วันนี้ (27 ส.ค.) ความคืบหน้าสถานการณ์น้ำท่วมจังหวัดลำปาง หลังมีฝนตกหนักต่อเนื่องและเหตุน้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมครอบคลุมหลายพื้นที่ ส่งผลให้ประชาชนที่อาศัยอยู่แนวเขตแม่น้ำวัง เฝ้าระวังน้ำท่วมกันอย่างใจจดจ่อ โดยช่วงค่ำวานนี้ (26 ส.ค.) ประชาชนในเขตตัวเมืองลำปาง ต่างพากันออกไปดูระดับน้ำแม่น้ำวังกันทุกพื้นที่ เนื่องจากมีการแจ้งเตือนจากทางจังหวัดลำปางแจ้งว่า จะมีการปล่อยระบายน้ำจากเขื่อนกิ่วลมลงสู่แม่น้ำวัง ตามหลักเกณฑ์เฝ้าระวังรักษาระดับน้ำในเขื่อนไม่ให้สูงเกินมาตรฐาน เนื่องจากมีน้ำไหลเข้าเขื่อนในอัตรากว่า 600 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที หรือ 2.16 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง
โดยคาดการณ์ว่าจะมีน้ำเข้าสู่เขื่อนเกิน 30 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน ทำให้เกินความจุของเขื่อน ที่ขณะนี้มีปริมาณน้ำ 97.172 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 91.48 % ของความจุเขื่อนกิ่วลม ซึ่งจำเป็นต้องเพิ่มระดับการปล่อยน้ำลงสู่แม่น้ำวังในอัตรา 250-350 ลูกบาศ์กเมตรต่อวินาที โดยจะปรับครั้งละ 20.00 ลูกบาศ์กเมตรต่อวินาที โดยจะทำให้แม่น้ำวังเพิ่มสูงขึ้น และจะส่งผลกระทบต่อพื้นที่ริมตลิ่ง และบริเวณถนนเลียบแม่น้ำวังทั้ง 2 ฝั่งเฝ้าระวัง และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
ส่วนสถานการณ์ปิดถนนหลวงหมายเลข 1 วานนี้ โดยนายรัฐพงษ์ เลิศสุวรรณไพศาล ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงลำปางที่ 1แจ้งสถานการณ์น้ำท่วมผิวจราจร บนทางหลวงหมายเลข 1 ตอน สบปราบ - เกาะคา ระหว่าง กม.689+000 - กม.691+231 (แยกเกาะคา - ด่านชั่งน้ำหนัก) มีน้ำท่วมขัง บริเวณตั้งแต่แยก เกาะคา ถึง ด่านชั่งน้ำหนักเกาะคา ระยะทางกว่า 2 กิโลเมตร ตั้งแต่ช่วงเช้าของวันที่ 26 ส.ค.2565 ส่งผลให้ปิเดส้นทางจราจรชั่วคราว จนถึงช่วงบ่าย ล่าสุดค่ำของวันที่ 26 ส.ค. ระดับน้ำลดลง จึงเปิดใช้เส้นทางตามปกติแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า บริเวณดังกล่าว อยู่ใกล้กับลำเหมืองแม่ปูน ซึ่งเป็นลำเหมืองขนาดใหญ่ที่เชื่อมต่อลำน้ำวัง ผ่านอำเภอเมือง ตำบลชมพู ไปยังอำเภอเกาะคา โดยช่วงนี้เกิดฝนตกหนักติดต่อกัน ส่งผลให้น้ำจากภูเขาและน้ำจากแม่น้ำวังเอ่อล้นทุกพื้นที่ ทะลักเข้าสู่ลำน้ำแม่ปูน ประกอบกับพื้นที่ บ้านแม่ปูนอำเภอเกาะคา เป็นจุดที่น้ำแม่ปูนไหลลงสู่แม่น้ำวัง ไม่ทัน และมีน้ำขังในบริเวณบ้านแม่ปูน จึงเอ่อล้นถึงถนนสายหลัก ทางหลวงหมายเลข 1 ดังกล่าว หากมีฝนตกลงมาต่อเนื่องอีกหลายวันอาจจะเกิดท่วมอีกครั้ง
นายสิทธิชัย จินดาหลวง ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง เผยในที่ประชุมติดตามสถานการณ์น้ำท่วมที่อำเภอแจ้ห่ม ว่า ขณะนี้ทุกฝ่ายต้องตั้งรับสถานการณ์อย่างเต็มที่ เนื่องจากเหตุการณ์น้ำทะลักเอ่อล้นในเขตตัวเมือง ล้วนได้รับอิทธิพลจากน้ำป่าไหลหลากบนที่สูงทุกพื้นที่ ซึ่งก่อนหน้านี้ลำปางมีเขื่อนกิ่วคอหมารับน้ำทางเหนือ และเขื่อนกิ่วลม ที่เป็นเขื่อนขนาดใหญ่รองรับน้ำได้มหาศาล แต่ยังอยู่ในภาวะที่ต้องเร่งระบายน้ำ ดังนั้นทุกพื้นที่ต้องพร้อมรับมือน้ำท่วมในทันที