แม่ช็อก.! ลูกชาย จนท.ทับลาน ถูกช้างป่า “เจ้าละมุด” ทำร้ายจนเสียชีวิต

ความคืบหน้ากรณีที่วันนี้ (12 ก.ย.) เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านา  ช้างป่าที่ชื่อว่า เจ้าละมุด จาก อุทยานแห่งชาติทับลาน ได้ทำร้าย นายอาทิตย์ ผิวงาม เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติทับลานจนเสียชีวิต ขณะเข้าปฏิบัติการผลักดัน ช้างป่า ที่เข้ามาหากินในพื้นที่ของชาวบ้าน ให้ออกจากพื้นที่ บริเวณหมู่ที่ 3 บ้านวังอ้ายป่อง ต.แก่งดินสอ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี (อ่านข่าว)
   

ล่าสุดวันนี้ (12 ก.ย.) จิตอาสาชุดผลักดันช้างป่า บ้านแก่งดินสอ นำโดยนายสุริยะ อุทระภาศ ผู้ใหญ่บ้าน ม.3 บ้านวังอ้ายปล่อง ต.แก่งดินสอ ยังคงค้นหา และผลักดันช้างป่า (เจ้าละมุด) ออกจากพื้นที่หมู่บ้าน เพื่อให้กลับเข้าป่าอุทยานแห่งชาติทับลาน โดยหลังเจ้าละมุดทำร้ายเจ้าหน้าที่อุทยานเสียชีวิต ยังคงเดินวนเวียนอยู่ในพื้นที่ แต่จนถึงขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังหาตัว (เจ้าละมุด) ไม่พบ

ขณะเดียวกัน นายสฤษดิ์ บุตรเนียร ส.ส.พรรคภูมิใจไทย เขต 2 ปราจีนบุรี พร้อมด้วย นายสำราญ อ่อนเจริญ นายก อบต.แก่งดินสอ พร้อมเจ้าหน้าที่ ได้เดินทางไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ และสิ่งที่ไม่คาดคิดคือ (เจ้าละมุด) ได้โผล่ออกมาจากบริเวณจุดเกิดเหตุ จนทำให้เจ้าหน้าที่และจิตอาสา เกิดอาการตกใจ วิ่งหนีเอาตัวรอดไปคนละทิศคนละทาง ก่อนที่เจ้าหน้าที่ชุดผลักดันจะมาถึง พร้อมติดตามผลักดัน (เจ้าละมุด) และแจ้งเตือนชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงให้ระมัดระวัง เพราะอาจถูกเจ้าละมุด ทำร้ายได้

นายสุริยะ อุทระภาศ ผู้ใหญ่บ้าน ม.3 บ้านวังอ้ายปล่อง ต.แก่งดินสอ กล่าวว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา ระหว่างเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการผลักดันอยู่นั้น เจ้าละมุด ได้เกิดอาการเกี้ยวกราด และหลังจากที่ทำร้ายเจ้าหน้าที่แล้ว ก็มีอาการดุร้ายขึ้น อีกทั้งยังมีช้างในฝูง ได้ทำการส่งเสียงร้องอยู่บนเขา จนเสียงดังลั่นป่าเป็นชั่วโมง จนทำให้เจ้าหน้าที่ และจิตอาสา ถึงกับตกใจกลัว เพราะเกรงว่า ช้างจะกลับเข้ามาทำร้ายเจ้าหน้าที่อีก ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องใช้อาวุธปืนยิงลงพื้น เพื่อให้เกิดเสียงดังเป็นระยะ ๆ

สาเหตุที่ เจ้าละมุด เกิดอาการดุร้าย คงจะมีอะไรสักอย่าง เพราะที่ผ่านมา ผมอยู่นี่ ก็ไม่เคยเจอเหตุกาณณ์แบบนี้มาก่อน และเสียงของฝูงช้างที่ส่งเสียงร้องตลอดทั้งคืน และร้องแบบโหยหวน เหมือนกับว่า มีการประกาศศักดา ต้อนรับเจ้าป่า ซึ่งนั่งอาจจะเป็น (เจ้าละมุด)
 

ขณะที่ช่วงบ่ายที่ผ่านมา บรรดาเพื่อน ๆ ของเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ที่เสียชีวิต พร้อมด้วยญาติ ได้เดินทางมาที่โรงพยาบาลนาดี เพื่อมารอรับศพ และนำร่างไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนาที่ วัดวังขอนแดง ต.บุพราหมณ์ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี บรรยากาศเต็มไปด้วยความโคกเศร้า โดยเฉพาะนางจงกล อาจกิจ ผู้เป็นแม่ เนื่องจากผู้เสียชีวิตเป็นลูกชายคนเดียว และเป็นลูกที่กตัญญู

นางจงกล อาจกิจ กล่าวว่า ตนได้โทรคุยกับลูกทุกวัน แต่เมื่อคืนที่ผ่านมา ไม่ได้โทรไปหา เพราะลูกบ่นว่าเหนื่อย เหตุการณ์เมื่อคืนนี้ก็ไม่ใช่เวรของลูกตน แต่ลูกตนได้เข้าไปช่วยทีมเจ้าหน้าที่ทำการผลักดันช้าง ตนทราบแค่ว่า ลูกของตนได้รับบาดเจ็บ จากการเข้าผลักดันช้าง จากการแจ้งของทางเจ้าหน้าที่ ซึ่งทราบว่า ทางเจ้าหน้าที่ไม่กล้าแจ้งให้ตนทราบว่า ลูกของตนนั้นเสียชีวิตแล้ว พอทราบเรื่อง ตนก็ช็อก และตกใจมาก และก็รีบเดินทางมาจากจังหวัดจันทบุรี เพื่อมาหาลูก 

โดยระหว่างทางมีการพูดคุยกับญาติ ๆ กันว่า จะตัดชุดข้าราชการให้ลูกใหม่ แต่ก็ไม่ทันการแล้ว เพราะลูกชายของตนได้เสียชีวิตไปแล้ว ซึ่งรู้สึกภูมิใจกับลูกชายคนนี้มาก อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ ลูกชายของตน เคยได้รับบาดเจ็บ จากการถูกยิง ขณะปฏิบัติหน้าจับกุมกลุ่มลักลอบตัดไม้มาแล้ว เมื่อวันที่ 6 ต.ค 59 ก่อนที่จะมาเป็นเจ้าหน้าที่ผลักดันช้าง ลูกชายของตนก็ทำงานอยู่ในชุดจับกุมของทับลานมาก่อน

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้เคลื่อนย้ายศพไปตั้งบำเพ็ญกุศลศพที่วัดวังขอนแดง โดยจะมีการตั้งบำเพ็ญกุศล ตั้งแต่วันที่ 12 - 15 ก.ย. 65 ซึ่งจะมีการรดน้ำศพ เวลา 14.00 น. และจะมีพิธีฌาปนกิจ ในวันที่ 15 ก.ย. 65 เวลา 14.00 น. ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของผู้เสียชีวิตด้วย