สลดซ้ำ! จนท.ป่าไม้ ถูกช้างป่าโป่งน้ำร้อน ทำร้ายจนเสียชีวิตกลางสวนลำไย

วันนี้ (14 ก.ย.) ที่ จ.จันทบุรี เมื่อเวลา 00.40 น. ที่ผ่านมา เกิดเหตุช้างป่าทำร้ายคนเสียชีวิต นับเป็นรายที่ 2 ในรอบเดือน หลังจากเกิดเหตุช้างป่าทำร้ายพระมรณภาพ (อ่านข่าว) โดยกำนัน ต.โป่งน้ำร้อน อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี ได้รับแจ้งว่า เกิดเหตุช้างป่าทำร้ายเจ้าหน้าที่ป่าไม้เสียชีวิต ที่บริเวณสวนลำไย พื้นที่ หมู่ 2 ต.โป่งน้ำร้อน

 

หลังได้รับแจ้ง นายมงคล เลิศพรทิพย์ ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มบริหารงานปกครอง รักษาการแทนนายอำเภอโป่งน้ำร้อน ได้สั่งการให้ นายมานะ มณีเพ็ชร์ ปลัดกลุ่มงานความมั่นคง นำกำลังสมาชิก อส. พร้อมด้วย หัวหน้าเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว , หัวหน้าเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าคลองเครือหวายเฉลิมพระเกียรติ , กำนัน ต.โป่งน้ำร้อน, กำนัน ต.ทับไทร ผู้ใหญ่บ้านพญากำพุธ , จิตอาสาผลักดันช้าง , เจ้าหน้าที่กู้ภัย จันทบุรี ร่วมเดินตรวจสอบที่เกิดเหตุ
 

 

ที่เกิดเหตุบริเวณสวนลำไย พบร่างผู้เสียชีวิต 1 ราย คือ นายสมภพ ศรีงาม อายุ 42 ปี เจ้าหน้าที่ป่าไม้อุทยานคลองเครือหวายเฉลิมพระเกียรติ ตรวจสอบสภาพศพมีบาดแผลที่ถูกช้างทำร้ายตามร่างกายหลายแห่ง และบริเวณที่เกิดเหตุ พบมีรอยเท้า มูลช้าง ตลอดจนร่องรอยการเดินหากินของช้างป่า กระจายไปทั่ว
สอบถามเพื่อนเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ นายสมภพ ผู้ตายพร้อมด้วยเพื่อนเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ได้ออกตรวจลาดตระเวน ตรวจสอบสอบร่องรอยช้างป่าที่เข้ามาหากินในสวนลำไยของราษฎร และมาถูกช้างทำร้ายจนเสียชีวิต ขณะปฏิบัติหน้าที่ 

 

เบื้องต้นคณะเจ้าหน้าที่ป่าไม้คลองเครือหวาย ประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ นำร่างของนายสมภพ ส่งชันสูตรบาดแผลยังโรงพยาบาลโป่งน้ำร้อน และรายงานข้อมูลให้ทางผู้บังคับบัญชา และจังหวัดได้รับทราบ เพื่อนำงบประมาณมาช่วยเหลือเยียวยาครอบครับ และแจ้งให้ญาติมารับศพกลับไปทำพิธีทางศาสนา 

 

 

 

ต่อมาในเวลา 11.00 น. ญาตินายสมภพ และเจ้าหน้าที่ป่าไม้ รวมถึงเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เดินทางไปที่โรงพยาบาลโป่งน้ำร้อน เพื่อรับศพของนายสมภพ เบื้องต้นจะทำการเคลื่อนย้ายร่างผู้เสียชีวิตไปบำเพ็ญกุศลศพ ณ.ตกพรม ต.ตกพรม อ.ขลุง จันทบุรี โดยทีมข่าวสอบถามผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ทั้ง 3 ท่าน ซึ่งหนีตายออกมาได้

 

 

 

 

โดยนายสมอนชัย ศรีราจันทร์ 57 ปี พนักงานพิทักษ์ป่า เล่าว่า ขณะเกิดเหตุมีช้างป่าออกจำนวนสองชุด และได้รับโทรศัพท์จากชาวบ้านว่า มีช้างป่าออก 3 ตัว และหนึ่งตัวแตกฝูงเข้าไปในสวนลำไยของชาวบ้าน ส่วนอีกสองตัวได้แยกไปเข้าป่าอีกทาง ตนพร้อมทีมงานรวมกันทั้งหมดสี่คน ได้เดินทางไปยังสวนลำไยที่เกิดเหตุทันที และพยามสะกดรอยเท้าช้าง แต่เมื่อเดินหาสักพักรอยนั้นหายไป จึงเตรียมตัวที่จะกลับ ระหว่างนั้นได้ยินเสียงช้างวิ่งเข้าใส่ ตจึงส่งสัญญาณให้ทีมงานรู้พร้อมกันว่า ช้างกำลังเข้าชาร์จ ทุกคนต่างวิ่งหนีเอาตัวรอด 

 

สำหรับนายสมภพนั้น ทำงานนานกว่า 13 ปี ผ่านการอบรมฝึกฝนมาอย่างเชี่ยวชาญ ส่วนสาเหตุที่พลาดในครั้งนี้ เพราะมีช้างป่าซุ่มอยู่ และพุ่งเข้าชาร์จในจังหวะเผลอ สำหรับพฤติกรรมของช้างป่าในเขต อ.โป่งน้ำร้อน นั้น ปกติไม่มีนิสัยก้าวร้าว แต่มาพักหลังเริ่มออกหากินใกล้บ้านเรือนประชาชน บางครั้งเข้าไปรื้อหาของกินในบ้านของประชาชนก็มีบ่อยครั้ง

 

ด้านนายชำนาญ ฉิ่งเชิด 52 ปี อาสาเฝ้าระวังช้างป่าอีกคน ระบุว่า ขณะเกิดเหตุมืดมาก ตนไม่มีไฟ คิดอย่างเดียวคือต้องเอาตัวรอดให้ได้ จึงวิ่งหนีมุดเข้าใต้ต้นลำไยจนเอาชีวิตรอดมาได้ 

 

ขณะที่นายตรัยคุณ อุส่าห์รัมย์ 40 ปี สมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบลโป่งน้ำร้อน กล่าวว่า ตนเดินอยู่เป็นคนสุดท้ายห่างจากช้างประมาณซัก 50 เมตร จากนั้นได้ยินเสียงช้างร้อง และเสียงกิ่งไม้ลั่น ต่อมาได้ยินเสียงคล้ายคนทุบสิ่งของบางอย่างหลายครั้งดัง ตุ๊บตุ๊บตุ๊บ และเว้นช่วงประมาณสามถึง 4 วินาที ก็ได้ยินเสียงอีกประมาณสองครั้ง คาดว่า น่าจะเป็นเสียงช้างใช้งวงทุบผู้เสียชีวิต

 

 

 

ผู้อยู่ในเหตุการณ์ช้างป่าทำร้าย จนท.ป่าไม้ เล่านาทีเกิดเหตุ