“เด็ก 9 ขวบ” รับจ้างหักข้าวโพดหวังนำเงินซื้อของเล่น ถูกปืนดักสัตว์ยิงดับ

วันที่ 24 ต.ค.2565 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่าเกิดเหตุเด็กชายวัย 9 ขวบ ไปรับจ้างหักข้าวโพดบนเขา เพื่อจะนำเงินไปซื้อรถบังคับ แต่โชคร้ายถูกปืนที่ใช้ดักสัตว์ลั่นใส่จนเสียชีวิต ครอบครัวมีฐานะยากจน ต้องไปหยิบยืมเงินมาจัดงานศพ ขณะนี้ตั้งศพบำเพ็ญกุศลอยู่ที่วัดห้วยตูมสุทธาวาส ต.พุทธบาท อ.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์ จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบชาวบ้านกำลังช่วยกันจัดเตรียมข้าวปลาอาหารไว้สำหรับเลี้ยงแขกที่มาร่วมพิธีสวดอภิธรรมศพในช่วงกลางคืน ส่วนศพของผู้เสียชีวิตทราบชื่อต่อมาคือ ด.ช.ชัยกร เนียมคล้าย หรือน้องเซเว่น อายุ 9 ปี บรรจุอยู่ในโลงเย็น มีเพียงดอกไม้กระดาษที่ใช้ประดับโลงและมีหรีดแสดงความเสียใจเพียง 1 หรีดเท่านั้น

นางทองเปี่ยม เนียมคล้าย อายุ 47 ปี ชาว ต.พุทธบาท อ.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์ แม่ของผู้เสียชีวิตเปิดเผยว่าครอบครัวตนเองมีฐานะยากจน ตนและสามีมีอาชีพรับจ้างทั่วไป มีงานบ้าง ไม่มีงานบ้าง ก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ตนกับลูกชายคือ ด.ช.ชัยกร เนียมคล้าย หรือน้องเซเว่นได้ไปที่ตลาด โดยลูกชายอยากได้ของเล่นคือรถบังคับราคาเกือบ 300 บาท แต่ตนไม่มีเงิน จึงจะซื้อรถพลาสติกให้ แต่ลูกชายไม่เอา พร้อมทั้งถามว่าถ้าเก็บเงินวันละ 20 บาท จะเก็บกี่วันถึงจะซื้อรถบังคับได้ตนจึงบอกว่าประมาณสิบกว่าวัน

วันต่อมาลูกชายก็ได้ออกไปหาจับปูในคลองและตามแหล่งน้ำต่าง ๆ เพื่อนำมาให้ตนเอาไปขายเพื่อรวบรวมไว้ซื้อรถบังคับ กระทั่งเมื่อวันที่ 22 ต.ค. ที่ผ่านมา ได้ไปรับจ้างเก็บข้าวโพดบนเขา โดยได้ค่าจ้างกระสอบละ 20 บาท โดยได้เดินทางออกไปกับเพื่อนๆ รุ่นเดียวกันอีก 2 คน แต่เช้า ส่วนตนและสามีก็ไปรับจ้างอีกแห่งหนึ่ง กระทั่งประมาณบ่าย 2 มีคนมาบอกว่าลูกชายโดนระเบิดปิงปองรับบาดเจ็บสาหัสถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลชนแดน ตนจึงรีบไปดูแต่เนื่องจากอาการหนักมากจึงได้ส่งไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลเพชรบูรณ์ แต่ลูกชายทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา ตนและสามีติดใจสาเหตุการตายเพราะเป็นไปไม่ได้ที่ลูกชายจะเล่นระเบิดปิงปอง จึงได้ส่งร่างไปผ่าพิสูจน์ที่จังหวัดพิษณุโลก ผลปรากฏว่าบาดแผลดังกล่าวถูกยิงด้วยอาวุธปืนจนเป็นแผลขนาดใหญ่ที่หน้าท้องจนไส้ทะลัก

หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบปืนยาวไทยประดิษฐ์ดัดแปลงสำหรับไว้ยิงสัตว์ตกอยู่ที่พื้นในกระต๊อบในแปลงข้าวโพดที่ลูกชายไปรับจ้าง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เก็บไว้เป็นหลักฐานพร้อมทั้งเชิญตัวผู้อยู่ในเหตุการณ์ไปสอบสวน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

นางทองเปี่ยม เปิดเผยอีกว่าตนและครอบครัวเดือดร้อนมาก เพราะไม่มีเงินทำศพรวมทั้งค่านำศพไปผ่าพิสูจน์ และค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ต้องไปหยิบยืมคนรู้จักกันมาจำนวนหนึ่ง และมีชาวบ้านที่สงสารก็รวบรวมเงินจำนวนหนึ่งเพื่อช่วยจัดงานศพ แต่ก็ยังไม่เพียงพอ เพราะต้องตั้งศพไว้ถึง 3 วัน เพราะไม่สามารถเผาได้เลยโดยจะมีพิธีฌาปนกิจศพในวันที่ 26 ต.ค.2565 นี้ จึงอยากจะขอความเมตตาจากผู้ใจบุญให้ความช่วยเหลือ เพียงแค่ให้จัดงานศพของลูกชายผ่านไปด้วยดีแค่นี้ก็เพียงพอแล้ว