เพิ่ม nation online
ลงในหน้าจอหลักของคุณ
จนเกิดคำถามตามมาจากสังคม ว่าสามารถทำได้หรือไม่ และจากเรื่องนี้ ทำให้ย้อนกลับไปยังกรณีของ "นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ" แกนนำคนเสื้อแดง ที่ได้มาร่วมงานศพบิดาระหว่างถูกจำคุกในเรือนจำพิเศษกรุงเทพ ก่อนมีรายงานข่าวจากกรมราชทัณฑ์ ออกมายืนยันว่า สามารถกระทำได้ตามระเบียบว่าด้วยการลาของนักโทษเด็ดขาด
สำหรับระเบียบกรมราชทัณฑ์ว่าด้วยการลาของนักโทษเด็ดขาด (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2563 แก้ไขโดยให้ยกเลิก ข้อ 6 ระเบียบกรมราชทัณฑ์ว่าด้วยการลาของนักโทษเด็ดขาด พ.ศ. 2561
โดยระเบียบปัจจุบัน กำหนดหลักเกณฑ์ในการลากิจของนักโทษเด็ดขาด (เฉพาะการลาไปประกอบพิธีเกี่ยวกับงานศพ)
ซึ่งแบ่งเป็น 3 ข้อหลัก ประกอบด้วย
1.คุณสมบัติของนักโทษเด็ดขาดที่จะอนุญาตลากิจ
-เป็นนักโทษเด็ดขาดชั้นกลางขึ้นไป
-เป็นผู้มีความประพฤติเรียบร้อย มีความอุตสาหะ ความก้าวหน้าในการศึกษา ทำงานบังเกิดผลดีหรือความชอบแก่ทางราชการเป็นพิเศษ
-ไม่กระทำผิดวินัยในเรือนจำ ระยะเวลาที่ถูกลงโทษต้องผ่าน 5 ปีขึ้นไป นับจากวันที่รับทราบคำสั่งลงโทษ
2.แนวทางการพิจารณาอนุญาตให้นักโทษเด็ดขาดลากิจ
-ให้เฉพาะลาไปร่วมพิธีฌาปนกิจศพ (ฝั่งศพ หรือเผาศพ ฯลฯ) เท่านั้น
-ให้เฉพาะผู้ตายที่เป็น บิดา มารดา สามี ภรรยา และบุตร ของนักโทษเด็ดขาด
-ให้ตรวจสอบเอกสาร หลักฐาน คุณสมบัตของนักโทษที่จะขอลา ดังนี้
** บัตรประชาชนของผู้ยื่นคำร้อง (กรณีญาตินักโทษเด็ดขาดยื่นคำร้อง)
** เอกสารแสดงความสัมพันธ์ระหว่างนักโทษเด็ดขาดกับผู้ตาย
** ใบมรณบัตร หรือหนังสือรับรองการตาย
- ให้คำนึงความปลอดภัยของนักโทษและเจ้าหน้าที่ผู้ควบคุม และต้องพิจารณารายละเอียดอื่นๆ ประกอบด้วย เช่น สถานที่ประกอบพิธีฌาปนกิจ ระยะทาง การเดินทาง อยู่ในจุดอันตรายหรือเสี่ยงต่อการควบคุมหรือไม่
3. ผลการพิจารณา
3.1 ในกรณีผู้ได้รับมอบอำนาจ พิจารณาอนุมัติ
-ให้ผู้บัญชาการเรือนจำ ผู้อำนวยการทัณฑสถาน กำชับเจ้าหน้าที่ให้ควบคุมนักโทษเด็ดขาดอย่างใกล้ชิด และถือปฏิบัติตามระเบียบ ข้อบังคับ ของทางราชการโดยเคร่งครัด อย่าให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการ เมื่อเสร็จภารกิจ ให้เจ้าหน้าที่คุมตัวนักโทษกลับเข้าเรือนจำ หรือทัณฑสถานทันที
3.2 ในกรณีผู้ได้รับมอบอำนาจ พิจารณาอนุมัติ
-ให้ผู้บัญชาการเรือนจำ ผู้อำนวยการทัณฑสถาน มอบหมายเจ้าหน้าที่ชี้แจงนักโทษหรือญาติผู้ยื่นคำร้องทราบ หากนักโทษหรือญาติผู้ยื่นคำร้องมีความประสงค์อุทธรณ์คำสั่งไม่อนุมัติ ให้เรือนจำ ทัณฑสถาน ส่งคำอุทธรณ์และเอกสารรายละเอียดต่างๆ ของนักโทษดังกล่าวพร้อมเสนอความเห็นเกี่ยวกับการลากิจ ไปกรมราชทัณฑ์ เพื่อให้อธิบดีกรมราชทัณฑ์พิจารณาอีกครั้งต่อไป
อย่างไรก็ตาม "นายบุญทรง เตริยาภิรมย์" ศาลมีคำสั่งพิพากษาจำคุก ในปี 2560 โดยกำหนดโทษ 48 ปี แต่มีพระราชกฤษฎีกา พระราชทานอภัยโทษ ในโอกาสวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ 5 ธ.ค. พ.ศ. 2564
ทำให้นายบุญทรง ได้รับอภัยโทษ ลดวันต้องโทษ ปี 64 ในรอบแรก เหลือวันต้องโทษจำคุก 16 ปี ได้รับอภัยโทษ ลดวันต้องโทษ ปี 64 ในรอบสอง เหลือวันต้องโทษ 10 ปี โดยจะพ้นโทษวันที่ 21 เม.ย. 2571