"สันติ"มั่นใจพปชร.เลือดไม่ไหลออกยันพรรคยังฟีเวอร์อยู่

11 ตุลาคม 2565 "นายสันติ​ พร้อม​พัฒน์"​ รมช.คลัง ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ​ กล่าวว่า กระแสข่าว ส.ส. บางส่วนเตรียมย้ายออกจากพรรคนั้น​ ข่าวก็เขียนไปอย่างนั้นเอง พรรค​ยังมีความสามัคคีแน่นหนาอยู่​  

ส่วนคนที่มีรายชื่อว่าจะย้ายออกจากพรรคนั้น​ นายสันติ ย้อนถามกลับสื่อมวลชน ว่า "​เรื่องนี้ไม่เห็นมีใครบอก"

สำหรับกระแสข่าว​กลุ่มส.ส.ของ "​นายสุชาติ​ ตันเจริญ​" ส.ส.ฉะเชิงเทรา พรรคพลังประชารัฐ เตรียมย้ายออกจากพรรค​ได้มีการพูดคุยกันหรือไม่ นายสันติ​ กล่าวว่า​ ไม่ได้มีการพูดคุยกันแต่อย่างใด​ พร้อมยืนยันว่าภายในพรรคไม่มีอะไร แค่ใครเอาไปลงข่าวเท่านั้นเอง​ ก่อนที่จะย้ำว่าไม่มีอะไรจริงๆ เนื่องจากได้มีการพูดคุยกันอยู่เป็นประจำ

ส่วนการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) จะมีตำแหน่งแทนโควตาของพรรคพลังประชารัฐที่ว่างลง 2 เก้าอี้หรือไม่นั้น ซึ่งการปรับครม.เป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี ซึ่งภายในพรรคเอง ก็ไม่ได้มีการพูดคุยในประเด็นดังนี้ ก่อนที่จะย้ำอีกครั้งว่าการปรับครม.เป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรี

เมื่อถามย้ำว่า มีความจำเป็นหรือไม่ที่ "พล.อ.ประวิตร​ วงษ์​สุวรรณ"​ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จะต้องไปนั่งในเก้าอี้รมว.มหาดไทย เพื่อเตรียมจัดทัพในการสู้ศึกเลือกตั้ง​ นายสันติ​ ยังย้ำคำเดิมว่า​ การปรับครม.เป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรี ส่วนจะถึงเวลาแล้วหรือไม่ ขอให้ไปถามนายกฯเอง เพราะขณะนี้ ตนและพล.อ.ประวิตร​ ยังไม่ได้พูดคุยถึงกระแสข่าวอะไรภายในพรรค​

ส่วนจำเป็นต้องเรียกส.ส.​ที่มีรายชื่อปรากฏตามหน้าสื่อว่าจะย้ายพรรคเข้ามาหารือหรือไม่นั้น นายสันติ​ กล่าวว่า​ ตนว่า​ส.ส.ของพรรคยังคงยึดมั่นอยู่กับพรรค​ ซึ่งก็เป็นข่าว เวลามีงาน มีการอะไรปกติ และตนเชื่อมั่นในส.ส.ของพรรค​ และไม่ต้องเรียกคุย​ 

เมื่อถามว่า พรรคมีอะไรดีที่ทำให้ส.ส.จะยังคงอยู่กับพรรคพลังประชารัฐ​ นายสันติ​ กล่าวว่า​ พรรคได้ทำประโยชน์และทำงานเพื่อประชาชนมาอย่างจริงจัง​ โดยเฉพาะช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 นโยบายของพรรคก็มีมาก​

สำหรับกระแสพรรคที่ดาวน์ลง จะมีผลต่อการตัดสินใจของลูกพรรคหรือไม่​ นายสันติ รีบปฏิเสธในทันทีพร้อมกับระบุว่า​ ตนเชื่อมั่นว่าไม่ดาวน์​ ซึ่งวันนี้ (11ต.ค.) ตนได้เดินทางไปยังจ.เพชรบูรณ์ ประชาชนก็ยังต้อนรับทั้งพล.อ.ประวิตร ​และ"พล.อ.ประยุทธ์​ จันทร์โอชา" นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นอย่างดี มาต้อนรับกันอย่างมากมาย​ 

ส่วนวาระการดำรงตำแหน่งนายกฯที่เหลือเวลาอีก​ 2 ปี​ จะเป็นเงื่อนไข​ ทำให้เกิดความสับสนในพรรคพลังประชารัฐหรือไม่ว่า จะเสนอใครเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี สู้ศึกเลือกตั้ง นายสันติ กล่าวว่า ขณะนี้ยังมีเวลาอยู่

โดยในช่วงท้ายนายสันติ ยังปฏิเสธการตอบคำถามว่า ขณะนี้กระแสหรือกระสุนอะไรมีความสำคัญมากกว่ากัน ก่อนที่จะเดินเข้ายังเป็นสันติไมตรีในทันที