"รายการคมชัดลึก" โดย "วราวิทย์ ฉิมมณี" ได้สัมภาษณ์"จตุพร พรหมพันธุ์" แกนนำคณะหลอมรวมประชาชน ซึ่งออกมาเคลื่อนไหวคัดค้านร่างกฎกระทรวงฉบับดังกล่าว และ"ดร.ณัฐวุฒิ วงศ์เนียม" นักกฏหมายมหาชน ที่จะมาให้ความรู้ความเข้าใจเจตนาที่แท้จริงในการออกมติ ครม.เมื่อวันที่ 25 ต.ค.65 แท้ที่จริงเป็นอย่างไรกันแน่
ถกเดือด เปิดต่างชาติซื้อที่ดิน = ขายชาติ ?
"จตุพร" กล่าวว่า ต้องเข้าใจว่าแผ่นดินนี้ไม่ใช่ของ"พล.อ.ประยุทธ์" ที่ไปต่อสู้แล้วได้แผ่นดินมา ไม่ว่าจะปี 45 หรือ 45 ตอนนั้นผูกพันธ์ IMF เราต้องสังเวยด้วยกฎหมายขายชาติ 11 ฉบับ แสดงจดหมายเจตจำนงในเงินแต่ละงวด จนกระทั่งไปใช้หนี้หมดในปี 2546 เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลชวน รัฐบาลทักษิณ ถูกข้อกล่าวหาว่าขายชาติ แต่การไปออกระเบียบอำนาจไว้ที่รัฐมนตรีทุกอย่างก็เป็นไปด้วยความยุ่งยาก เพราะฉะนั้นผมถึงบอกว่าพวกนี้ขายชาติไม่สำเร็จ บรรดาต่างชาติใช้วิธีนอมินีเข้าไปซื้อแทน
สิ่งสำคัญที่สุด ณ วันนี้ในวันที่ประเทศตกต่ำสุด ในวันที่ประเทศชาติเดือดร้อนมากขึ้นแลเห็นว่าอยู่ดีๆจะประชุมเอเปคคุณจะไปเร่ขายระดับโลกหรือไง แต่วันนี้เราต้องยอมรับกันว่าเรากำลังจะเสียดินแดนไปและยากที่จะเอาคืน"พล.อ.ประยุทธ์"จะอยู่กี่ปี ตายไปจะเอาแผ่นดินคืนมาได้ยังไง
ก่อนหน้านี้ BOI ก็ให้เขาไป 35 ไร่ก็เงิน 50 ล้านอยู่แล้ว เช่า 99 ปีกระตุ้นเศรษฐกิจอะไร BOI คนไทยได้อะไร แต่ในวันที่คนไทยสิ้นไร้ไม้ตอกแล้วที่ก็อยู่ในมือทุน อยู่ในมือธนาคารต่างชาติ แล้วก็อยู่ในมือคนจน ผู้บริหารประเทศรับราชการมาตั้งแต่เด็กมรดกพ่อยังรักษาไว้ไม่ได้ เพราะฉะนั้นผมไม่เถียงเรื่องข้อกฎหมาย กฎหมายจะว่ายังไงก็ได้ เพียงแต่ว่าไม่ใช่เรื่องถูกผิดตามกฎหมายแต่เป็นเรื่องมโนธรรมสำนึกของความรักชาติต่างหากเราจะยอมเสียอันนี้ไปมั้ย
"วราวิทย์" อาจารย์ณัฐวุฒิที่คุณจตุพรกังวล เรื่องที่คนไทยถือครองที่ดินยังมีปัญหาอยู่เลยมันไปกระจุกตัวกับคนรวยๆแค่ 1% ของประเทศนี้ ถ้ามีกฎหมายแบบนี้มาเปิดให้ต่างชาติเข้ามาด้วยจะยิ่งไปซ้ำเติมปัญหานี้หรือไม่
"ดร.ณัฐวุฒิ" คือจริงๆคนต่างด้าวที่ถืออสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยเท่าไหร่แล้วจำกัดวงเงินมั้ย พอมากฎกระทรวงฉบับนี้ 40 ล้าน แต่ 40 ล้านเงินที่ถือครองไว้ ที่ดินรวมสิ่งปลูกสร้างหรือไม่อันนี้ก็ยังไม่ชัดเจน แต่ผมมองว่าอะไรก็แล้วแต่ ผมไม่เห็นด้วยการที่จะเสียดินแดนหรืออะไรนะครับ ถ้าหากว่าทำแล้วประเทศชาติได้ประโยชน์ควรจะทำ แต่ถ้าทำแล้วไม่ได้อะไร คุณจะทำเพื่ออะไร แต่ถ้าทำแล้วดี สนับสนุนซึ่งกันและกันโดยเฉพาะประเทศไทยหลังโควิดผ่อนคลายลงก็ต้องมีลักษณะกระตุ้นเศรษฐกิจขึ้นมา แต่การกระตุ้นมีหลายวิธีการเพียงว่าวิธีการเหล่านี้คือเก็บของเก่ามาปัดฝุ่นแล้วจะเสียดินแดนตรงไหน
