วันนี้ (27 ก.ย.) ที่ สภ.เมืองเชียงใหม่ ได้มีนางศรันรัตน์ ขอสงวนนามสกุล อายุ 58 ปี เจ้าของกิจการผู้รับเหมาก่อสร้างรายหนึ่ง นำคลิปและหลักฐานกล้องวงจรปิด ของเทศบาลเมืองแม่เหียะ เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองเชียงใหม่ ว่า เมื่อช่วง 4 ทุ่ม วันที่ 22 ก.ย. ผ่านมา ขณะที่ผู้แจ้งความกำลังเคลียร์งานอยู่ภายในโกดัง บริษัทก่อสร้างในย่านหมู่บ้านท่าข้าม ต.แม่เหียะ ได้มีกลุ่มชายฉกรรจ์ชาวไทใหญ่ ประมาณ 10 คนนั่งรถยนต์กระบะ Toyota สีดำ มาจอดที่หน้าโกดัง จากนั้นได้บุกรุกเข้าไปภายในโกดัง ซึ่งด้านหลังจะเป็นห้องพักของคนงานก่อสร้างชาวไทใหญ่
กลุ่มชายฉกัณฑ์ดังกล่าวได้รุมทำร้ายร่างกาย นายจายน้องฯ และภรรยาของนายจายน้อง ซึ่งเป็นคนงานของตน จนได้รับบาดเจ็บ โดยการกระทำของกลุ่มไทยใหญ่กลุ่มนี้ ถือว่าฮึกเหิมอย่างไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย วันนี้จึงได้ไปขอภาพกล้องจากกล้องวงจรปิด ของเทศบาลเมืองแม่เหียะ ที่บันทึกภาพกลุ่มวัยรุ่นชาวไทยใหญ่ ที่บุกเข้ามาทำร้ายคนงานของตน มาแจ้งความดำเนิน
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังโกดัง สถานที่เกิดเหตุดังกล่าว ผู้เสียหายได้พาผู้สื่อข่าว ไปดูบริเวณสถานที่เกิดเหตุ ที่บริเวณหน้าห้องพักของคนงานชาวไทใหญ่ โดยนางศรันรัตน์ฯ กล่าวว่า ช่วง 4 ทุ่มกว่าตนได้ดูกล้องวงจรปิด บริเวณโกดังแล้วเห็นว่า มีรถมาจอดและมีชายฉกรรณ์นับ 10 คน ยืนเต็มกันที่หน้าโกดัง ตนจึงเข้าไปถามว่า มาทำไม กลุ่มชายฉกรรณ์ก็ยกมือไหว้บอกว่า ตนเองนั้นไม่เกี่ยว
จากนั้นก็เดินกันไปที่ห้องของคนงานตน คือนายจายน้องฯ จากนั้นก็มีการรุมทำร้ายร่างกายกันเกิดขึ้น ซึ่งหากตนไม่อยู่ตรงจุดเกิดเหตุ คาดว่านายจายน้องลูก น้องของตนคงถูกทำร้ายจนตายแน่นอน ตอนนี้ได้ให้คนงานไปหลบอยู่อีกที่ เพราะว่าอีกฝ่ายโทรมาข่มขู่เกรงว่า จะเกิดอันตราย ตอนนี้มาแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยืนยันจะเอาเรื่องกับกลุ่มชายฉกรรณ์ชาวไทใหญ่ ที่มาบุกมีเรื่องในโกดังอย่างถึงที่สุด
ส่วนสาเหตุที่กลุ่มวัยรุ่นไทใหญ่ บุกเข้ามาทำร้ายคนงานก่อสร้าง ถึงในแคมป์ที่พักในโกดังนั้น เนื่องมาจาก เข้าใจผิดกัน ในเรื่องชู้สาวซึ่ง ลูกจ้างชาวไทยใหญ่ 2 คนนั้นได้ให้หลบไปอยู่ที่ปลอดภัยแล้ว เนื่องจากถูกกลุ่มวัยรุ่นไทยใหญ่กลุ่มนั้นข่มขู่ว่าจะกลับมาทำร้ายอีก