svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

เปิดเบื้องหลังเตรียมตั้ง “พีระพันธุ์” นั่งเลขาฯนายกฯ

17 ธันวาคม 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

เปิดเบื้องหลังเตรียมตั้ง “พีระพันธุ์” นั่งเลขาฯนายกฯ มีนัยทางการเมืองที่เกี่ยวกับการเข้าร่วมงานกับพรรครวมไทยสร้างชาติของ พล.อ.ประยุทธ์ หรือไม่

ข่าวการเตรียมตั้งนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกฯ และหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี แทน นายดิสทัต โหตระกิตย์ ที่ลาออกไป และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ตั้งให้ไปเป็นที่ปรึกษาแทนนั้น มองได้ว่ามีนัยทางการเมืองที่เกี่ยวกับการเข้าร่วมงานกับพรรครวมไทยสร้างชาติของ พล.อ.ประยุทธ์ อย่างเน่นอน เพราะตำแหน่งเลขาธิการนายกฯ เป็นเหมือนเสนาธิการประจำตัวนายกรัฐมนตรี เป็นเพื่อนคู่คิดมิตรคู่ใจในการขับเคลื่อนงานของรัฐบาล

 

หากพิจารณาตำแหน่งในกลุ่มงานสำนักงานเลขาธิการนายกรัฐมนตรี จะพบข้อเท็จจริง ว่า

 

-ตำแหน่งเลขาธิการนายกฯ และรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ถือเป็นข้าราชการการเมือง

-ตำแหน่งรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายบริหาร จะเป็นข้าราชการประจำ

 

ฉะนั้นในทางกฎหมายถือว่า นายกฯสามารถตั้งหัวหน้าพรรคการเมือง เช่น นายพีระพันธุ์ มาเป็นเลขาธิการนายกฯได้ ไม่ขัดต่อกฎหมาย

โดยคำถามสำคัญคือความเหมาะสมทางการเมืองมากกว่า เนื่องจากว่า 

 

1.รัฐบาลมีเวลาบริหารงานอีกเพียง 3 เดือนเท่านั้น มีความจำเป็นเพียงใดที่จะต้องเปลี่ยนตัวเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ขับเคลื่อนงานหลังบ้านรัฐบาลให้ราบรื่น

2.ที่ผ่านมาไม่ได้มีข่าวใดๆว่าเลขานายกฯคนเดิม คือ นายดิสทัต ทำหน้าที่ไม่ราบรื่น

3.การเปลี่ยนตัวกลางคันช่วงท้ายรัฐบาลมากๆ อาจจะส่งผลทำให้งานขับเคลื่อนหลังบ้านภายในสะดุดหรือไม่ เพราะกว่าบุคคลที่ได้รับการแต่งตั้งใหม่จะเข้าที่เข้าทาง ก็หมดเวลารัฐบาลชุดนี้แล้ว

 

จากเหตุผลทั้ง 3 ข้อ ทำให้มองได้ว่าเป้าหมายการเปลี่ยนตัวเลขาธิการนายกฯ รอบนี้ไม่น่าจะใช่เหตุผลมาช่วยให้งานของสำนักนายกรัฐมนตรีราบรื่น เพราะถ้าอยากให้งานหลังบ้านราบรื่นต่อเนื่องในช่วงเหลืออีกเพียง 3 เดือนก่อนครบวาระรัฐบาล ควรจะต้องใช้คนเดิมทำหน้าที่จนจบ

แต่การเปลี่ยนตัวด้วยการแต่งตั้งหัวหน้าพรรคการเมืองที่มีข่าวว่าโยงใยกับการจะเข้าร่วมสังกัดพรรคของนายกรัฐมนตรี จึงบ่งบอกนัยทางการเมืองอย่างชัดเจนว่า การแต่งตั้งครั้งนี้เป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ทางการเมือง ไม่ใช่ขับเคลื่อนงานรัฐบาล เพราะจะทำให้หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ มีตำแหน่งที่มีความสำคัญมากสำหรับใช้ดึงดูดบุคคลต่างๆเ ข้ามาร่วมงาน

 

เนื่องจากนายพีระพันธุ์ จะเป็นเสมือน “นายกฯน้อย” ทำงานแทนนายกฯ ในการดีลบุคคลทางการเมืองอย่างมีน้ำหนัก นอกจากนั้นคนที่นั่งตำแหน่งนี้จะเข้าร่วมประชุม ครม. ทำให้รับทราบถึงทิศทางความเคลื่อนไหวต่างๆ ทั้งในวาระประชุม แต่ที่สำคัญกว่าคือนอกวาระประชุม เช่น บรรยากาศอย่างไม่เป็นทางการ  การพบปะรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคการเมืองในตำแหน่งรัฐมนตรี ฯลฯ เพื่อประเมินสถานการณ์ทางการเมืองได้ทันเกมยิ่งขึ้น

 

ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อ นายพีระพันธุ์ มาอยู่ใกล้ตัวนายกฯ ตลอดเวลา เปรียบเสมือนเงาติดตามตัว จะยิ่งทำให้สามารถหารือวางแผนงานการเมืองเพื่อขับเคลื่อนได้ตลอดเวลา มีความจำเป็นสำหรับการตัดสินใจทางการเมืองของนายกฯช่วงปลายสมัยรัฐบาล

 

ด้วยเหตุผลทั้งหมดนี้ การดึงหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติมาใกล้ตัว ย่อมหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะถูกมองว่านายกฯประยุทธ์ไปต่อกับรวมไทยสร้างชาติแน่นอน และเป็นการแต่งตั้งเพื่อหวังผลทางการเมืองอย่างชัดเจนที่สุด

logoline