svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"ธนกร"ขอบคุณ 8 ปี"บิ๊กตู่"ทำไทยสู่"Hub EV"ในภูมิภาคอาเซียน

12 พฤศจิกายน 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"ธนกร"ยาหอม"บิ๊กตู่"ขอบคุณผลักดันไทยสู่การเป็น "Hub EV" ในภูมิภาคอาเซียน ชี้สร้างความรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจและอนาคตประเทศ มั่นใจจะชนะเลือกตั้งกลับมาเป็นนายกฯ แซะฝ่ายค้านเลิกทำการเมืองแบบเก่าเน้นแต่วิวาทะแต่ควรหันมาทำประโยชน์ให้ประชาชน

12 พฤศจิกายน 2565 "นายธนกร วังบุญคงชนะ" ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ กล่าวแสดงความยินดีกับ "พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา" นายกรัฐมนตรี ต่อความสำเร็จในการขับเคลื่อนกลยุทธ์ภาพใหญ่ที่มี ภายใต้ "3 แกนหลัก สร้างอนาคต" เพื่อเดินหน้าขับเคลื่อนประเทศ สร้างอนาคตประเทศ โดย 1 ใน 3 แกน จะเกี่ยวกับอุตสาหกรรมยานยนต์และอื่น ๆ ที่เกี่ยวเนื่อง เพื่อเน้นทำให้ไทยเป็น ศูนย์กลางการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมแห่งอนาคตที่สำคัญของโลก

 

"ธนกร"ขอบคุณ 8 ปี"บิ๊กตู่"ทำไทยสู่"Hub EV"ในภูมิภาคอาเซียน

 

ทั้งนี้ เนื่องด้วยทั่วโลกกำลังเปลี่ยนแปลงไปสู่การใช้ยานยนต์ไฟฟ้า ด้วยการล็อกผู้ผลิตยานยนต์ทั่วโลก ให้อยู่ในประเทศไทย เพื่อเพิ่มการลงทุนและขยายธุรกิจในประเทศไทย ขณะนี้มีบริษัทผู้ผลิตรถ EV หลายสัญชาติ ได้ตัดสินใจเข้ามาสร้างโรงงานในประเทศไทย อาทิ BYD บริษัทรถยนต์ EV ที่มียอดอันดับ 1 ของจีน ได้ร่วมทุนกับเอกชนไทยตั้งโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้า และโรงงานผลิตแบตเตอรี่ เพื่อใช้เป็นฐานการผลิตรถยนต์พวงมาลัยขวา เพื่อจำหน่ายในประเทศไทยและส่งออกไปยังภูมิภาคอาเซียน

 

นอกจากนี้ Ford วางแผนใช้ไทยเป็นฐานการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า EV ในภูมิภาคเอเชีย รวมทั้ง บริษัท Mercedes Benz, BMW, MG, GWM, Volt ก็เลือกประเทศไทย เป็นฐานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย โดยตั้งให้ประเทศไทยเป็น Hub ผลิตรถ EV ในอาเซียนด้วย ขณะเดียวกัน ไทยยังมีโรงงานประกอบและผลิตแบตเตอรี่ลิเธียมใหญ่ที่สุดในอาเซียนนั้น ตั้งอยู่ที่ไทยเป็นของบริษัท EA ตั้งอยู่ นิคมอุตสาหกรรม ฉะเชิงเทรา บลูเทค ซิตี้ อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา

 

อีกทั้ง ยังเร่งทำการขยายจำนวนแท่นชาร์ตรถยนต์ไฟฟ้าทั่วประเทศ ซึ่งกระทรวงพลังงานตั้งเป้าปี 2573 ควรมีสถานี 1,394 แห่ง และมีเครื่องอัดประจุไฟรวม 13,251 เครื่อง

นายธนกร กล่าวต่อว่า สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ บีโอไอ ยังได้เปิดเผยสถิติคำขอรับการส่งเสริมการลงทุนในช่วง 9 เดือน ระหว่าง (ม.ค.– ก.ย.) ปี 2565 มีโครงการขอรับการส่งเสริมการลงทุน 1,247 โครงการ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ 8 มูลค่ารวม 439,090 ล้านบาท ขณะที่การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) มีมูลค่ารวม 275,624 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่อยู่ในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV) เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์

 

ทั้งนี้ ซึ่งคาดว่าการลงทุนใน 2 สาขานี้ จะยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และที่ผ่านมาบีโอไอได้อนุมัติโครงการยานยนต์ไฟฟ้าไปแล้ว 26 โครงการ เป็นของ 17 บริษัท คิดเป็นยอดกำลังการผลิตรถไฟฟ้า 830,000 คัน และมีการคาดการณ์ว่าภายในต้นปี 2566 ประเทศไทยจะสามารถทำได้ตามเป้าหมายการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าจำนวน 1 ล้านคัน และภายในปี 2573 รถยนต์พลังงานไฟฟ้าจะมีสัดส่วน 30% ของการผลิตรถยนต์ทั้งหมดของประเทศไทย หรือ 700,000 คันต่อปี

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลได้ผลักดันและส่งเสริมการใช้และผลิตรถยนต์ไฟฟ้าภายในประเทศทั้งมาตรการลดภาษีการนำเข้าของผู้ประกอบการ การลดภาษีสรรพสามิตจาก 8% เหลือ 2% นโยบายเรื่องภาษีรถ EV ของรัฐ รวมถึงการสนับสนุนด้านสิทธิประโยชน์อื่นๆ ที่จะกระตุ้นตลาดให้รถไฟฟ้ามีราคาที่น่าสนใจ ทำให้ประเทศไทยก้าวขึ้นสู่ประเทศชั้นนำของรถ EV ซึ่งต่อไปคือผลักดันการผลิตในประเทศให้เร็วขึ้น

 

นายธนกร กล่าวต่อว่า ส่วนตัวเชื่อมั่นว่า "หนึ่งในสามแกนสร้างอนาคตประเทศ : ด้านอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า" นี้ จะเป็นรากฐานสำคัญที่ช่วยหล่อเลี้ยงอุตสาหกรรมต่างๆ เหมือนเช่นเดียวกับที่อุตสาหกรรมยานยนต์ที่ขับเคลื่อนประเทศผ่านมา ซึ่งจะยังคงช่วยสร้างความมั่งคั่งให้กับเศรษฐกิจและประเทศไทยต่อไปได้ อีกเป็น 20-30 ปีข้างหน้า  

 

"ต้องขอบคุณท่านนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ ที่ตลอด 8 ปีที่ผ่านมา พาประเทศไทยและคนไทย เดินทางมาได้ไกล และก้าวหน้า ด้วยการทำงานอย่างรวดเร็วและจริงจัง ใช้ผลงานสร้างความรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจและอนาคตประเทศแทนคำพูด ไม่ใช่โฆษณาทางการเมืองไปวันๆ ซึ่งในการเลือกตั้งครั้งหน้าหากพล.อ.ประยุทธ์ไปต่อ ผมเชื่อว่าจะได้รับความไว้วางใจจากประชาชนเป็นนายกรัฐมนตรีอีกสมัยอย่างแน่นอน" นายธนกร กล่าว 

 

อย่างไรก็ดี ส่วนตัวอยากให้ฝ่ายค้านได้เข้าใจหันมาแข่งขันกันทำงานให้กับประชาชนดีกว่าการเล่นการเมืองแบบเก่า ที่มักใช้วาทกรรมโจมตีรัฐบาลรายวัน

logoline