20 ตุลาคม 2565 บรรยากาศในย่านเมืองเก่าภูเก็ตเมื่อช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา (19 ต.ค.) พบว่ามีน้ำเอ่อล้นจากคลองบางใหญ่ ซึ่งเป็นคลองสายหลักที่รับน้ำที่ไหลมาจากพื้นที่ อ.กะทู้ ก่อนจะไหลลงทะเลที่บริเวณปลายแหลมสะพานหินในเขตเทศบาลนครภูเก็ต ท่วมผิวจราจร และบางส่วนเริ่มเข้าอาคารบ้านเรือน โดยเฉพาะบริเวณถนนพังงา ถนนรัษฎา แยกธนาคารชาร์เตอร์และถนนถลาง โดยมีระดับสูงประมาณ 20-50 เซนติเมตร แม้ว่าจะไม่มีน้ำทะเลหนุน ทำให้เจ้าหน้าที่เทศบาลนครภูเก็ต ต้องนำแผงเหล็กมาปิดกั้นไม่ให้รถเข้าไปในจุดที่มีน้ำท่วมขังและมีระดับที่ค่อนข้างสูง
อย่างไรก็ตามทางจังหวัดภูเก็ต และเทศบาลนครภูเก็ต เกรงว่า ระดับน้ำจะเพิ่มสูงขึ้นเหมือนกับวันที่ 16 ตุลาคมที่ผ่านมา เนื่องจากในคลองมีระดับน้ำที่ค่อนข้างสูงมาก และยังคงมีฝนตกอยู่ตลอดเวลา ส่งผลให้ระดับน้ำในลำคลองสูงขึ้นต่อเนื่อง ทำให้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มีการติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่มเติมในจุดที่มีระดับค่อนข้างสูงเพื่อช่วงพร่องน้ำในลำคลองให้ออกสู่ทะเลเร็วขึ้น เพื่อลดระดับน้ำในลำคลองไม่ให้ไหลเอ่อขึ้นมาบนพื้นผิวจราจร ขณะเดียวกันทางด้านเจ้าของอาคารบ้านเรือนต่างๆ ที่เคยถูกนำไหลทะลักเข้าบ้าน ต่างนำกระสอบทรายมาปิดกั้นเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำเข้าไปในตัวอาคารหรือตัวบ้าน เพราะส่วนใหญ่พึ่งทำความสะอาดล้างคราบโคลนและเศษวัสดุต่างๆ ไปได้ไม่นานขณะเดียวกันก็ยังมีการขนสิ่งของต่างๆ ไว้บนที่สูง
ด้านนายณรงค์ วุ่นซิ้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมด้วยนายอำนวย พิณสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต, นายยุทธนา พิทักษ์ ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงภูเก็ต, นายชัยอนันท์ สุทธิกุล นายกเทศมนตรีเมืองกะทู้, นายเฉลิมศักดิ์ มณีศรี นายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง, นายอำเภอกะทู้ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ถนนพระบารมี หรือทางหลวงหมายเลข 4029 ตอนกะทู้-ป่าตอง (ฝั่งกะทู้ช่วงโค้งแรงดัน) ก่อนถึงป้ายชื่อป่าตอง เพื่อตรวจสอบกรณีดินสไลด์คันทางพังทลาย เนื่องจากฝนที่ตกต่อเนื่องมาตั้งแต่วันที่ 16 ตุลาคมที่ผ่านมา ทำให้ดินอุ้มน้ำไม่ไหว ระยะทางยาวประมาณ 200 เมตร ฃ
