svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"ส.ส." แห่ไขก๊อกมองหาอนาคตเกมบีบ "ประยุทธ์" ยุบสภา? ( มีคลิป )

15 ธันวาคม 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

สถานการณ์ในสภา ที่มี ส.ส. ลาออกกว่า 30 คน แม้ฟากรัฐบาลยืนยันว่า ยังมีเสียงที่มากพอใจการดำเนินงานในสภา แต่ทว่า ก็เป็นสถานการณ์ที่สุ่มเสี่ยงเหลือเกิน หรือว่า นี่เป็นเกมเคลื่อนไหวบีบให้ ประยุทธ์ ต้องตัดสินใจ"ยุบสภา" (ชมคลิป)

 

"รายการคมชัดลึก" ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์เนชั่น ดำเนินรายการโดย "วราวิทย์  ฉิมมณี" เชิญ "รศ.ดร.โอฬาร ถิ่นบางเตียว" อาจารย์ประจำภาควิชารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา "รศ.ดร.พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต" ผอ.หลักสูตรการเมืองและยุทธศาสตร์การพัฒนา  สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) ร่วมกันวิเคราะห์ สถานการณ์  ส.ส.แห่ลาออกเป็นเกมบีบ "ประยุทธ์" ยุบสภาหรือไม่  

 

"ส.ส." แห่ไขก๊อกมองหาอนาคตเกมบีบ "ประยุทธ์" ยุบสภา? ( มีคลิป )

 

37 ส.ส.เตรียมลาออก เปิดตัว"ภูมิใจไทย " 

 

"วราวิทย์  ฉิมมณี" ผู้ดำเนินรายการเปิดฉากกับหนึ่งใน 37 ส.ส.ที่ถูกดูดเข้าพรรคภูมิใจไทย "นายสัมฤทธิ์  แทนทรัพย์" ส.ส.ชัยภูมิ
พรรคพลังประชารัฐ ยอมรับว่า เขียนใบลาออกจากพรรคพลังประชารัฐ 14  ธันวาคม 2565 และจะมีผลในวันพรุ่งนี้ 15 ธันวาคม 2565 เพื่อเตรียมที่จะไปสังกัด"พรรคภูมิใจไทย" ในวันที่ 16 ธันวาคม 2565 ซึ่งเป็นแนวทางที่"พรรคภูมิใจไทย"ได้มีการกำหนดให้มาสมัครพรรคภูมิใจไทย  

 

ส่วนจะบีบให้ "พลเอกประยุทธ์  จันทร์โอชา" ยุบสภา จะเป็นเกมการเมืองหรือไม่ เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ตนเองไม่คิดเช่นนั้นแต่ที่เลือกช่วงเวลานี้ เพราะตามเงื่อนไข สมาชิกพรรคก่อน 90 วัน ซึ่งพรรคภูมิใจไทยวางไว้ เพื่อให้เตรียมลงพื้นที่ และเปิดตัวให้ชัดเจนในช่วงปีใหม่ ซึ่งจะเป็นช่วงเวลาที่จะลงไปพบพี่น้องประชาชน และอีกทาง ก็เป็นสิ่งที่ดี เพราะจะได้มีโอกาสปรับตัวใน 1 เดือนว่าสามารถที่จะเข้ากับนโยบายของพรรคภูมิใจไทยได้หรือไม่ หากไม่ได้ก็ยังมีเวลาไปสังกัดพรรคการเมืองอื่น แต่ก็ถือเป็นทางที่น้อยมาก 

"รศ.ดร.พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต" ผู้อำนวยการหลักสูตรการเมืองและยุทธศาสตร์การพัฒนา  สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า)

 

วัดใจ "บิ๊กตู่" ยุบสภา หลัง 37 ส.ส.ลาออก 

 

"รศ.ดร.พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต" ผู้อำนวยการหลักสูตรการเมืองและยุทธศาสตร์การพัฒนา  สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า)  กล่าวว่า แค่คนลาออก 37 คนไม่สะเทือนจิตใจ"พลเอกประยุทธ์" 
เพราะน้อยเกินไปที่จะไปบีบให้"ยุบสภา" เพราะมี ส.ส.เหลืออีกมาก ซึ่งยังมีเวลาตัดสินใจ หาก"พลเอกประยุทธ์"์ เตรียมการตั้งพรรคใหม่ คงอยากยื้อเวลาเพื่อการเตรียมตัว เพราะขณะนี้ยังไม่มีความได้เปรียบ
 
