เพิ่ม nation online
ลงในหน้าจอหลักของคุณ
วันนี้ (7 ต.ค.) เมื่อเวลา ประมาณ 14.00 น. ตำรวจกองปราบฯ นำกำลังเข้าจับกุม นายธีะพงษ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี ในพื้นที่ ม.1 ต.ควนพัง อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช หลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านบริเวณใกล้เคียงว่า นายธีระพงษ์ฯ มีอาการคุ้มคลั่ง และจะขับรถไปชิงตัวลูกวัย 7 ขวบ ที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ม.1 ต.ควนพัง อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช หลังมีปากเสียงทะเลาะกับทางภรรยา ทางตำรวจกองปราบฯ เกรงว่า จะเกิดเหตุการณ์ซ้ำซ้อนเหมือนที่ จ.หนองบัวลำภู จึงได้นำกำลังไปตรวจสอบโดยทันที
เมื่อพบรถยนต์กระบะคันต้องสงสัย เจ้าหน้าที่จึงได้ใช้รถยนต์เก๋ง จอดประกบทางด้านขวา เพื่อแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งขณะที่ตำรวจลงจากรถ นายธีระพงษ์ฯ ได้ถอยรถยนต์กระบะ ไปชนกับรถยนต์กระบะ ของเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกหนึ่งคัน ที่จอดปิดท้ายไว้ ทำให้รถยนต์กระบะได้รับความเสียหาย จากนั้นนายธีระพงษ์ฯ ก็ได้ขับรถไปทางด้านหน้าพุ่งชนรถยนต์เก๋งของทางเจ้าหน้าที่ ทำให้รถยนต์ของนายธีระพงษ์ฯ ไม่สามารถขับต่อไปได้ นายธีระพงษ์ฯ จึงเปิดประตูลงจากรถ
ซึ่งจังหวะนั้นเอง ทางเจ้าหน้าที่สังเกตเห็นนายธีระพงษ์ฯ ล้วงอาวุธปืนพกสั้น ออกจากบริเวณสะเอวขวา ทางเจ้าหน้าที่จึงได้รีบเข้าชาร์จ จนสามารถควบคุมตัวเอาไว้ได้ จากการตรวจค้นพบของกลางพบว่า คนร้ายมีการพกอาวุธปืนสั้น 1 กระบอก, ปืนยาว 1 กระบอก, กระสุนปืนอีกหลายนัด และยังพบยาบ้าอีก 17 เม็ด
และยังพบผู้โดยสารนั่งข้างคนขับอีก 1 คือ นายเชาวลิตฯ อายุ 33 ปี เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจยึดของกลาง และนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.ร่อนพิบูลย์ ดำเนินคดีตามกฎหมาย ในความผิดฐาน “ร่วมกันต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน, ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, ร่วมกันพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะฯ, มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีหรือยาบ้า) ไว้ในครอบครองฯ, เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน)ฯ และทำให้เสียทรัพย์” จากการสอบถามผู้ต้องหารับว่า ก่อนเกิดเหตุ ทั้งสองคนได้เสพยาบ้ามาเมื่อเช้า คนละ 2 เม็ด
ด้าน พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ระบุว่า พฤติกรรมที่เกิดขึ้นนี้ เบื้องต้น เป็นลักษณะการ Copy cat หรือพฤติกรรมเลียนเเบบจากเหตุที่เกิดขึ้นในอดีต ซึ่งเมื่อวานนี้ก็เพิ่งเกิดเหตุสลดขึ้น โดยทางสอบสวนกลางเกรงว่า จะเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยได้ ซึ่งทันทีที่ได้รับแจ้ง จึงรีบสั่งการให้ตำรวจกองปราบปราม ซึ่งอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุเข้าตรวจสอบทันที โดยขณะนั้นทางตำรวจ กก.5 บก.ป. กำลังทำกิจกรรมจิตอาสาบริเวณใกล้เคียงอยู่พอดี จนนำมาสู่การระงับเหตุได้ทัน
ชมคลิปนาทีระทึก