ส่งผลให้ต้องปิดการจราจร โดยฝั่งกะทู้ปิดตั้งแต่บริเวณแยกสี่กอ และฝั่งป่าตองปิดตั้งแต่บริเวณสามแยกวัดสุวรรณคีรีวงศ์ เนื่องจากเป็นพื้นที่อันตรายและยังมีฝนตกอยู่ตลอดเวลาเกรงจะก่อให้เกิดอันตรายได้ โดยห้ามขึ้นลงเด็ดขาด ยกเว้นเจ้าหน้าที่ผู้ปฎิบัติ ทั้งนี้ผู้ที่ต้องการเดินทางไปยังพื้นที่ป่าตองให้ใช้ทางเลี่ยงทางหลวงหมายเลข 4028 ตอนห้าแยกฉลอง-กะรน (ถนนปฎัก), ทางหลวงหมายเลข 4025 ตอนทาเรือ-เชิงทะเล และทางหลวงหมายเลข 4030 ตอนถลาง-หาดราไวย์ (กมลา)
นายณรงค์ กล่าวว่า จากการหารือกับแขวงทางหลวงภูเก็ต และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ข้อสรุปเบื้องต้น หลังจากที่สถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติ คือ ฝนหยุดตกและดินไม่สไลด์หรือทรุดตัวเพิ่ม ภายใน 7 วัน แขวงทางหลวงฯ จะเข้ามาดำเนินการเพื่อให้ใช้สัญจรไปมาได้ชั่วคราว เป็นไปตามหลักวิศวกรรมที่แขวงทางหลวงดำเนินการอยู่ ขณะเดียวกันในการแก้ปัญหาถาวรนั้น เนื่องจากพื้นที่บริเวณดังกล่าวเป็นเส้นทางเศรษฐกิจที่สำคัญ และกำลังจะเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยว จึงจะต้องเร่งดำเนินการเพื่อให้สามารถใช้งานได้ตามปกติโดยเร็ว ส่วนการของบประมาณในการดำเนินการนั้นต้องมาพิจารณาว่าจะเป็นความรับผิดชอบของหน่วยงานไหน
เบื้องต้นทราบว่าอยู่ในความรับผิดชอบของเทศบาลเมืองกะทู้ แต่จากศักยภาพและงบประมาณแล้ว ไม่สามารถรับภาระดังกล่าวได้ โดยแขวงทางหลวงภูเก็ต จะเป็นดำเนินการแก้ปัญหาให้กับจังหวัดภูเก็ต ซึ่งจะมีการประชุมและจัดทำมติส่งเรื่องไปยังกระทรวงคมนาคม โดยในระยะนี้ถนนเส้นนี้คงต้องปิดการใช้งานชั่วคราว เพื่อความปลอดภัยสำหรับทุกคน
นายยุทธนา พิทักษ์ ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงภูเก็ต กล่าวถึงสาเหตุดินสไลด์ทำให้คันทางพังทลายว่า เกิดจากฝนตกต่อเนื่องมาเป็นเวลา 3 วัน ทำให้ดินอุ้มน้ำจนรับน้ำไม่ไหวก่อนที่จะสไลด์ลงมา ซึ่งความเสียหายมีระยะความยาวประมาณ 200 เมตร แต่เนื่องจากมีความไม่ปลอดภัยจึงจำเป็นต้องปิดเป็นระยะทางยาวจนกว่าจะมีการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าแล้วเสร็จ เป็นการแก้ไขระยะสั้น เพื่อให้สามารถสัญจรไปมาได้โดยเร็ว เนื่องจากเป็นถนนสายเศรษฐกิจเชื่อมระหว่างตัวเมืองภูเก็ตกับเมืองป่าตอง ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ แต่ละวันจะมีผู้ใช้สัญจรไปมาจำนวนมากทั้งคนในพื้นที่และนักท่องเที่ยว ขณะเดียวกันยังมีโครงข่ายอยู่อีกหลายสาย แต่อาจจะไม่สะดวกกับพี่น้องประชาชนที่มีความจำเป็นต้องใช้เส้นทางดังกล่าว เพราะเป็นเส้นทางอ้อม โดยจะเร่งซ่อมแซมคืนสภาพ คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 7 วัน เพื่อให้รถสามารถวิ่งได้ก่อนชั่วคราว
สาลินี ปราบ รายงานจาก จ.ภูเก็ต