"เต้ มงคลกิตติ์" ร่วมงานศพเหยื่อกราดยิง จวก"บิ๊กตู่"แก้ยาเสพติดล้มเหลว

11 ตุลาคม 2565 ความคืบหน้ากรณี "กราดยิงหนองบัวลำภู" คนร้ายเป็นอดีตตำรวจที่ถูกไล่ออกจากราชการ เนื่องจากพัวพันยาเสพติด ได้ก่อเหตุปลิดชีพเด็กเล็กอายุ 2-4 ปี และครู ภายในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก องค์การบริหารส่วนตำบลอุทัยสวรรค์ ก่อนกลับไปก่อเหตุยิงภรรยาและลูก เป็นผลให้มีผู้เสียชีวิตรวม 37 ศพ สุดสะเทือนใจทั้งพ่อแม่และประชาชนทั้งประเทศ ซึ่งหลังจากการชันสูตรได้ส่งศพคืนครอบครัว โดยจะประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพเหยื่อกราดยิง ทั้ง 36 รายในวันนี้ ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

• ในหลวง พระราชินี เตรียมเสด็จฯ พระราชทานกำลังใจครอบครัวผู้เสียชีวิต "กราดยิงหนองบัวลำภู"
• ด่วน! อดีต ตร.คลั่ง บุกกราดยิงใน อบต.- ห้องเรียน เสียชีวิตเพียบ
• ตร.ภาค 4 เร่งสอบเเยก 3 คดี มุ่งหาเเรงจูงใจ"กราดยิงหนองบัวลำภู"

ล่าสุด วันนี้ (11 ตุลาคม) นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หรือ "เต้ มงคลกิตติ์" ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ เดินทางเข้าร่วมงานศพเหยื่อกราดยิงศูนย์พัฒนาเด็กเล็กอุทัยสวรรค์ ที่วัดราษฎ์สามัคคี พร้อมกับนำตุ๊กตาผู้หญิงมามอบให้เด็กๆ โดยได้จุดธูปเคารพศพแล้วมอบตุ๊กตาผู้หญิงที่นำมาด้วย หลังจากที่วางตุ๊กตาเพื่อแสดงความไว้อาลัยแล้ว สส.เต้ก็ยืนมอง และยิ้มให้รูปภาพของเด็กที่เสียชีวิต ก่อนจะเดินไปพบกับญาติผู้เสียชีวิตที่เดินทางมาร่วมในพิธีในวันนี้ พร้อมกับให้กำลังใจญาติๆทุกคน

นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ กล่าวถึง "กราดยิงหนองบัวลำภู" ว่า ขอแสดงความเสียใจไปยังครอบครัวผู้สูญเสียทุกท่าน และผู้ที่บาดเจ็บที่ยังอยู่โรงพยาบาล ตอนนี้ทางรัฐบาลและภาคประชาชนเองการเยียวยาก็อาจจะได้ไม่มากนักเนื่องจากติดระเบียบราชการ ส่วนพรรคการเมือง ไม่สามารถที่จะช่วยเหลือเป็นเงินได้ แต่ตอนนี้ทางสำนักนายกฯ มีพ.ร.บ.เรี่ยไร ก็มีหลายส่วนราชการเข้ามาช่วยกันอาจจะไม่สามารถทดแทนความสูญเสียของน้องๆได้ แต่ก็เป็นกำลังใจให้กับครอบครัวที่มีชีวิตอยู่

นอกจากนี้นายมงคลกิตติ์   ยังกล่าวถึง รัฐบาลตอนนี้ก็สั่งการเกี่ยวกับเรื่องการเก็บอาวุธปืนเถื่อน ปืนเถื่อนมีไม่มากแต่ปืนในราชการมีจำนวนมาก ปืนที่ถือโดยตำรวจ ทหาร เจ้าหน้าที่ปกครองข้าราชการประจำ มีคนละ1-2 กระบอก รวมทั้งประชาชนทั่วไป พอออกใบอนุญาตไปแล้ว ทำให้ถือครอบครัองได้ยาวนาน พออยู่ยาวประเด็นสำคัญคือ ปืนเถื่อนเราก็กวดล้างต้องเก็บให้หมด แต่ปืนในราชการต้องมีเงื่อนไขออกระเบียบกระทรวงมหาดไทยใหม่ว่า ปืนในราชการ คนที่ถือได้ต้องแยกเป็นในขณะที่ปฏิบัติหน้าที่ทางราชการต้องใช้อาวุธ ให้ออกมาได้เป็นครั้งๆไปในการใช้อาวุธ แต่ในส่วนของคนทั่วไปในการพกพาอาวุธปืนก่อนจะได้ต้องมีการตรวจสอบสุขภาพจิตและมีการทดสอบในภาวะที่บีบคั้นว่าจำเป็นจะต้องใช้อาวุธปืนหรือไม่ ถ้าผ่านได้ ถึงจะให้ครอบครองอาวุธปืนได้ 

สิ่งสำคัญคือคนที่พกพาอาวุธปืนจะต้องไม่ดื่มของมึนเมาและยาเสพติด และอีกส่วนหนึ่งที่ได้เสนอไปยังรัฐบาลและยังทำอยู่ ให่ตรวจสอบข้าราชการ เจ้าหน้าที่ปกครองที่มีอาวุธปืนทั้งหมดตรวจสอบสารเสพเสพติดด้วย ถ้ามี ถูกสอบวินัยปและถูกยึดทั้งปืนที่ซื้อเองและปืนที่ราชการ ถึงจะเป็นการควบคุมได้อย่างเต็มท่ี  ไม่เช่นนั้นจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก ต้องจริงจังมากขึ้น หากพบว่าผู้ใต้บังคับบัญชามีพฤติกรรมยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดให้เด้ง 5 เสือทันที

“ถ้ารัฐบาลทำอย่างจริงจังเนี่ยที่พูดมาคือทำได้เลย เพียงแต่ว่าไม่ทำกัน ส่วนยาเสพติด ในแต่ละพื้นที่ ถ้าเอาจริงจังตะเข็บชายแดนเข้ามาไม่ได้แน่นอน เท่าที่สืบมา มีข้าราชการหลายคนมีแท่นปั๊มยาบ้าเคลื่อนที่ในประเทศไทย  ประเด็นสำคัญคือต้องเข้มงวด ถ้าไม่เข้มงวดก็ทำอะไรไม่ได้นายกก็ต้องรับผิดชอบ แต่ท่านก็จะไปแล้ว ไม่รู้จะทำอะไรหรือเปล่า คงหวังอะไรกับท่านไม่ได้หรอก”

ข่าวและภาพ : พรพรรณ เพ็ชรแสน, สุริยา ปะตะทะโย

สำนักข่าวเนชั่น