 

"รศ.ดร.โอฬาร ถิ่นบางเตียว"  อาจารย์ประจำภาควิชารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา  อ่านเกมว่า "พรรคภูมิใจไทย" เร่งเร้าให้ 37 ส.ส.ลาออกมาสังกัด เพราะต้องการบีบเพื่อไม่ให้ "พลเอกประยุทธ์" ตั้งหลักไม่ได้ ในขณะที่ยังแบ่งรับแบ่งสู้ในการไป"พรรครวมไทยสร้างชาติ" เพื่อให้"ภูมิใจไทย" ได้เปรียบมากขึ้นในสนามการเมืองครั้งหน้า แต่"พลเอกประยุทธ์" มีความเชื่อมั่นในตัวเองสูง และต้องการลดความสบประมาท 

 

เรื่องการดำรงวาระนายกรัฐมนตรี ให้ครบ 4 ปี จึงมีความพยายามที่จะไปถึงจุดนั้น แต่จะไปได้หรือไม่ ย่อมขึ้นอยู่กับสถานการณ์ภายในพรรคร่วมรัฐบาล และท่าทีทางการเมืองที่ชัดเจนว่าจะไป"พรรครวมไทยสร้างชาติ" และลึกๆ คืออยากเอาชนะ เพื่อลบคำสบประมาท ไม่ชอบการต่อรอง 

 

วิเคราะห์ 37 ส.ส.ย้ายค่าย ส่อพ่ายศึกเลือกตั้ง 

 

"รศ.ดร.พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต" ผอ.หลักสูตรการเมืองและยุทธศาสตร์การพัฒนา สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) วิเคราะห์ว่า เป็นสถานการณ์ปกติ ที่"พรรคภูมิใจไทย"วางเป้าหมายว่าจะเป็นรัฐบาล จำเป็นต้องสร้างภาพลักษณ์ เพื่อพร้อมเป็นรัฐบาล และมีการทาบทามดึงส.ส.มาสังกัดพรรค และพยายามชู "อนุทิน ชาญวีรกูล"  ขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรี

 

โดยสร้างภาพ และดึง 37 ส.ส.เข้ามาบวกกับของเดิมอีก 50 กว่าเสียง จะเป็นจำนวนเกือบ 90 เสียง มองดูแล้วเป็นภาพใหญ่ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชน แต่จะเหลือรอดกลับมาเท่าไหร่ต้องมองกันยาว

 

"เนื่องจากส่วนใหญ่เป็นส.ส.บัญชีรายชื่อ ไม่ใช่ส.ส.เขต เช่น ส.ส.จากพรรคพลังประชารัฐ ในพื้นที่ กรุงเทพมหานคร มีโอกาสน้อยมากที่จะได้กลับเข้ามา ที่มีโอกาส น่าจะเป็น ภาคกลาง ที่มีการต่อสู้กระสุน ค่อนข้างได้ผล แต่ก็ไม่ง่าย เพราะมีเจ้าที่เดิมอยู่"  

 

กาญจนบุรี พื้นที่เดิมเพื่อไทยจะไปแข่งขันก็ไม่ง่าย  ส่วนเพื่อไทยที่ จังหวัด ศรีษะเกษ  อีสานใต้ อยู่ติดกับบุรีรัมย์  คิดว่าจะสามารถแผ่อิทธิพลไปครอบคลุมได้ แต่ต้องดูภายใต้กระแส ของพรรคเพื่อไทย ซึ่งไม่ง่าย แต่พื้นที่นครราชสีมา หรือ เชียงราย ก็ไม่ง่าย  เพราะตามประวัติคนที่ย้ายพรรคออกจากเพื่อไทยในภาคอีสานมีประวัติสอบตกทั้งนั้น ฉะนั้น บอกเลยว่า ไม่ง่าย แต่ได้ภาพลักษณ์ 

