
ความคืบหน้ากรณีที่ คนร้ายก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิง ด.ช.วรวุฒิ หรือ ตั้ม อายุ 14 ปี เข้าลำคอ 1 นัด เสียชีวิต และ ด.ช.อัครชัย หรือ ภูมิ อายุ 14 ปี ถูกยิงหลังทะลุหน้าอก 1 นัด บาดเจ็บสาหัส ทั้ง 2 เป็นชาวบ้านสี่แจ ต.ผาสุก อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี เหตุเกิดบริเวณ ถ.มิตรภาพขาออกตัวเมืองอุดรธานี ก่อนถึงจุดกลับรถบ้านหนองผึ้ง ประมาณ 200 เมตร ต.พันดอน อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี เมื่อช่วงค่ำวันที่ 5 ก.ย. ที่ผ่านมา (อ่านข่าว)
ล่าสุดวันนี้ (7 ก.ย.) พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. ลงพื้นที่เกิดเหตุด้วยตัวเอง เพื่อตรวจสอบ และเก็บวัตถุพยานหลักฐาน พร้อมทั้งจำลองเหตุการณ์ โดยมี พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผบก.ภ.จว.อุดรธานี และตำรวจ สภ.กุมภวาปี รวมถึงเจ้าหน้าทีที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันให้ข้อมูลสืบสวนสอบสวน เพื่อติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุ หลังจากนั้นได้เดินทางไปประชุมสรุปข้อมูลร่วมกัน ที่ห้องประชุม ศปก.สภ.กุมภวาปี
โดยจากการสืบสวนหาข้อมมูลในเชิงลึก ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตาย ผู้บาดเจ็บ และกลุ่มเพื่อน ได้จับกลุ่มนั่งเล่นกันอยู่ที่หน้าโรงเรียนบ้านสี่แจ หลังจากนั้นได้ขับรถจักรยานยนต์ออกมาด้วยกัน 2 คัน คันละ 2 คน ผู้เสียชีวิตเป็นคนขับรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ 125 อาร์ สีม่วง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ส่วนรถจักรยานยนต์อีกคันเป็นเพื่อนรุ่นพี่ 2 คน ชื่อใต้และเวฟ อายุ 16 ปี มุ่งหน้าขับสวนเลนมาทาง อ.กุมภวาปี และเมื่อรถวิ่งมาถึงจุดกลับรถบ้านห้วยผึ้ง จุดเกิดเหตุ เพื่อจะใช้เส้นทางแยกบ้านหนองผึ้ง-น้ำฆ้อง ไปเที่ยวเล่นกันที่บ้านน้ำฆ้อง
ส่วนผู้ก่อเหตุ มีข้อมูลว่า เป็นชายไม่ทราบอายุ ขับขี่รถจักรยานยนต์แบบผู้หญิง ไม่ทราบยี่ห้อและทะเบียน สวมเสื้อผ้าสีดำ สวมหมวกกันน็อคเต็มใบ ใช้อาวุธปืน 11 มม. ในการก่อเหตุ โดยที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุน 5 ปลอก หัวกระสุน 1 หัว จากการสอบสวนกลุ่มผู้ตาย และผู้บาดเจ็บ ทราบว่า มีพฤติการณ์จุดประทัด และชอบโยนประทัดลงพื้นถนน รวมทั้งได้ขับสวนเลนมาตามถนนมิตรภาพ ขาเข้าเมืองอุดรธานี
ส่วนผู้ก่อเหตุขับรถจักรยานยนต์มาจาก อ.กุมภวาปี มุ่งหน้าไปทางขาเข้า จ.อุดรธานี ก่อนมาถึงจุดกลับรถ และขับข้ามสวนเลน เพื่อไปที่แยกบ้านหนองผึ้ง-น้ำฆ้อง คาดว่าเป็นจังหวะที่กลุ่มผู้ตาย และผู้บาดเจ็บ ได้ขับมาเจอกับผู้ก่อเหตุ จนเกิดการยิงกันขึ้น ส่วนเพื่อนรุ่นพี่ที่มาด้วยกันได้ขับรถหลบหนีไป ส่วนผู้ก่อเหตุหลบหนีไปทาง ถ.บ้านหนองผึ้ง-น้ำฆ้อง
พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. เปิดเผยว่า การสืบสวนเราได้พยานไปแล้ว 3 ปาก และทราบชนิดและขนาดอาวุธปืนแล้ว ซึ่งจะเป็นหลักฐานสำคัญ ในการระบุตัวผู้ก่อเหตุ ซึ่งจากนี้ไปจะนำมาประกอบกับหลักฐาน จากภาพวงจรปิดตามเส้นทางต่าง ๆ ในพื้นที่ เด็กที่ตายไม่ได้อยู่กับพ่อแม่ ผู้ตายและผู้บาดเจ็บ มีพฤติกรรมคึกคะนอง มีการประกอบประทัด คล้ายกับระเบิดปิงปอง ก่อนเกิดเหตุมีการจุดโยนมาตามทาง แต่ก็ยังไม่มีพยานที่ระบุได้ว่า มีเหตุขัดแย้งมาตามรายทาง ตรงนี้ต้องหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมอีกครั้ง แต่มีแนวโน้มว่า น่าจะเป็นเหตุซึ่งหน้าได้