"วราวิทย์" ถ้าเทียบกับปี 2540 มีเงื่อนไขของ IMF เขาบังคับให้เราออกกฎหมายเยอะแยะเพื่อที่จะได้ดึงดูดนักลงทุนเข้ามา แต่ตอนนี้เงื่อนไขบังคับจำเป็นถึงไม่มีทางเลือกจะต้องมาใช้วิธีนี้เหมือนตอนนั้นหรือ เพราะตอนนั้นออกกฎไปแล้วใช้สิทธิ์อยู่ 8 ราย
"ดร.ณัฐวุฒิ" ต้องดูว่าร่างกฎกระทรวงเขาเอามาเข้ามติครม.มติรับรองหลักการเบื้องต้น แล้วตอนนี้ส่งไปที่กฤษฎีการวมทั้งต้องรับฟังความเห็นของประชาชน ท่านจตุพรออกความเห็นตรงนั้นได้ แล้วความเห็นตรงนั้นกลับมาสู่ครม.อีกครั้ง จะเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบ ผมเชื่อว่ารัฐบาลนี้ฟังเสียงส่วนใหญ่ของประชาชน
"จตุพร" อาจารย์ไปดูโทรทัศน์รายการต่างๆ เวลาเขาทำโพลคนคัดค้าน 95% ทุกช่องทาง คนเห็นด้วย 5% คนเห็นด้วยหนึ่งในห้าคืออาจารย์เนี่ยแหละ
ดร.ณัฐวุฒิ ใช่ผมเห็นด้วยแต่โพลที่ทำทำที่ไหน
จตุพร โทรทัศน์ทุกช่องเป็นคนทำ
"ดร.ณัฐวุฒิ" ผมไม่เชื่อ ท่านลองดูสื่อตอนนี้ประชาชนตอนนี้เริ่มเห็นด้วย เพราะรัฐบาลประชาสัมพันธ์น้อยไป พอชี้ข้อกฎหมายชี้รายละเอียดให้เห็นหูตาสว่างขึ้นเลยครับ ทำไมปี 2551 ท่านจัดรายการความจริงวันนี้ทำไมท่านไม่พูดเรื่องปี 2545 เพราะเรื่องปี 2545 เกิดขึ้นมาก่อน
"จตุพร" ตอบไม่ยาก คือ หมายความว่าอำนาจสุดท้ายมาอยู่ที่รัฐมนตรีในการอนุมัติ และก็ไม่มีรัฐมนตรีหน้าโง่หน้าไหนเขาไปอนุมัติโดยง่ายดาย คือหมายความว่า เป็นกฎกระทรวงที่มันตายโดยสภาพ บีบบังคับจาก IMF ด้วย และเมื่อไม่สำเร็จอำนาจมาอยู่ที่รัฐมนตรีเขาก็ไม่กล้า ดังนั้นเรื่องนี้ก็ไม่ประสบความสำเร็จ
ผมจะไปแหวกหญ้าให้งูตื่นมาได้ไง เวลานี้ คอนโดมิเนียมถ้าคุณอยากมาอยู่ในประเทศไทยก็สามารถอยู่ได้ 49% อยู่แล้วไม่นับนอมินี และที่ดินที่ซื้อโดยนอมินีอาจารย์ลองไปเช็กสภาพพื้นที่ต่างๆ พูดง่ายๆไปซื้อในตลาดมืดเต็มหมดแล้ว ปัญหาเดิมมีอยู่แล้ว ขณะคนไทยไม่มีที่ทำกิน เพราะฉะนั้นผมจะไปโง่ถึงขนาดไปแหวกให้มันดังมาได้ไง เรื่องมันก็เงียบ อำนาจอยู่ที่คน อยู่แล้วคนไทยก็รู้เวลานั้นว่าต่างชาติเข้ามาครอบครอง
ชมคลิป >>>> "ขายชาติ-ขายแผ่นดิน"จริงหรือ