 

"รศ.ดร.โอฬาร ถิ่นบางเตียว"  อาจารย์ประจำภาควิชารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา

 

"รศ.ดร.โอฬาร ถิ่นบางเตียว"  อาจารย์ประจำภาควิชารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา ให้มุมมองว่า 37 ส.ส.ที่ออกไป  แบ่งเป็น 3 ประเภท กลุ่มหนึ่ง ตระกูลการเมืองประจำจังหวัดหรือนักเลือกตั้งประจำจังหวัดที่มีฐานเสียงอยู่แล้ว โอกาสที่จะได้สูง กลุ่มสอง ส.ส.เขต เดิมที่เป็นที่รู้จัก ต้นทุนและกระแสอาจมีโอกาส กลุ่มสาม ส.ส.บัญชีรายการชื่อ ผลพ่วงจากรัฐธรรมนูญปี 2560 อาจไม่ได้เป็น ส.ส.อีก 

 

เท่าที่ประเมิน "ภูมิใจไทย"เต็มที่จะได้ 100 เสียง เพราะวางยุทธศาสตร์ ส.ส.เขต ที่ให้น้ำหนักมากกว่า  ต้นทุนทางสังคมของ"พรรคภูมิใจไทย" ยังไม่เป็นที่ประจักษ์ จากผลโพลล์ที่"พรรคภูมิใจไทย" ยังไม่ได้เป็นที่คาดหวังของประชาชนเท่าไหร่นัก  

 

เปิดสูตร ตั้งรัฐบาล "ตู่-หนู" คนละครึ่ง? 

 

"รศ.ดร.พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต" ผอ.หลักสูตรการเมืองและยุทธศาสตร์การพัฒนา  สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า)   วิเคราะห์ว่า ภายใต้สถานการณ์ปัจจุบัน "พลเอกประยุทธ์" กำลังสร้างเนื้อสร้างตัวกับพรรครวมไทยสร้างชาติ เพื่อให้เป็นพรรคใหญ่ และตั้งเป้า 70 - 80 เสียง เพื่อให้เป็นพรรคลำดับสอง เพื่อสร้างความชอบธรรมในการจัดตั้งรัฐบาล

 

"ส.ส." แห่ไขก๊อกมองหาอนาคตเกมบีบ "ประยุทธ์" ยุบสภา? ( มีคลิป )

สถานการณ์ตอนนี้ หากจะให้เติบโตต้องดึงคนเข้ามา ที่เป็นอดีตส.ส.เกรดเอ บวกกับคะแนนนิยมที่"พลเอกประยุทธ์"มีประมาณ 11-12 เสียง ต้องดึงเสียง 50-60 เสียง แต่ขณะนี้ การเคลื่อนไหว ส.ส.
อยู่กับพลังประชารัฐเหมือนเดิม และไปพรรคภูมิใจไทย มีส.ส.น้อยมากที่ไปกับ "พรรครวมไทยสร้างชาติ"โอกาสที่จะได้ ส.ส.เขตปัจจุบันไม่น่าจะถึง 25 เสียงหรือไม่ ซึ่งหากได้ไม่ถึงก็เสนอเป็นนายกรัฐมนตรีไม่ได้ 

 

ทางเลือกอาจจะเลิกเล่นการเมือง ถ้าไปต่อไม่ไหว อาจไปคุยกับ"พรรคภูมิใจไทย"เพื่อเล่นการเมืองต่อซึ่งพรรคที่จะพึ่งได้ก็ภูมิใจไทย เท่านั้น อาจเสนอให้รวมกันเพื่อลดความเสี่ยง และพรรคภูมิใจไทยจะได้ฐานเสียงของ "พลเอกประยุทธ์" โดยอาจให้เป็นนายกรัฐมนตรี 2 ปี และให้ "อนุทิน"อยู่ต่ออีก 2 ปี เพราะภูมิใจไทยมี"พลเอกประยุทธ์" มาจะได้เสียงของ ส.ว. 250 เสียงด้วย

 

คลิป>>> อ่านเกม ส.ส.ไขก๊อก บีบประยุทธ์ ยุบสภา?

 

logoline