ผู้ว่าฯ สงขลา แจงปม อส. ถูกชิงยา -ปล้นปืน รับทำโดยพลการ คนก่อเหตุไม่ถึง 20

20 ตุลาคม 2565 ความคืบหน้าเหตุอุกฉกรรจ์ กลุ่มคนร้าย 20 คน พร้อมอาวุธปืนครบมือบุกชิงยาเสพติดของกลาง และอาวุธปืนของเจ้าหน้าที่ ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครอง อ.รัตภูมิ จ.สงขลา ขณะเข้าล่อซื้อยาเสพติดจากเอเย่นต์ค้ายาในพื้นที่ อ.รัตภูมิ โดยคดีนี้ ผบ.ตร. สั่งเร่งคลี่คลายคดีทำความจริงให้ปรากฏเร็ว ๆ นี้

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ผบ.ตร. สั่งเร่งคลี่คลายคดีแก๊งบุกปล้นปืน - ยาเสพติด จากฝ่ายปกครอง จ.สงขลา
: ตร.จ่อออกหมายจับแก๊งยาเหิม ชิงยาเสพติด - ปล้นปืนวันนี้ หลังมีเบาะแสคนร้าย
: ผู้ช่วย ผบ.ตร. บินด่วน สางคดีแก๊งยาเหิม บุกชิงของกลาง - ปล้นปืน จนท.
: ด่วน!! แก๊งค้ายาสุดเหิม บุกชิงของกลาง - ปล้นปืน จนท.ปกครอง ขณะจับกุมผู้ค้า

 

ล่าสุด ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งลงพื้นที่มาคุมคดีนี้ด้วยตัวเอง ได้ประชุมความคืบหน้าคดีร่วมกับ พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ,นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นายสมศักดิ์ เจริญไพฑูรย์ รองอธิบดีกรมการปกครอง ฝ่ายความมั่นคง ร่วมกันแถลงความคืบหน้าคดีดังกล่าว

นายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวยอมรับบว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จนท.ฝ่ายปกครอง อาจดำเนินการโดยพลการ หลังจากล่อซื้อยาเสพติดจากผู้ต้องหาได้ จึงต้องการขยายผลต่อไปยังเครือข่ายยา ที่มีข้อมูลอยู่ในมือ ประกอบกับ อส. ชุดดังกล่าว อยู่ในพื้นที่คลุกคลีชุมชน จึงมีความมั่นใจว่า จะสามารถปฎิบัติหน้าที่ ขยายผลสำเร็จเหมือนหลายครั้งที่ผ่านมา แต่เมื่อเกิดความผิดพลาดขึ้น ก็พร้อมจะให้มีการตรวจสอบ รวมถึงประเมินและตรวจสอบการทำงาน จนท. ทุกระดับ ให้มีความโปร่งใสมากที่สุด

ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ยืนยันด้วยว่า หัวหน้าชุดปฏิบัติการ อส. เป็นผู้ปฎิบัติหน้าที่อย่างดีมาโดยตลอด โดยเฉพาะการกวาดล้างยาเสพติด ทำให้มีข้อมูลของกลุ่มเครือข่าย และสามารถตรวจยึด จับกุมเครือข่ายยาเสพติดในพื้นที่ มาแล้วหลายครั้ง ซึ่งหากจะถูกฝ่ายตรงข้ามต้องการเอาคืน ก็เป็นเรื่องที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้ ส่วนรายละเอียดนั้นขอตรวจสอบ ให้เกิดความชัดเจนมากที่สุด
 

พล.ต.ท.สมพงษ์ กล่าวว่า จากข้อมูลที่ปลัดอำเภอรัตภูมิ หัวหน้าชุดฯ และ อส. รวม 6 นาย ให้การอย่างละเอียด เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มคนร้ายที่มีประมาณ 10 คน ไม่ใช่ 20 คน ซึ่งขณะนี้ จนท. รู้ตัวบ้างแล้วว่าเป็นใคร แต่อยู่ระหว่างการเก็บรวบรวมหลักฐาน และข้อมูลจากฝ่ายปกครองในพื้นที่ประกอบคดี โดยกลุ่มคนร้ายเป็นไปได้ว่า มีทั้งคนในพื้นที่ และจากนอกพื้นที่ เพื่อขออนุมัติหมายจับในเร็ว ๆ นี้

ส่วนแรงจูงใจของคนร้ายเชื่อว่า ต้องการทั้งปล้นของกลางคืน และชิงตัวผู้ต้องหาในคราวเดียวกัน ซึ่งก็มีข้อมูลในระดับพื้นที่พบว่า ชุดปฏิบัติการ อส. ได้กวดขันยาเสพติดมาอย่างต่อเนื่อง และส่วนใหญ่ก็ร่วมมือกับตำรวจ แต่ยอมรับว่า ครั้งนี้ไม่ได้มีการแจ้งประสาน โดยให้เหตุผลว่า ได้รับข้อมูลมากระทันหัน จึงรีบปฏิบัติการ หวังจะปราบปรามยาเสพติดทันที สอดคล้องข้อมูล พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ที่ระบุว่า ในส่วนของกลุ่มคนร้ายยังไม่ชัดเจนว่า มีจำนวนกี่คน และกำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด

อย่างไรก็ตาม ภายหลังการประชุม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ได้เดินทางตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุ บริเวณใกล้ทางแยกศาลาเขียว หมู่ที 11 ต.กำแพงเพชร โดยมีหัวหน้าชุดปฏิบัติการ อส. ร่วมอธิบายและเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยยืนยันว่า ในคืนเกิดเหตุ การติดต่อล่อซื้อยาจากเครือข่ายจริง แต่เนื่องจากเกิดความผิดพลาด ในการสื่อสารของเครือข่ายค้ายา ทำให้ผิดแผนการทำงาน ซึ่งในจังหวะเกิดเหตุนั้น ได้ประเมินสถานการณ์เฉพาะหน้า แล้วตกอยู่ในภาวะเสียเปรียบ จึงไม่ได้ขัดขืนทำให้ไม่เกิดความรุนแรงขึ้น

ทั้งนี้มีข้อมูลส่วนหนึ่ง ที่หัวหน้าชุดปฏิบัติการ อส. เล่าให้กับผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาฟัง ในประเด็นที่กลุ่มเครือข่ายยาเสพติด ได้บังคับให้ขึ้นรถยนต์กระบะออกจากพื้นที่ และมีความพยายามที่จะให้นำตัว จนท. ขึ้นรถบรรทุกที่เป็นตู้คอนเทนเนอร์ แต่เกิดความผิดพลาดทำให้ต้องยอมปล่อยตัวระหว่างทาง