svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

เปิดภาพ "บุญทรง"ออกนอกเรือนจำ "ราชทัณฑ์" แจงมีสิทธิ์ขอลาเพื่อร่วมงานศพได้

20 กันยายน 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"ราชทัณฑ์" แจง กรณี บุญทรง ร่วมพิธีฝังศพมารดา เป็นไปตามระเบียบการลาของนักโทษเด็ดขาด ซึ่งผู้ต้องขังที่มีคุณสมบัติครบตามเกณฑ์ มีสิทธิ์ยื่นขอลาเพื่อร่วมงานศพได้” 

 

เมื่อวันที่ 20 ก.ย.65 เวลา 15.00 น. จากกรณีข่าวที่ "นายบุญทรง เตริยาภิรมย์"  ได้ออกนอกพื้นที่เรือนจำฯ เพื่อไปร่วมพิธีฝังศพนางสุมาลี เตริยาภิรมย์ ซึ่งเป็นมารดาของนายบุญทรง โดยปัจจุบันถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำกลางคลองเปรมนั้น

 

"กรมราชทัณฑ์" ขอเรียนชี้แจงว่า การออกนอกพื้นที่เรือนจำฯ ของ"นายบุญทรงฯ" เพื่อไปร่วมงานศพดังกล่าว เป็นไปอย่างถูกต้องตามพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ พ.ศ.2560 และระเบียบกรมราชทัณฑ์ว่าด้วยการลาของนักโทษเด็ดขาด พ.ศ. 2561 รวมถึงระเบียบกรมราชทัณฑ์ว่าด้วยการลา ของนักโทษเด็ดขาด (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2563 เพื่อให้เป็นการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังอย่างมีมนุษยธรรม เป็นเครื่องจูงใจให้ผู้ต้องขังประพฤติดี อยู่ในระเบียบวินัย เป็นผลดีต่อการปกครองและการบริหารงานของเรือนจำ/ทัณฑสถาน 

 

รวมถึงเป็นการให้โอกาสในการแสดงความกตัญญูและการไว้อาลัยเป็นครั้งสุดท้าย ถึงแม้ "นายบุญทรงฯ" จะอยู่ในความสนใจของประชาชน แต่ก็ไม่ได้ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการ ทั้งยังเป็นนักโทษเด็ดขาดชั้นเยี่ยมและมีคุณสมบัติตามระเบียบที่เกี่ยวข้อง โดยเรือนจำกลางคลองเปรม มีอำนาจในการอนุญาตให้นายบุญทรงฯ ได้ลากิจตามที่ร้องขอ ในระหว่างวันที่ 18 -20 กันยายน 2565 โดยได้ประสานเรือนจำจังหวัดลำพูนและสถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงใหม่ เพื่อประสานการเดินทางไปร่วมพิธีศพได้ โดยมีเจ้าหน้าที่เรือนจำฯ ควบคุมอย่างใกล้ชิด และนำตัวกลับทันทีที่เสร็จภารกิจ

 

เปิดภาพ "บุญทรง"ออกนอกเรือนจำ "ราชทัณฑ์" แจงมีสิทธิ์ขอลาเพื่อร่วมงานศพได้

 

อย่างไรก็ตาม การลาและออกนอกพื้นที่เรือนจำดังกล่าว เป็นประโยชน์ตามพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ พ.ศ.2560 มาตรา 52 เมื่อนักโทษเด็ดขาดคนใดแสดงให้เห็นว่ามีความประพฤติดี ไม่เป็นผู้กระทำผิดวินัยในเรือนจำ มีความอุตสาหะ ความก้าวหน้าในการศึกษา และทำการงานเกิดผลดี หรือทำความชอบแก่ทางราชการเป็นพิเศษ โดยต้องเป็นนักโทษเด็ดขาดชั้นกลางขึ้นไป และไม่ได้กระทำความผิดซึ่งเป็นที่สะเทือนขวัญหรืออยู่ในความสนใจของประชาชน ซึ่งหากได้รับอนุญาตให้ออกไปทำกิจธุระแล้วอาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิดหรือสร้างความสับสนแก่ประชาชนได้ เมื่อมีความจำเป็นเห็นประจักษ์เกี่ยวด้วยกิจธุระสำคัญหรือกิจการในครอบครัวแล้ว อาจได้รับประโยชน์ในการลา แต่ห้ามมิให้ออกไปนอกราชอาณาจักรและต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนด  

