เมื่อวันที่ 22 ก.ย.65 "นายวิษณุ เครืองาม" รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ประกาศไทม์ไลน์การเลือกตั้งใหญ่ที่จะมีขึ้นในกลางปีหน้า ว่า กกต. มีการกำหนดสถานการณ์ไว้เป็น 2 แบบ คือ 1.รัฐบาลอยู่บริหารราชการแผ่นดินจนครบวาระ 23 มี.ค.66 และ 2.รัฐบาลประกาศยุบสภาก่อน เพื่อจะทำให้รัฐบาลรู้ว่าจะมีแนวดำเนินการอย่างไรต่อไป และจากนั้น กกต. จะต้องดำเนินการอย่างไรต่อไป เพราะหากมีการยุบสภาจะต้องจัดการเลือกตั้งภายใน 45 วัน แต่หากอยู่ครบวาระจะต้องจัดการเลือกตั้งภายใน 60 วัน ซึ่งเป็นการดำเนินการตามปกติไม่มีอะไรใหญ่โต โดยรัฐบาลในอดีตก็ดำเนินการเช่นนี้
ส่วนกรณีที่กกต.ออกประกาศเตือนว่าเหลืออีกกี่วันจะถึงกำหนดการเลือกตั้งเป็นความรอบคอบ ที่ให้แต่ละพรรคการเมืองเตรียมการ โดยก่อนหน้าไม่ต้องเตือน เพราะมีกฎหมายเลือกตั้งอยู่ แต่ขณะนี้กฎหมายเลือกตั้งอยู่ระหว่างการปรับปรุงแก้ไข จึงต้องใช้กฎหมายเลือกตั้งฉบับเดิมไปก่อน ซึ่งอยู่กึ่งกลางกฎหมายฉบับเก่าและฉบับใหม่ จึงจำเป็นต้องออกประกาศเตือนทั้งระเบียบการหาเสียงการใช้เงินในการหาเสียง
ส่วนได้ประสานไปยังกกตเพื่อให้ส่งประกาศนั้นมายังรัฐบาลเพื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษา แต่ กกต. ขอแก้ไขข้อความในประกาศเตือนจึงทำให้ตอนนี้ยังไม่มีการประกาศคู่มือของ กกต.ในราชกิจจานุเบกษา เช่นเดียว กับรัฐมนตรีในรัฐบาลที่ต้องเตรียมตัวหากลงไปดำเนินการในส่วนของพรรคการเมือง จะต้องระวังระวัง เพราะหากมี 2 ตำแหน่งจะต้องทำให้ประชาชนและกกตแยกให้ออกว่าใช้ตำแหน่งใดในการหาเสียงไม่เช่นนั้นจะเกิดการฟ้องร้องตามมา
คลิป >>> วิษณุย้อนเหตุการณ์ยุบสภาในอดีต
ทั้งนี้ หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ "พล.อ.ประยุทธ์" พ้นจากหน้าที่จะยังสามารถรับการรักษาอาการต่อไปได้แต่ไม่ควรทำ ซึ่งสิ่งที่ควรหรือไม่ควรทุกคนก็รู้กันอยู่
ส่วนนายกรัฐมนตรีต้องยุบสภาจะประกาศหรือไม่ประกาศว่าจะยุบสภาก็ได้เพราะในอดีตเคยมีนายกรัฐมนตรี ที่เคยประกาศยุบสภาโดยไม่บอกใครเลย แต่ในบางครั้งก็มีการหารือกับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลเป็นการภายในวงประชุมครม.
คลิป 1 >>>
อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 30 กันยายนนี้ ตามปกติแล้ว ศาลรัฐธรรมนูญ จะวินิจฉัยวาระการดำรงตำแหน่งของพลเอกประยุทธ์ ตามคำขอของฝ่ายค้าน เพราะมีหลักการกำหนดไว้อยู่แล้วว่าศาลจะไม่ตัดสินเกินคำขอ ซึ่งตนมองว่า การวินิจฉัยตามคำขอของฝ่ายค้านก็จะได้ทราบข้อมูลมากพอสมควรแล้ว
ส่วนบรรยากาศบ้านเมืองในขณะนี้จากประสบการณ์มองอย่างไรนั้น นายวิษณุ กล่าวว่าไม่มีอะไรแตกต่าง และไม่ได้กลิ่นเรื่องการเปลี่ยนแปลง