคคลก็จะแจ้งให้พนักงานที่สมัครและคัดเลือกไว้ ได้เตรียมตัว เตรียมความพร้อมในการเข้าทำงานต่อไป ซึ่งเมื่อถึงวันนั้นจะระบุวัน Kick Off ของเหมืองทองอัคราให้สาธารณะชนรับทราบ ต่อไป
นายวรงค์ กล่าวอีกว่า ถ้าเหมืองทองอัคราเปิดดำเนินกิจการ ก็ต้องมีคนงานนับร้อยคน ซึ่งจะส่งผลให้มีเงินเดือน ให้มีรายรับ และเงินเหล่านี้ ก็จะไปจับจ่ายใช้สอยในพื้นที่ในชุมชน ซึ่งคาดว่าช่วงแรกเม็ดเงินจะสะพัดไม่น้อยกว่า 10 ล้านบาทต่อเดือน และ เม็ดเงินจะสะพัดเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ตามตำแหน่งพนักงานที่ต้องรับเพิ่มขึ้นในอนาคต
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในช่วง 3-4 เดือน ที่ผ่านมา ในพื้นที่ ต.เขาเจ็ดลูก จ.พิจิตร และ ต.ท้ายดง จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นพื้นที่อยู่ติดกับเหมืองทองอัครา บรรยากาศร้านค้าในหมู่บ้านเริ่มกลับมาคึกคัก หอพักบ้านเช่า เริ่มปรับปรุงพร้อมเปิดให้เช่ารวมถึงช่วงนี้มีช่างฝ่ายซ่อมบำรุงโรงงานนับร้อยคนเข้ามาทำงาน เข้ามาอยู่ในพื้นที่ ทำให้หมู่บ้านทั้ง 2 ตำบล ที่เคยเงียบเหงาเริ่มกลับมาพลิกฟื้นคืนชีพทางเศรษฐกิจอีกครั้ง
สิทธิพจน์ เกบุ้ย รายงานจากจ.พิจิตร