วันนี้ (11 ก.ย.) เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา มีรายงานว่า มีการพบพระภิกษุมรณภาพ กลางลาน วัดสันติวนาราม พื้นหมู่ 10 ตำบลเขาวงกต อำเภอนายายอาม จังหวัดจันทบุรี โดยที่ใกล้กัน พบรอยเท้าของช้างป่าอยู่ทั่วบริเวณ จึงสันนิษฐานว่า พระรูปดังกล่าว อาจถูกช้างป่าทำร้ายจนมรณภาพ
จากนั้นเจ้าหน้าที่ ได้เปิดกล้องวงจรปิดของทางวัดดู ก็พบภาพน่าสลดใจว่า พระภิกษุรูปดังกล่าว ได้ถูกช้างป่าทำร้ายจริงจนมรณภาพ เบื้องต้นทราบชื่อพระภิกษุรูปดัง คือ พระประจญ สุขสิงห์ อายุ 66 ปี เป็นพระลูกวัด
นายประเสริฐทรัพย์ สุขะวิทะ เจ้าหน้าที่ชุดเฝ้าระวังช้างป่าออกนอกพื้นที่ ของอุทยานแห่งชาติเขาชะเมา-เขาวง ระบุว่า ช้างที่ก่อเหตุเมื่อดูจากรอยเท้าคาดว่า ขนาดสูงประมาณ 2.5 เมตร ทั้งนี้ตามปกติ บริเวณวัดที่เกิดเหตุจะมีช้างป่าวนเวียนหากินอยู่ประมาณ 4 - 5 ตัว และอาจมีช้างป่าจรเข้ามาในบางครั้ง ขณะเกิดเหตุคาดว่า พระสมเกียรติน่าจะออกมาเดินภายในบริเวณวัด และพบกับช้างป่าเข้า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างแกะรอยติดตามช้างว่า ไปนอนอยู่ที่ไหน ซึ่งปกติแล้วจะมีการแจ้งเตือนชาวบ้านให้ระมัดระวัง และมีอาสาเฝ้าระวังช้างอยู่ ซึ่งเวลาเหตุุที่เกิดขึ้นกลางดึก ทำให้ไม่มีใครรู้ว่า ช้างอยู่ตรงไหน
ทางด้านผู้เห็นเหตุการณ์อีกหนึ่งคน คือนายอุบล มีจินดา (ลุงต้อย) 63 ปี คนขับรถของวัด เล่าภาพเหตุการณ์ที่เห็นในครั้งแรกว่า ขณะนั้นหลวงตาเปีย นอนคุดคู้อยู่ในสภาพมีผ้าจีวรคลุมอยู่ สภาพศพมีร่องรอยการถูกทำร้ายบริเวณหน้าอกกระดูกหักใบหน้ามีรอยปูดบวม
ลุงต้อย ยังบอกอีกว่า หลวงตาเปีย เพิ่งเดินทางมาจำวัดภายในวัดสันติวนารามแห่งนี้ เพียงแค่พรรษาเดียว แต่ก็ได้เห็นบรรดาโขลงช้างป่า ออกมาหากินอยู่ในบริเวณวัดบ่อยครั้ง และก็ไม่มีท่าทีว่าจะทำร้ายคนหรือชาวบ้านภายในวัด ชาวบ้านบางกลุ่มยังคุยกันอีกว่า เมื่อก่อนมีเจ้าหน้าที่จะมาทำการผลักดันช้าง ที่เข้ามาในวัด แต่ทางหลวงตาเปียไม่อนุญาตให้ผลักดันเจ้าหน้าที่จึงถอนกำลังกลับ
ส่วนที่วัดท่าใต้ ตำบลตะกาดเง้า อำเภอท่าใหม่ ญาติได้จัดเตรียมศาลา สำหรับบำเพ็ญกุศลศพของหลวงตาเปีย โดยมีพิธีรดน้ำศพไปเมื่อเวลา 13.00 น. และจะตั้งศพบำเพ็ญกุศลไว้ 4 คืน และจะทำการฌาปนกิจในวันพฤหัสที่ 15 ก.ย. นี้
เบื้องต้นมี นายจารึก ศรีอ่อน ส.ส. เขต 2 จันทบุรี พรรคพลังท้องถิ่นไท เข้ามาดูแลและมอบเงินช่วยเหลือ ขณะที่ นางสาวรัตนาวดี สุขสิงห์ หรือ เปิ้ล อายุ 39 ปี กล่าวว่า ผู้เสียชีวิตเป็นพ่อของตนเอง โดยบวชมาร่วม 10 ปีแล้ว ปกติท่านเป็นผู้ที่ชอบการปฎิบัติธรรมอยู่แล้ว จึงได้เดินทางไปหาที่สงบเงียบ
เมื่อสอบถามถามว่า หลวงตาเปียได้เรียนวิชาอาคมหรือไม่ ได้รับคำตอบเป็นเสียงหัวเราะ แล้วก็ตอบว่าไม่เคย เพราะท่านปฏิบัติธรรมอย่างเดียว แล้วยังอยากจะฝากบอกถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า ให้ช่วยเข้ามาดูแลปัญหานี้ด้วย เนื่องจากเคยเกิดมาแล้วบ่อยครั้ง
ทางด้านนายจารึก กล่าวว่า ตนได้ติดตามปัญหาช้างป่ามานานแล้ว และได้ยื่นญัตติเข้าสภาพร้อมกับตั้งกรรมาธิการวิสามัญ เข้ามาศึกษาและหาแนวทางในการแก้ไขแล้ว ก็ขอให้ประชาชนรอไปก่อนและในระหว่างรอขอให้ช่วยกันดูแลตัวเองและขอให้เชื่อเจ้าหน้าที่ที่คอยผักดันช้าง
ชมคลิปนาทีสลดช้างทำร้ายพระจนมรณภาพ