"ก้าวหน้า-ก้าวไกล"แนะจับตาวาระ 2 พ.ร.บ.สุราก้าวหน้าย้ำช่วยฟื้นศก.ชาติได้

31 ตุลาคม 2565 "นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ" ประธานคณะก้าวหน้า พร้อมด้วย "นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์" ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล และ "นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร" ส.ส.กรุงเทพ พรรคก้าวไกล ในฐานะผู้เสนอร่าง พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า จัดงานพบสื่อ และนำเสนอสุราแบรนด์ไทยจากทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทยในหลายประเภท โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป้าหมายการขับเคลื่อนนโยบายสุราก้าวหน้า พร้อมเชิญชวนให้จับตาการผ่านวาระ 2 ในสภาผู้แทนราษฎร

โดยนายธนาธร กล่าวว่า การเสนอนโยบายสุราก้าวหน้า ไม่มีเจตนาแอบแฝงอย่างอื่น ไม่ได้ต้องการส่งเสริมให้คนดื่มสุราเยอะขึ้น แต่ต้องการทลายข้อจำกัดที่ทำให้เกิดการผูกขาดขึ้นในประเทศไทย ข้อจำกัดนี้ กำลังทำให้ภูมิปัญญาพื้นบ้านของไทยตายจากไป 

"ธุรกิจเบียร์ผูกขาดมาตั้งแต่ 2476 ธุรกิจเหล้าขาวผูกขาดมาตั้งแต่ 2528 ทั้งที่ประเทศไทยมีภูมิปัญญาด้านสุรา มีศักยภาพในการทำสุราแข่งกับโลกได้ ไม่แพ้เหล้าชั้นนำในประเทศอื่นๆ แต่ด้วยข้อจำกัดเหล่านี้ จึงทำให้ผู้ประกอบการรายย่อยถูกกีดกันออกไปจากตลาดจนหมด หากข้อจำกัดที่ไม่เป็นธรรมเหล่านี้ถูกทลายลงไป ถ้าไม่มีข้อจำกัดดอกไม้จะบานอีกแค่ไหน" นายธนาธร กล่าว

นายธนาธร กล่าวย้ำว่า กฎหมายสุราก้าวหน้า ทำเพื่ออนาคตที่รุ่งโรจน์ของเกษตรกรไทย เพื่อที่อนาคตประเทศไทยจะไม่มีการผูกขาด มีนวัตกรรม มีสินค้าที่เกิดจากภูมิปัญญาไทยไปสู่ตลาดโลก ซึ่งส่วนแบ่งของตลาดหากถูกแบ่งมาได้แม้เพียง 25% จากที่เป็นอยู่ นั่นหมายถึงเงิน 1 แสนล้านบาท ที่จะเข้าไปอยู่ในมือของเกษตรกร ผู้ประกอบการรายย่อย ลดความเหลื่อมล้ำได้มหาศาล ต่อยอดธุรกิจของตัวเองได้

ขณะที่ นายพิธา กล่าวว่า แม้กฎหมายจะกดทับขนาดนี้ แต่ผู้ประกอบการไทยที่เป็นตัวเล็ก ตัวน้อย ก็ยังไปได้ไกลระดับโลก มูลค่าที่เกิดขึ้นจากสินค้าสุรา รวมทั้งการท่องเที่ยวและเทศกาลที่จะเกิดขึ้นตามมา มูลค่าอาจจะมากกว่าการส่งออกข้าวทั้งปีด้วยซ้ำ

ทั้งนี้ ผลผลิตทางการเกษตรหลายรายการมีราคาขึ้นลงตามกลไก และยิ่งเก็บไว้ในโกดัง ก็ยิ่งมีแต่ราคาลดลง ในทางกลับกันเก็บไว้ในขวดราคามีแต่จะเพิ่มขึ้น การปลดล็อกนี้จะทำให้อำนาจการต่อรองของเกษตรกรไทยทั้งประเทศเพิ่มขึ้น ราคาสินค้าการเกษตรลงเมื่อไหร่ ไม่ต้องเอามาเทหน้ากระทรวงเกษตรอีกแล้ว แต่เอาลงขวดได้เลย

"นโยบายสุราก้าวหน้า จะพลิกฟื้นเศรษฐกิจได้อย่างรวดเร็ว โดยตรง และเป็นธรรมที่สุด เพราะภูมิปัญญาและศักยภาพในการทำสุรามีอยู่ทั่วประเทศ เป็นทั้งเรื่องของผลิตภาพในภาคเกษตร การแปรรูป การส่งออก แก้โจทย์ที่เรื้อรังมานานของทั้งกระทรวงเกษตร กระทรวงอุตสาหกรรม และกระทรวงพานิชย์" นายพิธา กล่าว