svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"กรรมาธิการ" แจง "กัญชาฯ" ไม่ใช่ยาเสพติดแล้ว ขออย่าทำปชช.สับสน

21 ธันวาคม 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ถกมาตรา 4 ร่าง "พ.ร.บ.กัญชาฯ" ส.ส.บางส่วน มองว่า "กรรมาธิการ" ไม่ได้มีการปรับแก้ไขให้เหมาะสมเท่าที่ควร เนื้อความยังกำกวม-สอนให้เกิดการใช้กัญชาที่ไม่มีการควบคุม

21 ธันวาคม 2565 ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ได้มีการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง ต่อเนื่องเข้าสู่การอภิปราย มาตรา 4 ว่าด้วยการกำหนดคำนิยามในความหมายของคำต่าง ๆ ซึ่ง กรรมาธิการ ได้แก้ไขเนื้อหา โดยมีรายละเอียดที่สำคัญ อาทิ คำนิยามของคำว่า ผลิต ที่ได้ตัดคำว่า เพาะ ปลูก สังเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ ออกจากคำนิยาม ทำให้เหลือเพียง การทำ ผสม ปรุง แปรสภาพ สกัด เปลี่ยนรูป รวมถึงการแบ่งบรรจุ และรวมถึงการใช้เพื่อประโยชน์ในครัวเรือ ประกอบอาหาร และเพื่อใช้ปะโยชน์จากราก ลำต้น หรือ เส้นใย 

และได้เพิ่มคำว่า สื่อสารการตลาด ที่ให้หมายรวมถึง การโฆษณา ประชาสัมพันธ์ สร้างข่าว เผยแพร่ข่าวสาร ส่งเสริมการขาย การแสดง หรือการส่งเสริมการขายโดยใช้บุคคล เป็นการเฉพาะ หรือการตลาดในเครือข่ายคอมพิวเตอร์ เพื่อขายสินค้า บริการหรือสร้างภาพลักษณ์

นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ ได้อภิปรายและมีข้อกังวล เนื่องจากไม่แน่ใจว่า พ.ร.บ.ฉบับนี้ จะเจาะจงให้ใช้ทางการแพทย์เท่านั้น หรือเปิดช่องให้ใช้อย่างนันทนาการเสรีหรือไม่ ในส่วนคำนิยามเรื่องประโยชน์ในครัวเรือน ซึ่งเชื่อมโยงกับมาตรา 18 ที่ให้ประชาชาสามารถปลูกได้ไม่เกินครัวเรือนละ 15 ต้น เพื่อใช้ประโยชน์ในครัวเรือน คำถามคือ ประโยชน์ในครัวเรือนคืออะไร โดยในร่าง พ.ร.บ.ได้นิยามไว้ว่า การบริโภคส่วนบุคคล เพื่อดูแลรักษาสุขภาพของตนเอง และบุคคลในครอบครัวที่อาศัยอยู่ อาจเป็นการเปิดช่องให้มีนันทนาการได้

หมายความว่า การบริโภคส่วนบุคคลเป็นการตัดสินใจของตัวบุคคลเอง ขณะที่การใช้กัญชาทางการแพทย์ก็ควรเป็นความเห็นของแพทย์ว่าควรใช้หรือไม่ การใช้ถ้อยคำในนิยามเช่นนี้จึงมีความหละหลวม และเปิดช่องประชาชนที่ปลูกครัวเรือนละไม่เกิน 15 ต้น ให้สามารถใช้งานส่วนบุคคล ซึ่งอาจไม่ใช่การใช้ประโยชน์ทางการแพทย์มาเกี่ยวข้อง

จากนั้น มีสมาชิกอภิปรายต่อเนื่องหลากหลาย โดย ส.ส.พรรคเพื่อไทย บางส่วน อภิปรายว่า พรรคภูมิใจไทย หาเสียงว่าให้ครัวเรือนปลูกได้ 6 ต้น แต่ในร่างกฎหมายขยายเป็น 15 ต้น พร้อมกำหนดนิยามของการขายไว้ว่า จำหน่าย จ่าย แจก หรือ แลกเปลี่ยน เพื่อประโยชน์ทางการค้าหรือให้โดยมีสิ่งตอบแทนหรือประโยชน์อย่างอื่น และให้รวมถึงการมีไว้เพื่อขาย เท่ากับเอาคุกไปให้ประชาชน

ขณะเดียวกันวิถีของชาวบ้านที่อยู่บ้านใกล้ มักจะมาขอกัญชาเพื่อไปปรุงอาหารหาก กรรมาธิการ กำหนดนิยามการขายไว้อาจทำให้มีประชาชนทำผิดกฎหมายได้ อีกทั้งอาจมีการล่อซื้อกัญชาจากเด็กในพื้นที่และนำขึ้นศาลเตี้ย


ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

 

ด้าน กรรมาธิการ ได้ชี้แจงว่า หากมีการพิจารณาอย่างละเอียดจนจบทุกมาตราจะพบว่า แท้จริงแล้วมีการแยกเรื่องของการจดแจ้งกับการขออนุญาตกัญชาเป็น 2 ส่วน โดยการจดแจ้งก็คือการปลูกในครัวเรือน ซึ่งก็คือ ไม่เกิน 15 ต้น นี่คือการปลูกเองใช้เองในครัวเรือนและห้ามมีการขาย ส่วนกรณีการปลูกพืชในการทำธุรกิจ ต้องมีการขออนุญาตอย่างชัดเจน เรื่องนี้เป็นการพูดซ้ำกันหลายครั้ง ยืนยันว่าไม่ใช่ในเรื่องของการสนับสนุน ส่วนการใช้ประโยชน์ในระดับประชาชนนั้นก็ควรมีทุกกลุ่มทุกภาคอย่างพอเหมาะพอควร และไม่ได้ละเลยในการดูแลประชาชน

ส่วนกรณีประกาศกระทรวงสาธารณสุขหลังมีการประกาศใช้ควบคุมการใช้กัญชา ผู้ต้องขังที่มีคดีถึงที่สุด ก็ได้มีการปล่อยตัว โดยมีเหตุผลว่า กัญชาไม่ใช่ยาเสพติดแล้ว ดังนั้นการอภิปรายใหม่อีกครั้ง เป็นการทำให้ประชาชนเกิดความสับสน

ส่วนกรณีที่ยังอยู่ในรายละเอียดกฎหมายยาเสพติดนั้น ก็คือสารสกัดที่มีค่า thc เกิน 0.2% ประเด็นเรื่องที่ถามว่า เหตุใดถึงมีการตัดมาตรา 3 ออกไปนั้น ขณะที่มีการร่างมาตราดังกล่าวก็มีความห่วง หากกระทรวงสาธารณสุข กลับไปใช้ว่ากัญชาเป็นยาเสพติด อย่างน้อยผู้ที่ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับกัญชาอยู่ หรือผู้ที่ปลูกกัญชาตามครัวเรือนอยู่ก็ต้องไม่ใช่ยาเสพติด ซึ่งการตัดในประเด็นดังกล่าวออกไปก็ยังถือว่ากัญชาไม่ใช่ยาเสพติด เพราะความเป็นยาเสพติดนั้นก็คือการใช้สารสกัด

logoline