 

โดยผู้ต้องขังทุกรายที่มีคุณสมบัติครบถ้วนตามเกณฑ์จะมีสิทธิ์ได้รับการพิจารณาไม่เฉพาะแต่นายบุญทรงเท่านั้น และจะให้สิทธิ์เฉพาะการลาไปร่วมพิธีฌาปนกิจศพผู้ตายที่เป็น บิดา มารดา สามี ภรรยา และบุตรของนักโทษเด็ดขาดเท่านั้น โดยจะต้องมีใบมรณบัตรหรือหนังสือรับรองการตายมาเพื่อพิจารณาร้องขอ ส่วนการพิจารณาว่าจะอนุญาตหรือไม่ จะต้องคำถึงความปลอดภัยของนักโทษเด็ดขาดและเจ้าหน้าที่ผู้ควบคุมเป็นหลัก และต้องมีเจ้าหน้าที่ทำการควบคุมอย่างใกล้ชิดเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายได้

 

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 19 ก.ย.ที่ผ่านมา  ผู้ใช้เฟซบุ๊ก "สราวุฒิ แซ่เตี๋ยว"  โพสต์ภาพ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในรัฐบาลของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ถูกศาลตัดสินจำคุกคดีจำนำข้าว ออกจากเรือนจำมาร่วมงานศพมารดา พร้อมข้อความว่า "ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวเตริยาภิรมย์ที่ได้สูญเสียคุณแม่ อันเป็นที่รักยิ่งด้วยครับ"

 

เปิดภาพ "บุญทรง"ออกนอกเรือนจำ "ราชทัณฑ์" แจงมีสิทธิ์ขอลาเพื่อร่วมงานศพได้

 

ขณะที่ "นายสมศักดิ์ เทพสุทิน"  รมว.ยุติธรรม เปิดเผยภายหลังการประชุมครม.ว่า ไม่ทราบเหตุการณ์"นายบุญทรง"ออกนอกเรือนจำเพื่อไปงานศพมารดา   เป็นอำนาจของกรมราชทัณฑ์  อย่างไรก็ตามคดีของนายบุญทรงยังไม่พ้นโทษ แต่การที่ออกมาเกี่ยวกับงานครอบครัวอาจจะมีการขออนุญาตมา แต่ยังไม่ได้รับรายงาน

 

"กรณีนี้คล้ายกับกรณีนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำนปช. ที่ขออนุญาตปล่อยตัวชั่วคราวเพื่อไปร่วมงานศพของบิดา"  นายสมศักดิ์ กล่าว 

 

เมื่อถามว่า "นายบุญทรง"ขณะนี้มีขั้นตอนการลดโทษหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ไม่ได้รับการลดโทษอะไรทั้งสิ้นในขณะนี้ เป็นไปตามพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ

อนึ่ง "นายบุญทรง เตริยาภิรมย์" ได้รับโทษจากคดีโครงการจำนำข้าว ยุครัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นนักโทษ ชั้นเยี่ยม ศาลพิพากษา ปี 60 กำหนดโทษ 48 ปี ได้รับอภัยโทษ ลดวันต้องโทษ ปี 64 สองรอบ เหลือวันต้องโทษ10 ปี จะพ้นโทษ 21 เม.ย.2571

 

นอกจากนี้ยังมีคดีระบายข้าวจีทูจี-มันเส้น ภาค 2 ที่มีการกล่าวหา"นายบุญทรง เตริยาภิรมย์" อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ร่วมกับบุคคลอื่น 72 ราย มีทั้งข้าราชการ บุคคล นิติบุคคล และรัฐวิสาหกิจต่างชาติที่อ้างว่าเป็นรัฐวิสาหกิจของจีน

logoline