วันนี้ (13 ส.ค.65) ที่ศาลาการเปรียญ วัดพระนารายณ์วรมหาวิหาร อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายประวัติ นวลศรี อดีตผู้อำนวยการสำนักงานสามัญศึกษาจังหวัดนครราชสีมา พร้อมนายสมัคร ไวยขุนทด อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนสุรนารีวิทยา ในฐานะรองประธานมูลนิธิเพื่อการศึกษาสามัญศึกษาจังหวัดนครราชสีมา ปฏิบัติหน้าที่แทนประธาน ฯ และบุคลากรทางการศึกษา รวมทั้งผู้รอดชีวิตและญาติของผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์โรงแรมรอยัลพลาซ่าโคราช พังถล่มเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2536 หรือ 29 ปี ที่ผ่านมา ได้ร่วมประกอบพิธีถวายภัตตาหารเพลให้กับพระภิกษุสงฆ์และกรวดน้ำอุทิศให้ดวงวิญญาณผู้ล่วงลับรวมทั้งมอบทุนการศึกษาและเกียรติบัตรให้กับนักเรียนที่ได้รับรางวัลจากการแข่งขันคำประพันธ์ระดับชั้น ม.ตัน และ ม.ปลาย จำนวน 8 ทุน และนักเรียนดีเด่น 6 รางวัล เนื่องจากช่วงวิกฤตโควิดแพร่ระบาดเป็นเวลา 2 ปี ที่ผ่านมา ต้องว่างเว้นจากการจัดกิจกรรมต่อเนื่อง บรรดาครูและบุคลากรทางการศึกษาเมื่อพบปะกันได้ทักทายสอบถามสารทุกข์สุขดิบกันอย่างชื่นมื่น
ทั้งนี้ผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว ส่วนใหญ่เสียชีวิตและบางรายด้วยสภาพร่างกายที่สูงวัยและจึงมีปัญหาสุขภาพทำให้เป็นอุปสรรคไม่สามารถเดินทางมาร่วมงานได้ พบผู้รอดชีวิตเพียง 2 ราย ที่มาร่วมงานคือนายลัดทา ชนะภัย อดีต ผอ.รร.บุญวัฒนาและนางปรารถนา ศรีชนะกุล ครูผู้สอน รร.บุญวัฒนา และเป็นรายสุดท้ายที่ยังรับราชการก่อนจะเกษียณในปีนี้
นางปรารถนา เปิดเผยว่า ช่วงนั้นตนอายุ 30 ปี รับราชการอยู่ที่สำนักงานสามัญศึกษาจังหวัดนครราชสีมา ในวันเกิดเหตุปฏิบัติหน้าที่ฝ่ายการศึกษารับผิดชอบการจัดเตรียมสถานที่และบุคลากรรองรับการประชุมผู้บริหารของกรมสามัญศึกษา ขณะเกิดเหตุเวลาประมาณ 10.10 น. เป็นช่วงรับประทานอาหารว่าง ทุกคนได้ยินเสียงดังได้แต่มองหน้าด้วยความตกใจและชั่วเวลาไม่กี่วินาที อาคารโรงแรมได้ถล่มพังลงมาทำให้ติดอยู่ในซากตึกนาน 1 วัน ต้องผจญความมืดมิด ความทรมานจากความเจ็บปวดบาดแผลและเพื่อนครูที่ถูกเศษซากอาคารถล่มทับร่าง จากเสียงร้องขอความช่วยเหลือระงมได้ทยอยสิ้นเสียงเงียบไปทีละราย รู้สึกสะเทือนใจที่สุด เมื่อได้รับการช่วยเหลือออกมาด้วยอาการบาดเจ็บสาหัส ขาทั้งสองข้างหัก กระดูกสันหลังกระทบกระเทือนรวมทั้งจมูกแตก ต้องเข้ารับการรักษาผ่าตัดหลายครั้ง และเข้ารับการฟื้นฟูโดยกายภาพบำบัดกว่าสิบปี เหตุการณ์นี้ยังคงติดอยู่ในความทรงจำไปชั่วชีวิต โดยเฉพาะใน 2 ปีแรกหลังจากเกิดเหตุ มีความกลัวการเข้าไปใช้อาคารที่มีความสูงเกิน 2 ชั้น ปัจจุบันการใช้ชีวิตไม่สามารถเดินเท้าได้เหมือนคนปกติ
ผ่านมา 29 ปี ถือไม่ใช่เหตุการณ์ครั้งสุดท้ายที่เกิดความสูญเสีย โศกนาฏกรรมได้เกิดเหตุขึ้นซ้ำซากหลายครั้ง ทั้งตึกพังถล่ม เพลิงไหม้โรงแรมและสถานบันเทิง เมืองไทยต้องถอดบทเรียนหรือมีแนวทางป้องกันเข้มข้น ตนเข้าใจความรู้สึกของผู้ประสบเหตุบางรายพิการและญาติที่ต้องสูญเสียบุคคลเป็นเสาหลักและเป็นที่รักของครอบครัว มีการฟ้องร้องกันยาวนาน ฝากถึงผู้เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างอาคารขนาดใหญ่ให้มีจิตสำนึกเป็นไปตามมาตรฐาน อย่าหลีกเลี่ยงเพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจต้องมีความเข้มงวดในการควบคุมทุกขั้นตอนและการบำรุงรักษารวมทั้งการเข้าถึงสิทธิประกันภัยต่างๆขอให้กฎหมายในการควบคุมอาคารมีความชัดเจนและลงโทษผู้ที่ปล่อยปละละเลยให้เด็ดขาดให้เข็ดหลาบ
เหตุการณ์โรงแรมรอยัลพลาซ่า อ.เมือง จ.นครราชสีมา โดยเป็นอาคารคอนกรีตความสูง 6 ชั้นได้พังถล่มเมื่อเวลา 10.12 น. วันที่ 13 สิงหาคม 2536 ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนทั้งสิ้น 137 ราย และผู้บาดเจ็บกว่า 300 คน ส่วนใหญ่เป็นข้าราชการครูสังกัดกรมสามัญศึกษา (ชื่อเดิม) ซึ่งเป็นโรงเรียนมัธยมศึกษาในเขตพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ในขณะกำลังนั่งประชุมสัมมนาอยู่ภายในห้องประชุมชั้นล่าง รวมทั้งพนักงานโรงแรม ลูกค้าที่มาใช้บริการห้องพักและห้องประชุมทั้งชาวไทยและต่างชาติ ทุกปีเมื่อถึงวันครบรอบเหตุการณ์ตึกถล่ม ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องจะทำบุญอุทิศส่วนกุศลเป็นประจำทุกปี ส่วนการฟ้องร้องดำเนินคดีต่างๆ ได้สิ้นสุดตามกระบวนการศาลยุติธรรม